12 hrs – On The (Run)way8

เรื่อง : จิรัชญา นุชมี

ภาพ : ญาณภัทร อมรรัตนโกศล

กรุงเทพมหานคร อีกหนึ่งหมุดหมายเมืองแฟชั่นที่ได้รับความสนใจในระดับสากล
ดีไซเนอร์มากหน้าหลายตา และผู้มีอิทธิพลในวงการแฟชั่นมากมายมารวมตัวกันโดยได้มีการนัดหมาย อีเวนต์สำคัญที่สุดสำหรับดีไซเนอร์ไทยที่จะได้อวดผลงานของตนเอง

พื้นที่ซึ่งเปิดให้ดีไซเนอร์รุ่นใหม่และรุ่นเก๋าได้มาพบปะพูดคุยกัน
ภาพคุ้นชินในงานที่เกิดขึ้นทุกปีของคนวงการแฟชั่นไทย ทำให้ความอยากรู้อยากเห็นอย่างรุนแรงเกิดขึ้นในตัวผู้เขียน

ประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นของ 12 ชั่วโมงก่อนรันเวย์เริ่ม จะเป็นอย่างไร … ?

ในช่วงกลางเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คือช่วงที่วงการแฟชั่นกำลังร้อนระอุ เพราะเป็นเวลาที่อีเวนต์น่าจับตามองแห่งปีอย่าง Fashion Week ในฤดูกาล Fall / Winter Collection จัดขึ้นในหลายเมืองแฟชั่นทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น นิวยอร์ค มิลาน ปารีส และลอนดอน

ประเทศไทย มีธรรมเนียมการจัดงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับชาวแฟชั่นเช่นกัน โดยปีนี้คือ BIFW2023 (Bangkok International Fashion Week 2023) ที่ถูกจัดขึ้นวันที่ 5 – 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ ลาน พาร์ค พารากอน ห้างสรรพสินค้าพารากอน ซึ่งปีนี้มีการนำเสนอเรื่อง ความยั่งยืน เป็นธีมหลักที่แจกจ่ายให้ดีไซเนอร์ได้ไปออกแบบแบรนด์ของพวกเขาให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ ซึ่งหลายแบรนด์นำเสนอเสื้อผ้าออกมาในรูปแบบของ เครื่องแต่งกายที่สวย เก๋ ใหม่ สามารถแต่งได้ทุกวัน หรือที่เรียกว่า เสื้อผ้าที่ไม่สนับสนุน fast fashion (เสื้อผ้าตามกระแสที่เน้นสวมใส่เพียงไม่กี่ครั้ง) เสื้อผ้า casual wear (ชุดลำลอง) และ creative formal wear (ชุดสุภาพที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์อันลงตัว)

โดยแบรนด์ใหญ่ที่เข้าร่วมในปีนี้ได้แก่ issue , VATANIKA , Kloset , Absolute Siam x HOLY NUMBER x 789, Leisure Projects , NAGARA , MOO , Greyhound Original , Painkiller Atelier , Fri27Nov , Tube Gallery , FLYNOW ซึ่งทุกแบรนด์มีเอกลักษณ์ในการสรรสร้างเสื้อผ้าและโชว์ออกมาอย่างพิถีพิถัน

ผู้เขียนได้รับโอกาสจากดีไซเนอร์ CEO แบรนด์ issue อย่าง โรจน์ ภูภวิศ กฤตพลนารา ให้ร่วมสังเกตการณ์การทำงานในงาน BIFW2023 ตั้งแต่เช้าจนค่ำ

ภาพบรรยากาศบนรันเวย์อันน่าตื่นเต้นที่ผู้ชมเห็นเป็นผลลัพธ์ กว่าจะมาออกมาเป็น 1 โชว์ ใน 12 ชั่วโมงก่อนถึงเวลาโชว์จริง เกิดอะไรขึ้นบ้าง

โรจน์ ภูภวิศ กฤตพลนารา เจ้าของแบรนด์ Issue และเหล่านางแบบชั้นนำ ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม และ เจสซี่ กิระณา ชิวเทอร์ รองอันดับหนึ่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023

ภาพการซ้อมเดินฟินาเล่ ของเหล่านางแบบ นายแบบ และโรจน์ ภูภวิศ กฤตพลนารา

10:00 น.– 9 ชั่วโมงก่อนโชว์

เวลานัดพบระหว่าง นางแบบ นายแบบ สไตลิสต์ และทีมผู้กำกับออกแบบโชว์ โดยเป็นการเริ่มทำงานอย่างจริงจัง ทั้งพูดคุยและอธิบายบล็อกกิ้งในการเดินแบบ รวมไปถึงการซ้อมแพทเทิร์นเส้นทางการเดินบนรันเวย์ และเพราะ แต่ละแบรนด์จะมีเวลาในการซ้อมโชว์ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ฉะนั้น การพูดคุยของผู้ออกแบบโชว์ ดีไซเนอร์ สไตลิสต์ จึงต้องคุยให้ชัดเจน

แล้วภาพที่ผู้เขียนเห็นก็ทำให้อดหัวเราะไม่อยู่ ก็คือการถกที่เหมือนการทะเลาะกันในงานระหว่างป้าตือและทีม ป้าตือ หรือ สมบัษร ถิระสาโรช คือออร์กาไนเซอร์มือหนึ่งของไทย ผู้เนรมิตรรันเวย์ให้ลุกเป็นไฟมาทุกปี ป้าตือคือคนที่ในวงการแฟชั่นจะเลือกมาเป็นผู้ช่วยดูแลการทำโชว์อยู่เสมอ รวมถึงสไตลิสต์ชื่อดังอย่าง สัญชัย จิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล Style Director(สไตลิสต์) ของนิตยสาร Vogue Thailand การพูดคุยประสาการทำงานกับทีมกำกับโชว์ทำให้บรรยากาศการซ้อมมีสีสันมาก

วยความที่แต่ละโชว์มีงานสร้างและการออกแบบไม่เหมือนกัน ทำให้ต้องซ้อมบล็อคกิ้งบนรันเวย์เป็นพิเศษเพื่อให้ตอนรอบจริงมีปัญหาน้อยที่สุด มีการกำชับนายแบบนางแบบอย่างชัดเจนเพื่อให้ไม่มีข้อผิดพลาด และมีการเปลี่ยนบล็อคกิ้งได้เสมอหากผู้ออกแบบโชว์มองแล้วว่าจะไม่สมบูรณ์ การซ้อมคิวถ่ายภาพหน้าสื่อ ระหว่าง ตากล้องหลักของแบรนด์ ดีไซเนอร์ นายแบบ นางแบบเป็นขั้นตอนสุดท้าย ของการซ้อม ทั้งนี้ ทุกอย่างต้องเสร็จก่อนเวลา 11 โมง เพื่อให้แบรนด์ถัดไปได้เข้ามาซ้อมต่อ หลังจากการกำชับและการซ้อมครั้งสุดท้าย เหล่านายแบบและนางแบบถูกมอบหมายให้กลับไปห้องแต่งตัวเพื่อทานข้าว พักผ่อน แต่งหน้า แต่งตัว เตรียมพร้อมสำหรับโชว์ใหญ่ในค่ำคืนนี้ และการนัดหมายสุดท้ายกับเวลาซ้อมใหญ่

15:00 น. – 4 ชั่วโมงก่อนโชว์

ช่วงเวลาที่ทีมกำกับนัดหมายให้นายแบบและนางแบบแต่งหน้า แต่งตัว รวมไปถึงดูความเหมาะสมของเสื้อผ้าที่ได้รับมอบหมาย และถ่ายภาพเพื่อนำรูปหรือวีดีโอไปประชาสัมพันธ์

ภาพการเดินเปิดโชว์ของ issue

โรจน์ และเหล่านางแบบผู้เดินเปิดโชว์ issue

19:00 น. – 10 นาทีก่อนโชว์

ถึงแม้ว่าตามตารางจะแจ้งว่าเวลาในการเริ่มงานคือหนึ่งทุ่มตรง แต่เพราะระหว่างนั้นคนยังเข้างานไม่เรียบร้อย การลงทะเบียนที่ล่าช้าทำให้เวลาไม่เป็นไปตามตาราง ป้าตือ หรือผู้กำกับรันเวย์เริ่มเร่งให้งานเริ่มขึ้นเสียที

ผู้เขียนและเพื่อนช่างภาพที่มาด้วยกันแยกกัน โดยมีการส่งบรีฟให้กันเล็กน้อยเพื่อเลือกมุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพออกมา

ตัวนายแบบและนางแบบเข้าเตรียมตัวด้านหลังรันเวย์อย่างใจจดใจจ่อเพื่อเริ่มการเดินโชว์แรก ผู้เขียนรู้สึกโชคดีมากที่ได้มีโอกาสรับชมทั้งรอบซ้อมและโชว์จริง เพราะทั้งสองรูปแบบแตกต่างกัน เมื่อเดินจริง การแสดงของนางแบบ นายแบบ ที่ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงความเป๊ะเท่าตอนซ้อมรอบแรก สร้างความแปลกใหม่และสร้างประสบการณ์ที่สนุกสนาน ความธรรมชาติทำให้โชว์สนุกขึ้น

ปีนี้ โชว์ของ issue มาในคอนเสปท์ ผัสสะ คือการสัมผัสผ่าน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ โดยเสื้อผ้าถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์ เพลง background ที่จ้างวงดนตรีไทยอีสานมาแสดงสด ๆ โดยไม่ได้เปิดแผ่น สร้างความสนุกสนานให้ทั้งกับนายแบบ นางแบบ และผู้ชม ผู้เขียนมีความสุขและสนุกมากที่ได้ดูเสื้อผ้าแบรนด์ไทย ที่อนุรักษ์ความเป็นไทยเอาไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ

ขณะที่การแสดงดำเนินไปอย่างดี ตรงข้ามกับรันเวย์จะมี ป้าตือ ผู้ออกแบบการเดินยืนกำกับนายแบบและนางแบบอยู่หลังคอนโซล เปิดเพลง เพื่อความมั่นใจว่าการแสดงที่ออกมาจะยอดเยี่ยมที่สุด

ในระหว่างที่ผู้เขียนรับชมการแสดงในรอบจริง ก็ได้แต่คิดว่านี่มันคนละเรื่องกับรอบซ้อมเลย การแสดงบนรันเวย์เมื่อมีเสื้อผ้าและการแต่งหน้าแต่งตามาช่วยเสริม ทำให้พลังของนายแบบและนางแบบเพิ่มมากขึ้นไปอีก อีกทั้งปัจจัยภายนอก อย่างผู้ชมที่มากขึ้นและความตั้งใจในการรับชมโชว์ ทำให้พลังของโชว์มีพลังขึ้นมามากกว่าเดิม เป็นความสุขในฐานะผู้ชมที่รู้สึกคุ้มค่าและเล็งเห็นถึงความมหัศจรรย์ของการมีแฟชั่นโชว์

ลูกเกด เมทินี ซุปเปอร์โมเดลตัวแม่กับโชว์ issue

นางแบบสุดว้าว สำหรับชุดตาข่าย โชว์ความสนุกสนาน

นายแบบหนุ่มกับกางเกงในเอกลักษณ์ของแบรนด์ issue

เจสซี่ กิระณา ชิวเทอร์ รองอันดับหนึ่ง Miss Universe 2023 ในชุดเดรสคอลเลคชั่นล่าสุด

กร PROXIE กับเสื้อยืดคอลเลคชั่นล่าสุด

ภีม วสุ 789 TRAINEE กับเสื้อเชิ้ตและสูทคอลเลคชั่นล่าสุด

นางแบบสาวพลัสไซส์กับเดรสคอลเลคชั่นล่าสุด

โม จิรัชยา Miss Tiffany’s Universe 2016 กับ Tank Top ในคอลเลคชั่นล่าสุด

การสร้างแรงกระเพื่อมอีกครั้งของแฟชั่นโชว์คือการนำเสนอนายแบบและนางแบบที่หลากหลาย ซึ่งการทำงานกับคนมากและมีบุคลิกที่แตกต่างกัน จำเป็นอย่างมากที่ต้องมีเสื้อผ้าและการจัดวางการเดินที่เหมาะสม ซึ่งผู้เขียนมีความประทับใจต่อโชว์ในครั้งนี้ที่มี wow factor ให้ได้เห็นตลอดทั้งโชว์ ทั้งการเปิดโชว์ด้วยความเบาสบายดุจสายน้ำสร้างความผ่อนคลายให้ผู้ชม ถัดมากับการเดินเปิดเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ด้วยเด็กรุ่นใหม่ ค่อยๆ ไล่ระดับอายุมาสู่ความเป็นวัยรุ่น ตลอดจนความเป็นผู้ใหญ่ เมื่อจบเซ็ตแรกก็ต่อด้วยเซ็ตที่สองที่นำเสนอเรื่องความหลากหลาย ดนตรีประกอบเค้าคลอสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้ชม หนักเบาตามเสื้อผ้าที่นำเสนอ และจบโชว์อย่างสวยงามด้วยดนตรีโปงลางหมอลำผสมผสานกับดนตรีป๊อปร็อคเหมาะกับความความม่วนชาวไทย เหล่านางแบบนายแบบออกมาเต้นกันบนรันเวย์ และปิดท้ายด้วยการมอบดอกไม้แสดงความยินดีแก่ดีไซนเนอร์

วง PROXIE และการเซิ้งฟินาเล่ในโชว์ issue

การถ่ายภาพร่วมกันของเหล่านายแบบนางแบบที่เข้าร่วมโชว์

การมอบดอกไม้แสดงความยินดีกับแฟชั่นโชว์

ถึงแม้ว่าโชว์บนรันเวย์ไม่ได้มีระยะเวลามากนัก แต่ระยะเวลาการเตรียมตัวและเตรียมงานมีความยาวนานและกว่าที่องค์ประกอบต่างๆจะมาหลอมรวมกันได้ลงตัวต้องผ่านกระบวนการความคิดของหลายฝ่าย การถกเถียงกันเพื่อนำมาสู่ผลสำเร็จที่เห็นตรง เบื้องหลังการทำงานก่อนรันเวย์ที่ทีมงานมีเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงแต่ต้องเนรมิตโชว์ให้ออกมาตามความต้องการของแบรนด์มากที่สุด การจัดไฟที่มีเวลาซ้อมไม่มากนักแต่ต้องสมบูรณ์แบบ การติดตั้งเครื่องประดับที่ถึงแม้จะใช้แค่ระยะเวลาสั้นๆแต่ก็จำเป็นต่อโชว์ การออกแบบแพทเทิร์นการเดินที่ต้องสร้างความน่าจดจำ สปิริทนายแบบนางแบบในการตื่นมาซ้อมต้องจดจำและนำเสนอให้เสื้อผ้าและโชว์ออกมาอย่างดี น่าดึงดูด

จากประสบการณ์การชมแฟชั่นโชว์ในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การนำเสนอผลงานเสื้อผ้าของดีไซนเนอร์ที่ต้องการบอกเล่าตัวตนของตนเอง แต่เป็นความต้องการเล่าเรื่องผ่านเสื้อผ้าและการนำเสนอของโชว์ หากเปรียบให้เห็นภาพอย่างง่ายคือเหมือนการได้ดูละครเวทีของดีไซนเนอร์เป็นผู้เขียน ที่มีการชูเสื้อผ้าเป็นหลัก และเชิญชวนให้ผู้ชมมีความต้องการอยากไปซื้อเสื้อผ้าแบบนั้นมาใส่เพื่อสร้างเรื่องราวในเวอร์ชั่นของตนเอง