News

เขื่อนแก่งเสือเต้นแก้น้ำท่วมไม่ได้ ซ้ำ ทำลายวิถีชีวิตชาวบ้าน

เรื่อง : อารีย์วรรณ อมรเดชเทวินทร์ และ สิทธิเดช สายพัทลุง
ภาพประกอบจาก : Thailand Tourism Directory

ผู้คัดค้านเผยเขื่อนแก่งเสือเต้นแก้น้ำท่วมสุโขทัยไม่ได้ และอาจทำลายวิถีชีวิตชาวบ้าน ต.สะเอียบไปจนหมด

.

จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อเกี่ยวกับการแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดตามลุ่มแม่น้ำยมในปัจจุบันว่า เนื่องด้วยแม่น้ำยมเป็นแม่น้ำที่ไม่มีเขื่อนหรือแม่น้ำสายอื่นช่วยรองรับน้ำ จึงทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมโดยเฉพาะในจ.แพร่ จ.พะเยา และ จ.สุโขทัย  ดังนั้นจะต้องมีการพูดคุยถึงโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นที่ ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ อีกครั้งเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวนั้น เมื่อวันที่ 8 ก.ย. อาทิตย์ ขวัญยืน หนึ่งในกลุ่มผู้คัดค้านการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ให้สัมภาษณ์ว่า จะไม่มีการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นขึ้นอย่างแน่นอน เพราะโครงการดังกล่าวถูกชะลอและคัดค้านมานานกว่า 30 ปี หากจะมีการสร้างเขื่อนจริง คงดำเนินการได้ตั้งแต่แรก อีกทั้งโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้อย่างครอบคลุม

อาทิตย์กล่าวว่า แม่น้ำยมมีลำน้ำอยู่ร่วม 100 สาขา แต่การสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นนั้นจะรองรับลำน้ำได้เพียง 10 กว่าสาขา ยังเหลือลำน้ำบริเวณใต้เขื่อนอีกกว่า 60-70 สาขาที่ไม่มีที่รองรับ นอกจากนี้ เขื่อนแก่งเสือเต้นยังจุน้ำได้เพียง 1,175 ลบ.ม. แต่ในช่วงที่น้ำท่วม มวลน้ำที่ไหลลงไปจะมีมากถึง 5,000 กว่าลบ.ม. ดังนั้นพื้นที่บริเวณใต้เขื่อนแก่งเสือเต้นจะยังคงเจอปัญหาน้ำท่วมอยู่เช่นเดิม 

อาทิตย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในกรณีของ จ.สุโขทัย ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในทุกๆ ปี เกิดจากปัญหาด้านภูมิประเทศ ทำให้ไม่สามารถรองรับน้ำจาก จ.แพร่ ได้ 

“ความกว้างโดยเฉลี่ยของแม่น้ำยมที่ จ.แพร่ อยู่ที่ 85 เมตร แต่บริเวณ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ความกว้างโดยเฉลี่ยของแม่น้ำยมจะลดลงเหลือเพียง 43 เมตร เมื่อน้ำท่วมที่ผ่านมา มวลน้ำที่ท่วม จ.แพร่ ไหลอยู่ที่ 1,400 กว่าลบ.ม. ต่อวินาที และน้ำจะยังคงไหลแรงเท่าเดิมเมื่อไปถึง จ.สุโขทัย ไม่ว่าอย่างไรน้ำก็ล้นอยู่ดี” อาทิตย์กล่าวและว่า นอกจากจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้อย่างครอบคลุมแล้ว การสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นยังส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ด้วย เนื่องจากชาวบ้านต้องย้ายที่อยู่ แต่ที่่อยู่ใหม่จากการจัดสรรของภาครัฐ เป็นถิ่นทุรกันดาร ไม่เหมาะแก่การประกอบอาชีพตามวิถีเดิม เช่น การทำสุราพื้นบ้าน ซึ่งเป็นอาชีพที่สร้างรายได้หลักล้านให้คนในชุมชน รวมถึงการทำเกษตรกรรมตามฤดูกาลและการหาของป่า

“สิ่งที่เขื่อนจะทำลายไม่ใช่แค่ระบบนิเวศน์ป่าสักทองที่เราหวงแหน แต่รวมถึงวิถีชีวิตชุมชนที่จะต้องเข้าไปหาของป่าอย่างพวกผักหวานหรือเห็ดเผาะที่สร้างมูลค่ากิโลหนึ่งได้ตั้งหลายร้อย แล้วไม่ใช่แค่คนในชุมชนที่เข้าไปหา แต่ชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงก็ขึ้นไปหาด้วย ถ้ามีเขื่อนแล้วมันทดแทนกันไม่ได้ ผืนดินตรงนั้นจะหายไปมากกว่าหลายหมื่นไร่” อาทิตย์กล่าว

อาทิตย์เพิ่มเติมว่า ผลกระทบที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ชาวบ้านไม่พอใจและกังวลใจต่อโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น ทางชุมชนสะเอียบจึงพยายามจัดทำ ‘สะเอียบโมเดล’ เพื่อนำเสนอวิธีแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำให้แก่ทางภาครัฐ 

“การบริหารจัดการน้ำที่นำเสนอให้กับทางภาครัฐคือแนะนำให้ไปทำฝาย ทำอ่างตามลำน้ำสาขาของ จ.แพร่ ที่จะไหลลงรวมแม่น้ำยม เราจะทอนน้ำให้ลงแม่น้ำยมให้น้อยที่สุด เพราะถ้าไม่มีตัวช่วยดักหรือเก็บน้ำไว้ ก็เท่ากับว่าน้ำไหลจาก จ.แพร่ มาเท่าไรก็จะลงแม่น้ำยมเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ภาครัฐรับเอาสะเอียบโมเดลไปบ้างแล้ว แต่ว่ายังไม่สมบูรณ์ แล้วก็ดันเกิดวิกฤตน้ำท่วม จ.แพร่ ขึ้นมาเลยมีการพูดถึงเขื่อนแก่งเสือเต้นอีกรอบหนึ่ง” อาทิตย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สะเอียบโมเดล คือแผนโครงการที่ประชาชนในพื้นที่ ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ได้ร่วมกันเสนอเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในบริเวณลุ่มแม่น้ำยมตอนบน ซึ่งมีโครงการย่อยอยู่จำนวน 26 โครงการ หนึ่งในนั้นคือโครงการอ่างเก็บน้ำแม่สะกึ๋นและอ่างเก็บน้ำห้วยเป้า ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้ำเพื่อการเกษตร อุปโภค-บริโภค บรรเทาอุทกภัย และกิจกรรมการใช้น้ำอื่นๆ ในพื้นที่

บรรณานุกรม

กรมชมประธาน. งานจ้างสำรวจ ออกแบบโครงการอ่างเก็บน้ำในพื้นที่สะเอียบโมเดล.
เรียกใช้เมื่อ กันยายน 2567 จาก https://www.xn—-uwfqe6d0akaa4ejg9as7bh1cae3d3ac5f2nfp0bzy.com/

รัฐบาลไทย. (4 กันยายน 2567). ภูมิธรรม ระบุแนวคิดสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นต้องหารือทุกฝ่าย ย้ำเพื่อลดผลกระทบทั้งคนและป่า แก้น้ำท่วมซ้ำซาก. เรียกใช้เมื่อกันยายน 2567 จาก https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/87765

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
1
Love รักเลย
0
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0

More in:News

News

การเสวนาโดยเครือข่าย TransEqual ชี้ Hate Crime รุนแรงกว่าอาชญากรรมทั่วไป เสนอรัฐแก้กฎหมายและเก็บข้อมูลอย่างจริงจัง

เขียน: ภัชราพรรณ ภูเงิน  ข้อมูลจากการเสวนาโดยเครือข่ายทอม ผู้ชายข้ามเพศ นอนไบนารี่ เพื่อความเท่าเทียม ระบุว่าอาชญากรรมจากความเกลียดชังรุนแรงกว่าอาชญากรรมทั่วไป เพราะมีแรงขับจากความเกลียดชัง พร้อมเสนอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ปัญหา ผลักดันกฎหมายการลงโทษผู้กระทำผิดแบบขั้นบันไดและเสนอให้มีการเก็บข้อมูลอย่างจริงจัง เมื่อวันที่ 27 กันยายน ในงานเสวนาออนไลน์ ‘สำรวจ ...

News

แม่ค้ามธ.ติงคนละครึ่ง ช่วยแต่ผู้บริโภคไม่ช่วยคนขาย แนะรัฐฯ ลดราคาวัตถุดิบหากหวังกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว

เขียน: กวินทัต สวัสดิ์นพรัตน์ แม่ค้าโรงอาหารมธ.ติงโครงการคนละครึ่งช่วยผู้บริโภคแต่ไม่ได้ช่วยคนขาย เพราะรายรับไม่เพิ่มขึ้นแถมต้องแบกรับค่าใช้จ่ายต้นทุนวัตถุดิบ แนะรัฐบาลควรทำนโยบายลดต้นทุนวัตถุดิบระยะยาวเพื่อช่วยทั้งผู้ค้าและผู้บริโภค จากกรณีที่เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แถลงนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยเตรียมเสนอโครงการคนละครึ่งพลัส ซึ่งเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อยอดมาจากโครงการคนละครึ่งเดิม โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายสินค้าและบริการให้กับประชาชนในราคาครึ่งหนึ่ง เพื่อลดภาระค่าครองชีพ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา วัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย และทำให้เกิดการกระจายตัวของเม็ดเงินภายในประเทศ โดยจะเริ่มใช้จ่ายได้ภายในเดือนตุลาคมนั้น อังสนา ...

News

กองกิจฯ มธ.ขอความร่วมมือนศ.งดใช้บริการร้านเหล้าเสี่ยงผิดกฎหมาย ฝั่งสรรพสามิตและตำรวจ ตีความต่าง ปมอำนาจผู้กำหนดระยะห่างที่เหมาะสม

เขียน: ศิวะ พุ่มอรุณ กองกิจการนักศึกษา มธ.ขอความร่วมมือนักศึกษาไม่สนับสนุนร้านเหล้าที่เสี่ยงผิดกฎหมาย หลังพบบางร้านมีจุดที่ห่างจากรั้วมหาวิทยาลัยไม่ถึง 10 เมตร และมีการแสดงดนตรีสดทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบสถานบันเทิง ด้านสภ.คลองหลวงและกรมสรรพสามิตพื้นที่ปทุมธานี ตีความต่างเรื่องผู้มีอำนาจกำหนดระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างร้านเหล้าและมหาวิทยาลัย  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2558 ซึ่งใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ...

News

กรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิฯ อมธ.ลาออก ปมขัดแย้งนายกฯ

เขียน: อชิรญา ปินะสา กรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิ อมธ.แถลงลาออก เหตุโดนจำกัดความเห็นในการทำงานและผู้นำมีความคิดแคบ ฝ่ายนายกอมธ.แจง ปัญหาคือทัศนคติในการทำงานไม่ตรงกันและขาดการพูดคุย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา อินท์ธารี อธิเจริญลักษณ์ ...

News

FAIR เตรียมยื่นแก้กม.ยาเสพติดให้ผู้ใช้ยาไม่ผิดอาญา

เขียน: ธีรภัทร กมล และศิวะ พุ่มอรุณ  มูลนิธิเพื่อสิทธิความหลากหลาย เตรียมยื่นเสนอแก้กฎหมายยาเสพติดให้ผู้ใช้ยาไม่มีความผิดทางอาญา เพราะผู้ใช้ยาไม่ใช่อาชญากร พร้อมเสนอ Harm Reduction เป็นบริการทางเลือก หวังลดอคติจากคนในสังคม  เมื่อวันที่  13 ก.ย. ที่ ...

News

ผนังอิฐหน้า SC3 ถล่ม คาดวัสดุเสื่อมสภาพ วิศวกรยืนยันไม่กระทบโครงสร้างหลัก

เขียน: เปรมชนก พฤกษ์พัฒนรักษ์ ผนังอิฐหน้าอาคาร SC3 ถล่ม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เจ้าหน้าที่คาดวัสดุเสื่อมสภาพและพายุลมแรงเป็นเหตุ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ วิศวกรยืนยันโครงสร้างหลักของอาคารปลอดภัยและอยู่ระหว่างวางแผนซ่อมแซม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.12 น. วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เกิดเหตุผนังอิฐตกแต่งถล่มลงมาบริเวณทางเข้าอาคารเรียนรวมสังคมศาสตร์ 3 (SC3) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากจุดดังกล่าวไม่มีนักศึกษาหรือเจ้าหน้าที่อยู่ในพื้นที่ขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภายในอาคารกล่าวว่า ได้ยินเสียงดังเป็นวัตถุตกลงมา ก่อนจะพบว่าแผงอิฐที่ติดผนังตรงทางเข้าก่อนถึงลิฟต์ร่วงลงมา พนักงานจึงได้รีบนำเชือกมากั้นพื้นที่ภายในเวลาประมาณ 20 นาทีหลังเกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัย พนักงานอีกคนหนึ่งที่ใช้พื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุกล่าวว่า ผนังในจุดดังกล่าวเคยมีรอยร้าวมาแล้วก่อนหน้านี้ และเป็นจุดที่ 4 ที่พบรอยร้าวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บางจุดเคยมีน็อตยึดไว้ แต่ก็เริ่มเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะหลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อต้นปีที่ผ่านมาที่ห้อง M-20 ชั้น M  ภูวกร ธีระกาญจน์ วิศวกรโยธาปฏิบัติการ กองบริหารศูนย์รังสิต กล่าวว่าจุดที่ถล่มนั้นเป็นเพียงผนังตกแต่ง ไม่ใช่โครงสร้างหลักของอาคาร ตัวอิฐไม่ได้ยึดติดกับโครงสร้างโดยตรง แต่มีเหล็กและน้ำยาเจาะเสียบทำหน้าที่ยึดไว้ ซึ่งวัสดุดังกล่าวมีคุณสมบัติเหมือนกาวและมีแนวโน้มว่าเสื่อมสภาพจากความชื้นและอายุการใช้งาน ประกอบกับช่วงเกิดเหตุมีพายุฝนและลมแรง จึงอาจทำให้ผนังที่แยกชั้นจากโครงสร้างหลักนั้นร่วงลงมา  ภูวกรกล่าวว่า อาคาร SC3 เพิ่งตรวจรับเมื่อเดือนตุลาคม ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save