เขียน: จิระกานต์ วรรณธะสุข
ภาพประกอบ: อชิรญา ปินะสา

“ติ๋มอย่าทิ้งเค้า”
“ได้หมดเค้าตามใจติ๋ม”
“ตัวแม่แพ้ทรงติ๋ม”
ที่กล่าวมาคือประโยคสุดฮิตที่วัยรุ่น Gen Z คงเคยเห็นผ่านตากันมาบ้างไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มใดก็ตาม ทั้งใน TikTok, X (Twitter เดิม), หรือแม้แต่เว็บบอร์ดเก่าอย่าง DekD ก็ยังมีคนตั้งกระทู้คุยกันเรื่อง ‘ทรงติ๋ม’ แล้วทำไมต้องเป็น ‘ทรงติ๋ม’
ส่วนหนึ่งของเทรนด์ดังกล่าวน่าจะมาจากการที่ ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น 3 (Hormones 3 The Final Season) กลับมามีกระแสในโลกออนไลน์อีกครั้ง จากฉากของตัวละคร ‘ส้มส้ม’ (แสดงโดย แพรว-นฤภรกมล ฉายแสง) กับ ‘พละ’ (แสดงโดย สกาย-วงศ์รวี นทีธร) ซึ่งบุคลิกของตัวละครมีลักษณะที่ตรงข้ามกัน โดยส้มส้มจะเป็นผู้หญิงที่มีความเปิดเผย มั่นใจในตัวเอง หรือเป็นลักษณะของคนที่เราเรียกกันว่า ‘ตัวแม่’ ส่วนพละดูเป็นผู้ชายพูดน้อย เรียบร้อย ดูซื่อๆ หรือที่เราเรียกกันว่า ‘ทรงติ๋ม’ ซึ่งแม้ซีรีส์เรื่องนี้จะฉายจบไปหลายปีแล้ว แต่การกลับมาเป็นที่พูดถึงในครั้งนี้ ทำให้เกิดกระแสในโลกออนไลน์ที่มีคนแสดงตัวว่าชอบ ‘ทรงติ๋ม’ เหมือนกับที่ตัวละคร ‘ส้มส้ม’ ชอบ ‘พละ’
แล้วทรงติ๋มคืออะไร?
คำว่า ‘ติ๋ม’ มักจะใช้กับผู้ชายเป็นส่วนมาก แม้จะไม่มีที่มาที่แน่ชัด แต่โดยทั่วไปคนไทยเข้าใจตรงกันว่า ‘ติ๋ม’ หมายถึงคนที่มีบุคลิกเรียบร้อย อ่อนต่อโลก พูดน้อย หรือดูเชยๆ คล้ายกับภาพลักษณ์ของ ‘เด็กเนิร์ด’ ซึ่งมาจากภาษาอังกฤษคำว่า ‘Nerd’ มักใช้เรียกคนที่หมกมุ่นอยู่กับการเรียนหรือการศึกษาความรู้เฉพาะทางในด้านที่ตัวเองสนใจ มีบุคลิกลักษณะเงียบ ขี้อาย และไม่ค่อยมีทักษะทางสังคม โดยภาพลักษณ์ของเด็กเนิร์ดที่มักปรากฏในสื่อ เช่น นักเรียนตั้งใจเรียน ใส่แว่น เสื้อเชิ้ตเรียบๆ ไม่แต่งตัวฉูดฉาด และไม่ค่อยโดดเด่นทางสังคม หรือก็คือ ‘ติ๋ม’ ในบริบทภาษาไทยนั่นเอง
แม้รูปลักษณ์ภายนอกและบุคลิกของทรงติ๋มยังคงเหมือนเดิม แต่ปฏิกิริยาจากสังคมรอบข้างนั้นต่างไปจากเดิม ผู้คนมากมายออกมาประกาศตัวในโลกออนไลน์ว่าชอบทรงติ๋ม ส่วนมากจะเป็นผู้ใช้แพลตฟอร์ม TikTok ที่มีเนื้อหาเป็นแบบวิดีโอ โดยสิ่งที่บ่งบอกว่าคนเหล่านี้ชอบทรงติ๋มมีทั้งจากเนื้อหาในวิดีโอ คำบรรยายวิดีโอ และคอมเมนต์ เช่น “ติ๋มมานี่มา”, “ฝอมาตั้งนานพึ่งรู้ว่าชอบทรงติ๋ม”, “ก็ติ๋มมันน่ารักหนิ” เป็นต้น นอกจากนี้ในแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับทรงติ๋มที่คล้ายกัน ทำให้รับรู้ได้ว่าตอนนี้ทรงติ๋มกำลังเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากในโลกออนไลน์
จาก ‘คำล้อเลียน’ สู่ ‘คำชม’ : ภาพจำของติ๋มในอดีต
แม้ทรงติ๋มที่เป็นที่ชื่นชอบในปัจจุบันแต่ในอดีต ‘ติ๋ม’ คือคำที่ใช้เพื่อล้อเลียน ซึ่งพี (นามสมมุติ) หนุ่มติ๋มใส่แว่นให้สัมภาษณ์ว่า ด้วยบุคลิกของเขาที่ดูซื่อๆ ประกอบกับลักษณะภายนอกตอนใส่แว่นที่ดูเหมือนเด็กหน้าห้อง ทำให้เขาเข้าข่ายเป็น ‘ทรงติ๋ม’ ซึ่งเขาโดนเรียกว่าติ๋มมาตั้งแต่เด็ก แต่ ณ ขณะนั้นคำว่าติ๋มเป็นการเรียกในเชิงลบเพราะเขาไม่เคยมีแฟน และใส่แว่น นอกจากนั้นยังเคยโดนเรียกว่า ‘โนบิตะ’ เพราะตัวละครดังกล่าวใส่แว่นและมีบุคลิกที่เป็นมิตร เรียบร้อย ซื่อบื้อ หรือก็คือติ๋มนั่นเอง
ในปัจจุบัน คำว่าติ๋มกลับกลายเป็นคำชื่นชมแทนการล้อเลียน โดยพีให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้รู้สึกแย่กับคำว่าติ๋มเหมือนแต่ก่อน อีกทั้งคำว่าติ๋มที่โดนเรียกในปัจจุบันกลายเป็นคำเรียกในเชิงบวกแทน กลายเป็นคนที่ดูน่ารัก น่าเอ็นดู โดยพีเสริมว่ามักมีคนเข้าหาตอนใส่แว่นมากกว่าตอนไม่ใส่แว่นเพราะดูเป็นคนตั้งใจเรียน ฉลาด และในช่วงหลังมีตัวแม่เข้าหาจากที่ไม่เคยมีมาก่อน อาจจะเป็นเพราะกระแสของวลี ‘ตัวแม่แพ้ทรงติ๋ม’ ที่เป็นกระแสอยู่
แล้วตัวแม่ล่ะคืออะไร?
‘ตัวแม่’ คือ คนที่เป็นที่สุดในด้านใดด้านหนึ่ง หรือเป็นคำชื่นชมว่าเก่ง (Thai PBS, 2565) ดังนั้นตัวแม่จึงมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและมีความมั่นใจสูง ในโลกออนไลน์ ตัวแม่จะมีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูแรง เหวี่ยง ทำให้ตัวแม่ในปัจจุบันเป็นผู้หญิงที่ดูแรง โดดเด่น และมั่นใจในตัวเองสูง
เมื่อประกอบกับเทรนด์ในปัจจุบันทำให้ภาพของตัวแม่มักจะมาพร้อมกับวลี ‘ตัวแม่แพ้ทรงติ๋ม’ เมื่อสัมภาษณ์ตัวแม่ จิ (นามสมมุติ) สาวสายฝอลุคแรงๆ แต่แพ้ทรงติ๋มใส่แว่น ถึงเหตุผลที่ชอบทรงติ๋ม ได้คำตอบกลับมาว่า เพราะทรงติ๋มมีความน่ารักและดูปลอดภัย แต่ก่อนก็ชอบผู้ชายที่มีบุคลิกภายนอกดูเป็นแบดบอยหรือมีสไตล์ที่คล้ายกันแต่ก็ผิดหวังกับผู้ชายประเภทนั้นมาเยอะ ทำให้ในตอนนี้เปลี่ยนมาชอบทรงติ๋มที่มีลักษณะตรงข้าม
แม้เทรนด์นี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับกระแสความเปลี่ยนแปลงทางสังคม แต่จิก็ให้สัมภาษณ์ว่า การที่ชอบทรงติ๋มนั้นไม่ได้มาจากกระแสในโลกออนไลน์หรือกระแสสังคมรอบตัวที่เปลี่ยนไป แต่เป็นเพราะเพิ่งจะรู้ตัวและบังเอิญประจวบเหมาะกับการมาของเทรนด์ ‘ตัวแม่แพ้ทรงติ๋ม’ พอดี ทำให้ถูกนิยามตามวลีดังกล่าวไปโดยปริยาย และจากวลีนั้นทำให้ได้รับรู้ว่ามีตัวแม่หลายคนที่แพ้ทรงติ๋มเหมือนกับเธอ
แล้วทำไมตัวแม่ถึงแพ้ทรงติ๋ม?
จากทฤษฎีของ คาร์ล ยุง (Carl Jung) อธิบายว่า The Shadow ซึ่งคือตัวตนที่เรากดไว้ หรือตัวตนอีกแบบที่เราอยากเป็นแต่ซ่อนไว้ภายในลึกๆ ที่เราไม่ได้แสดงออกมา แต่ตัวตนนั้นแสดงออกผ่านคนที่เป็นขั้วตรงข้ามกับเรา และเติมเต็มส่วนที่ปิดซ่อนไว้ในจิตใต้สำนึก เช่น ตัวแม่ที่เป็นคนแรงๆ ไม่อ่อนโยน แต่ลึกๆ ก็ยังมีความอ่อนไหวทางอารมณ์อยู่ และเมื่อพบเห็นทรงติ๋มก็รู้สึกเหมือนได้รับการเติมเต็มตัวตนในส่วนที่ขาดไป
นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับการจับคู่โดยใช้ตัวชี้วัดของไมเออร์ส-บริกส์ (MBTI) ดัชนีวัดรูปแบบบุคลิกภาพ เพื่อประเมินทางจิตวิทยาที่ออกแบบมาเพื่อวัดความพึงพอใจ ว่าบุคคลรับรู้ข้อมูลและตัดสินใจอย่างไร โดยคู่รักสมัยใหม่ใช้ MBTI เป็นเครื่องมือช่วยหาความเข้ากัน โดยจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่า MBTI แต่ละประเภทมีลักษณะและจุดเด่นที่ช่วยเสริมความสัมพันธ์ได้อย่างไร ซึ่งตัวแม่มักมีรูปแบบบุคลิกภาพแบบชอบเข้าสังคม (Extrovert) ส่วนทรงติ๋มมักมีรูปแบบบุคลิกแบบเก็บตัว (Introvert) ทำให้ทั้งคู่ต่างเป็น The Shadow ของกันและกันตามทฤษฎีของ คาร์ล ยุง เช่น ฝ่ายหญิงเป็น ENTJ มีลักษณะเป็นคนที่มีความเด็ดขาดทางความคิด และใช้เวลาตัดสินใจไม่นาน จึงต้องการคนที่เป็นผู้รับฟังและทำตามซึ่ง INTP และ ISTP ที่รักในการเป็นผู้ตาม มีความซื่อสัตย์ และตรงไปตรงมาจะเข้ากับ ENTJ ที่สุด เป็นต้น
ท้ายที่สุด วลี ‘ตัวแม่แพ้ทรงติ๋ม’ ไม่ได้เป็นเพียงคำพูดสนุกๆ ในโลกออนไลน์เท่านั้น แต่เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนผ่านทางสังคม จากยุคที่ผู้ชายต้องมีภาพลักษณ์ที่เข้มแข็ง และมีความเป็นผู้นำ มาเป็นยุคที่ ‘ผู้ชายอ่อนโยน’ ก็มีคุณค่าในแบบของตัวเอง
ในโลกที่ ‘ตัวแม่’ เดินเกมได้อย่างมั่นใจ และ ‘ติ๋ม’ ก็ไม่ต้องกลัวที่จะอ่อนโยน ความรักระหว่างทั้งสองจึงไม่ใช่เรื่องของใครนำใครอีกต่อไป แต่คือเรื่องของ ‘สองขั้วที่ดูจะเติมเต็มกันได้อย่างพอดี’
ศัพทานุกรม
1. ทรงติ๋ม หมายถึง บุคลิกของผู้ชายที่ดูเรียบร้อย สุภาพ ซื่อ อ่อนโยน มักพูดน้อย ไม่ชอบแสดงออกมาก แต่มีเสน่ห์ในความจริงใจและความปลอดภัยที่ให้กับคนรอบข้าง
2. ติ๋ม หมายถึง คำเรียกคนที่ดูเชย เรียบร้อย หรืออ่อนต่อโลก เดิมใช้ในเชิงล้อเลียน แต่ปัจจุบันกลายเป็นคำชื่นชมในเชิงบวก โดยเฉพาะในโลกออนไลน์
3. ตัวแม่ หมายถึง คำยกย่องคนที่โดดเด่น เป็นผู้นำ หรือมีความมั่นใจสูงในด้านใดด้านหนึ่ง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่มีบุคลิกแรง มั่นใจ และมีอิทธิพล
4. ตัวแม่แพ้ทรงติ๋ม หมายถึง วลีไวรัลที่สื่อถึงการที่ผู้หญิงมั่นใจและมีอำนาจ (ตัวแม่) รู้สึกชอบหรืออ่อนข้อให้กับผู้ชายบุคลิกเรียบร้อย (ทรงติ๋ม) เพราะความแตกต่างที่เติมเต็มกัน
5. สายฝอ มาจากคำว่า ‘สายฝรั่ง’ หมายถึง คนที่รับอิทธิพลแฟชั่นหรือไลฟ์สไตล์มาจากชาวตะวันตก มักเป็นลุคยอดนิยมของ ‘ตัวแม่’ ในโลกออนไลน์
6. แบดบอย (Bad boy) หมายถึง คำเรียกผู้ชายที่มีบุคลิกดิบ เท่ ขบถ หรือดูอันตราย มักถูกมองว่าน่าดึงดูดในสายตาผู้หญิง แต่ตรงข้ามกับทรงติ๋ม
7. The Shadow แนวคิดทางจิตวิเคราะห์โดยคาร์ล ยุง หมายถึง ‘ด้านที่เรากดไว้’ หรือด้านในจิตใต้สำนึกที่มักแสดงออกผ่านการดึงดูดต่อคนที่มีบุคลิกตรงข้ามกับเรา
8. MBTI (Myers–Briggs Type Indicator) หมายถึง แบบทดสอบบุคลิกภาพที่แบ่งคนออกเป็น 16 ประเภท เพื่อวิเคราะห์แนวทางการคิด การรับรู้ และความเข้ากันได้ของบุคลิกภาพ
9. Extrovert (บุคลิกแบบชอบเข้าสังคม) หมายถึง บุคลิกของบุคคลที่ได้รับพลังจากการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ชอบแสดงออก พูดเก่ง มักเป็น ‘ตัวแม่’ ในบริบทของเทรนด์นี้
10. Introvert (บุคลิกแบบเก็บตัว) หมายถึง บุคลิกของบุคคลที่ได้รับพลังจากการอยู่คนเดียว เงียบ สุภาพ มักเป็นบุคลิกของ ‘ทรงติ๋ม’ ที่ดูอบอุ่นและเข้าใจผู้อื่น
รายการอ้างอิง
INFP小说. (2565). MBTI ทั้ง 16 ไทป์ จับคู่กับไทป์ไหนแล้วเข้ากันได้เองได้ดีที่สุด. สืบค้นจาก
https://news.trueid.net/detail/qv5Y8OjDKl5v
J G Johnston. (2566). The Relationship of Ego & Shadow in C.G. Jung’s Psychology. Retrieved
from https://medium.com/@jgjohnston/the-relationship-of-ego-shadow-in-c-g-jungs-psychology-39aea31190c8