Art & CultureWritings

พัฒนาการของชุดชั้นในกับลายลูกไม้ที่อยู่คู่กัน

เขียน: จิระกานต์ วรรณธะสุข

ภาพประกอบ: อชิรญา ปินะสา

ทุกตู้เสื้อผ้าของผู้หญิงต้องมี ‘อาวุธลับ’ ชิ้นนี้ มันคือสิ่งที่ช่วยพยุงความมั่นใจ ทำให้เสื้อผ้าดูดีขึ้นอย่างเหลือเชื่อ แต่มันก็แลกมาด้วยความอึดอัดที่เกิดขึ้นระหว่างวัน สิ่งที่สวมไว้ใต้เสื้อผ้าสร้างความสวยงามจากภายในที่ส่งผลไปถึงภายนอก ถึงเวลาแล้วที่เราจะพูดถึงสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนมีร่วมกัน และเป็นสิ่งแรกที่เราจะปลดปล่อยตัวเองออกจากการพันธนาการเมื่อกลับถึงบ้าน

‘ชุดชั้นใน’ คือสิ่งที่ผู้เขียนกำลังพูดถึง ในอดีตชุดชั้นในเคยเป็น สัญลักษณ์ของความสวยงามบนความอึดอัดและทรมานของผู้หญิง โดยเฉพาะคอร์เซ็ตที่รัดแน่นจนหายใจลำบาก แม้ในปัจจุบันที่ชุดชั้นในถูกพัฒนาให้สวมใส่สบายขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นแบบมีโครงหรือแบบไร้โครง ผู้หญิงทุกคนก็ยังสวมใส่กันเป็นประจำ แต่เคยสงสัยกันไหมว่า

แล้วกว่าจะเป็นชุดชั้นในแบบที่เราเห็นกันในวันนี้ ชุดชั้นในมีพัฒนาการมาอย่างไร?

ชุดชั้นในแม้จะอยู่ภายใต้เสื้อผ้าของผู้สวมใส่ แต่ก็สามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวเองได้ ผ่านการเลือกรูปแบบและลวดลายของชุดชั้นในที่จะสวมใส่ แต่กว่าจะมีชุดชั้นในแบบที่เราคุ้นตากันในทุกวันนี้ ชุดชั้นในต้องผ่านการพัฒนามาหลายรูปแบบ ทั้งนี้ข้อสันนิษฐานหนึ่งเชื่อว่าชุดชั้นในปรากฏครั้งแรกในยุคกรีก-โรมัน โดยในบทละครของอริสโตฟาเนส เรื่อง “ลีซิสตราตา” ปรากฏฉากที่พูดถึงผ้ารัดหน้าอก แต่หลักฐานที่ชัดเจนมากที่สุดคือยกทรงผ้าลินินโบราณอายุประมาณ 585 ปีหรือตรงกับช่วง ค.ศ.1440 ที่ถูกค้นพบในออสเตรีย ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับชุดชั้นในทุกวันนี้อย่างมาก

ขอบคุณรูปภาพจาก https://groundcontrolth.com/blogs/28

ต่อมาในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance) มีสิ่งประดิษฐ์ที่ยังเป็นที่รู้จักหรือเรียกว่าเป็นบรรพบุรุษของชุดชั้นในที่เราคุ้นเคยกันในทุกวันนี้ นั่นคือ “คอร์เซ็ต (Corset)”  แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปิดปังหรือโอบรัดหน้าอกผู้หญิง แต่คอร์เช็ตเป็นหนึ่งในชุดชั้นในที่ผู้หญิงนิยมใส่กัน หลักฐานของ “คอร์เซ็ต” ที่เก่าแก่ที่สุดถูกพบในช่วงศตวรรษที่ 14 และมีการใช้งานมาอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 20 อย่างไรก็ตามคอร์เซ็ตเริ่มกลายมาเป็นชุดชั้นในสำหรับผู้หญิงอย่างแพร่หลายในช่วงศตวรรษที่ 16

ภาพ คอร์เซ็ต โดย Maison Léoty, French (1891) จาก The Met museum ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.silpa-mag.com/history/article_121486

คอร์เซ็ตมีลักษณะเป็นเครื่องสวมแนบลำตัวเพื่อสร้างทรวดทรงโครงเว้าให้กับผู้หญิง แล้วจึงสวมเสื้อผ้าทับ ทำให้ผู้หญิงในยุคนั้นมีมาตรฐานความงามที่ต้องสะโพกผายและเอวคอดกิ่ว การรัดแน่นเพื่อสร้างทรวดทรงนี้เองที่ทำให้คอร์เซ็ตเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของ ‘ความสวยงามที่อึดอัด’ เพราะมันนำมาซึ่งความเจ็บปวดและความทรมาน ทั้งการหายใจลำบาก และแรงกดทับต่อร่างกาย

คอร์เซ็ตยังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับรูปลักษณ์ของหน้าอก เนื่องจากเมื่อรัดบริเวณเอวจะเกิดแรงดันที่ช่วยยกกระชับหน้าอกให้ได้รูปทรง โดยจะสวมใส่ไว้ใต้เสื้อผ้าชั้นนอก ลักษณะการใช้งานแบบนี้จึงทำให้คอร์เซ็ตทำหน้าที่คล้ายกับชุดชั้นในโดยปริยาย

หลังจากนั้น ในช่วงปี ค.ศ.1913 ชุดชั้นในตัวแรกก็ได้ถือกำเนิดขึ้นจากการนำผ้าเช็ดหน้าสองผืนและริบบิ้นมาตัดเย็บให้กลายเป็นชุดชั้นใน แม้ชุดชั้นในตัวแรกจะไม่ได้เสริมสรีระและทำให้เอวคอดกิ่วเหมือนกับคอร์เซ็ต แต่ชุดชั้นในนี้มอบความสะดวกสบายและคล่องตัวให้แก่ผู้สวมใส่มากกว่าเดิม ซึ่งสิ่งนี้เองที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นและนำไปสู่การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย หนึ่งในนั้นคือ Backless Brassiere (บราเซียร์แบบเปิดหลัง) แบรนด์ชุดชั้นในที่ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1914

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของชุดชั้นในเกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มจากในสหรัฐอเมริกาที่คณะอุตสาหกรรมสงครามแห่งสหรัฐอเมริกาขอความร่วมมือให้ผู้หญิงเลิกซื้อและเลิกใส่คอร์เซ็ต เพราะต้องการโลหะมาทำอาวุธสงคราม อีกทั้งในช่วงสงครามผู้หญิงเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและต้องออกมาทำงานนอกบ้าน การใส่คอร์เซ็ตที่สวยงามแต่เจ็บปวดจึงหายไป เหลือไว้เพียงชุดชั้นในที่สวมใส่เพื่อความคล่องตัวมากขึ้น และเมื่อสงครามจบลงแล้ว การใส่ชุดชั้นในจึงกลายเป็นเรื่องปกติและคอร์เซ็ตก็เลือนหายไป

เมื่อการใส่ชุดชั้นในเป็นเรื่องปกติ ทว่าค่านิยมทางสังคมที่ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกยังคงอยู่เสมอ ‘ความสวยงาม’ จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้หญิงจำนวนมากยังคงให้ความสนใจและคำนึงถึงในการเลือกสวมใส่สิ่งเหล่านี้ ลวดลายของชุดชั้นในจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงเลือกที่จะสวมใส่บราตัวนั้น และหนึ่งในวัสดุที่มาพร้อมลวดลายอันอ่อนช้อยและได้รับความนิยมเสมอมาตั้งแต่มีการคิดค้นชุดชั้นในคือ ‘ลูกไม้’ (Lace)

ลูกไม้ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 16 หรือตั้งแต่ช่วงที่ผู้หญิงนิยมใส่คอร์เซ็ต แต่ในขณะนั้นลูกไม้มีใช้แค่ในราชสำนักยุโรป โดยจะใช้ร่วมกับผ้าลินิน ผ้าไหม หรือผ้าฝ้าย ทั้งนี้ความต้องการใส่ลูกไม้ลงในเสื้อผ้าในขณะนั้นมีมากจนราชสำนักต้องออกกฎให้มีเพียงชนชั้นสูงและเชื้อพระวงศ์เท่านั้นที่สามารถใส่ลูกไม้ได้ อีกทั้งลูกไม้ก็หายากมากขึ้น เนื่องจากมีกฎห้ามนำเข้าจากประเทศอื่น

ในอดีต ความหายากและความหรูหราทำให้ลูกไม้เป็นที่นิยมอย่างสูง แม้ในปัจจุบันจะหาได้ง่ายและมีลวดลายแบบใหม่เกิดขึ้นมากมาย แต่การออกแบบโดยใช้ลูกไม้ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้หญิงหลายคน และจัดเป็นลวดลายที่ไม่ตกยุคในโลกของชุดชั้นในเสมอมา

แล้วเหตุใดการใช้ลูกไม้มาตกแต่งจึงยังไม่ตกยุคในโลกของชุดชั้นใน?

นอกจากภาพจำในอดีตที่ชุดชั้นในลายลูกไม้จะเกี่ยวข้องกับความหรูหราแล้ว เนื้อสัมผัสและลวดลายของลูกไม้ยังทำให้ผู้ที่สวมใส่รู้สึกถึงความหรูหราได้เช่นเดียวกัน ชารอน เฮเวอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นได้กล่าวถึงเสน่ห์นี้ไว้ว่า “ลูกไม้จะมีเสน่ห์โรแมนติกและอ่อนหวานในแบบผู้หญิงอยู่เสมอ ถึงแม้จะดูเปิดเผยแต่ก็ปกปิดไว้อย่างบางเบา เนื้อผ้าและประเภทของลูกไม้เสริมให้ชุดชั้นในดูไร้เดียงสา ยั่วยวน สง่างาม หรือน่าทะนุถนอม”

อีกเหตุผลสำคัญที่ชุดชั้นในลายลูกไม้ยังคงเป็นที่นิยมคงหนีไม่พ้นความเซ็กซี่เย้ายวน ด้วยเนื้อผ้าที่กึ่งโปร่งใสและมีลายปักทำให้น่าค้นหา สร้างจินตนาการให้ผู้ที่มองมา และยังสื่อถึงความเป็นผู้หญิงชั้นสูงก็ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้สวมใส่ หรือใส่แล้วรู้สึกสวยขึ้นจากข้างในนั่นเอง

นอกจากนี้การเลือกใส่ชุดชั้นในลายลูกไม้แต่ละสีก็สามารถสะท้อนถึงตัวตนของผู้ใส่ได้อย่างชัดเจน แม้จะเป็นลายลูกไม้เหมือนกันแต่กลับสื่อสารอารมณ์และความรู้สึกได้แตกต่างกัน เช่น ชุดชั้นในสีแดงให้ความรู้สึกเร่าร้อน มั่นใจ สีดำให้ความรู้สึกลึกลับ เซ็กซี่แบบผู้ใหญ่ สีขาวให้ความรู้สึกนุ่มนวล บริสุทธิ์ อ่อนหวาน การเลือกสีจึงทำให้บุคลิกของผู้สวมใส่แตกต่างกันได้ และเมื่อสีมารวมกับลายลูกไม้ที่มีคอนเซ็ปต์เซ็กซี่ที่แอบเปิดเผยแต่ก็ปกปิด จึงสร้างความรู้สึกน่าค้นหาและสร้างความดึงดูดให้กับชุดชั้นในลายลูกไม้ได้มากกว่าชุดชั้นในลายอื่น

อีกทั้งสื่อในปัจจุบันก็ยิ่งสร้างภาพจำให้กับชุดชั้นในลายลูกไม้ ให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเซ็กซี่ โดยเฉพาะในโฆษณาที่มักจะพูดถึงแง่มุมทางเพศมากกว่าลวดลาย จนกลายเป็นสิ่งที่ติดอยู่ในหัวคนในสังคมไปโดยปริยาย อย่างไรก็ตามภาพจำทางเพศที่สังคมยึดติดไว้กับชุดชั้นในลายลูกไม้ไม่ควรเป็นตัวกำหนดทางเลือกของเรา

บทสรุปของการเดินทางทางประวัติศาสตร์ของชุดชั้นในคือการเปลี่ยนผ่านจากสิ่งที่สร้าง ‘ความสวยงามที่อึดอัด’ ในอดีต มาเป็นเครื่องมือเสริม ‘ความมั่นใจและเสรีภาพ’ ในปัจจุบัน จากสิ่งที่สร้างความสวยงามที่อึดอัดตามค่านิยมในอดีตอย่างคอร์เซ็ต มาสู่ชุดชั้นในแบบปัจจุบันที่มอบอิสระให้ผู้หญิงมากขึ้น และถึงแม้ว่าสื่อและค่านิยมทางสังคมจะยังคงยึดติดภาพจำของชุดชั้นในลูกไม้เข้ากับเรื่องเพศอยู่เสมอ  แต่สิ่งที่ผู้หญิงทุกคนไม่ควรมองข้ามคือการเลือกชุดชั้นในเพื่อความสุขของตัวเอง

การเลือกสวมใส่เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ แสดงออกอย่างที่เราต้องการเป็น ไม่ได้หมายความว่าเราต้องเลือกเสื้อผ้าเพื่อให้ใครประทับใจ การเลือกชุดชั้นในแบบที่เราชอบ แม้จะเป็นเพียงก้าวเล็ก ๆ แต่นี่คือความสุขเล็ก ๆ ที่นำไปสู่ความมั่นใจและความสุขที่ยิ่งใหญ่ในภายหน้าได้


รายการอ้างอิง

กฤษฏิญา ไชยศรี. (2022). History of Bra: ประวัติศาสตร์ฉบับย่อของสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า ‘ยกทรง’ ที่มา

พร้อมการเมืองเรื่อง ‘หัวนม’. สืบค้นจาก https://www.silpa-mag.com/history/article_121486.

ปดิวลดา บวรศักดิ์. (2023). “ชุดชั้นใน” หรือ “บรา” จากสินค้าช่วยเหลือสงคราม-แฟชั่นฮอลลีวูด สู่สิ่งที่

หลายคนขาดไม่ได้ !. สืบค้นจาก https://www.silpa-mag.com/history/article_121486.

Lisa Fogarty. (2016). The Ever-Shifting Symbolism of Lace. สืบค้นจาก

https://www.racked.com/2016/10/10/13017212/lace-symbolism

Mark Pyne. (2024). Why Men & Women find lingerie Sexy?. สืบค้นจาก

https://www.tuttirouge.com/blogs/blog/why-men-women-find-lingerie-sexy?srsltid=AfmBOorTXqTZKs8zAyU0_9FPvOKpTedPNT4mvUxndtrw1GO1MSDzlabW

Mike R. (2022). Why Lace Lingerie Is A Timeless Trend. สืบค้นจาก

https://dcfashionweek.org/why-lace-lingerie-is-a-timeless-trend/

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
0
Love รักเลย
0
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0
Writings

Original Character: เรื่องราวตัวละครต้นฉบับของ 9 ผู้สร้างสรรค์

เรื่องและภาพ:  วรัชยา สุริยะพันธุ์  ในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เหล่า ‘สายผลิต’ ซึ่งเป็นศัพท์สแลงที่ใช้เรียกกลุ่มนักเขียน นักวาดและนักทำงานฝีมืออิสระต่างตั้งตารอมาออกบูธในงาน ‘Comic Avenue’ อีเวนต์เกี่ยวกับหนังสือการ์ตูนและอนิเมะที่เปิดพื้นที่ให้กลุ่มนักวาดและนักทำงานฝีมือซื้อขายผลงานและพบปะกลุ่มศิลปินด้วยกันเอง รวมทั้งแฟนคลับที่ติดตามพวกเขาผ่านโซเชียลมีเดีย หรือกับลูกค้าจรที่เดินผ่านมาและสะดุดตาผลงานของพวกเขาจนสนใจซื้อสินค้าของผู้ออกบูธกลับบ้านไปด้วย หนึ่งในสีสันที่ทำให้งานนี้แตกต่างจากงานอื่นคือการปรากฏตัวของกลุ่มตัวละครที่เรียกว่า ‘Original Character’ หรือตัวละครต้นฉบับของเหล่าศิลปินที่ได้รับการสร้างสรรค์ตั้งแต่รูปร่างหน้าตา ประวัติของตัวละครไปจนถึงโลกที่ตัวละครอาศัยอยู่ หลายครั้งตัวละครเหล่านั้นถูกนำไปผลิตเป็นสินค้ามากมายเพื่อวางขายในงานเช่น Comic Avenue แม้บางครั้งจะไม่ได้รายได้มากก็ตาม  Varasarn Press จะพาไปพบกับเรื่องราวจากปลายปากกาศิลปิน ...

Writings

ในเมื่อไม่มีอะไรเป็นต้นฉบับอีกต่อไป เรายังต้องเคารพต้นฉบับอยู่ไหม?

เขียน: ปานชีวา ถนอมวงศ์ ภาพประกอบ: ภัชราพรรณ ภูเงิน “ไม่มีอะไรเป็นต้นฉบับที่แท้จริงหรอก จงขโมยจากอะไรก็ตามที่สะท้อนถึงแรงบันดาลใจ หรือจุดประกายจินตนาการของคุณ และเลือกขโมยแค่จากสิ่งที่สื่อสารกับจิตวิญญาณอย่างตรงไปตรงมา ถ้าคุณทำตามนี้ ผลงาน (และการขโมย) ของคุณก็จะเป็นของแท้ ความจริงแท้เป็นสิ่งที่ล้ำค่า ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ไม่มีจริง ...

Writings

‘ปล่อยวาง’ พูดง่าย แต่ทำยาก?: การปล่อยวางกับสังคมในยุคปัจจุบันจากมุมมองของนักวิชาการ

เขียน: แพรพิไล เนตรงาม ภาพ: ภัชราพรรณ ภูเงิน เคยรู้สึกเหนื่อยไหมที่ต้องพยายามทำหรือควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามที่ใจต้องการ? ในสังคมที่เร่งรีบและมีการแข่งขันสูง คนเราอาจเคยพบเจอความสัมพันธ์ที่ไม่สมหวัง ไม่ผ่านสัมภาษณ์งาน มีหน้าที่ที่ต้องดูแลคนในครอบครัว หรือแม้แต่ความผิดที่เคยก่อยังคงวนเวียนอยู่ในใจไม่จางหาย เราคาดหวัง เราโกรธ เราโลภ ...

Writings

Queen of Arts and Crafts พระพันปี ผู้ฟื้นฟูศิลปะไทย

เขียน: กองบรรณาธิการวารสารเพรส ภาพประกอบ: สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนนานับประการ และหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นและเป็นที่จดจำอย่างมากคือพระราชปณิธานในการฟื้นฟูศิลปะและวัฒนธรรมไทย จนได้รับการยกย่องให้เป็น ‘Queen of Arts and ...

Writings

จากศูนย์สู่เซียน(?): จะเป็นอย่างไรเมื่อธรรมศาสตร์สอนพระเครื่อง

เขียน: วรัชยา สุริยะพันธุ์ ภาพประกอบ: ภัชราพรรณ ภูเงิน   จากกรณีถกเถียงของสองเซียนพระเครื่องชื่อดัง บอย ท่าพระจันทร์ และ โอ๊ต บางเเพ เรื่องมาตรฐานการพิจารณาพระเครื่องจริง-ปลอมของ เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ปี 2508 ปลุกกระแสให้วงการพระเครื่องกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง มีกลุ่มผู้สนใจพระเครื่องรุ่นใหม่ที่ต้องการหาความรู้ก่อนเข้าวงการเป็นจำนวนมาก เห็นได้จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับพระเครื่องในกลุ่มเฟซบุ๊ก ผู้ชื่นชอบพระเครื่องและเพจเซียนพระ สถาบันเสริมศึกษาฯ หรือ TU NEXT แหล่งรวมหลักสูตรออนไลน์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ...

Writings

ศิลปิน VS AI : ศิลปินผู้สร้างดนตรีจะทำอย่างไร เมื่อ AI (อาจ) แต่งเพลงสื่อสารทางใจแทนมนุษย์ด้วยกันได้

เรื่องและภาพประกอบ: เปรมชนก พฤกษ์พัฒนรักษ์ วันนี้ วันที่ 25 ตุลาคม เป็นวันศิลปินนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเชิดชูศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานผ่านศิลปะทุกแขนงทั่วโลก ทว่าในปัจจุบันทุกๆ วงการ ไม่เว้นวงการศิลปะทางดนตรี กลับถูกปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วงชิงพื้นที่การประกอบอาชีพ ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save