News

ผอ. กองนโยบายภาษีชี้หนี้ครัวเรือนไทย เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมบริโภคนิยม ประชาชนใช้จ่ายเกินตัว แนะรัฐฯ ปฏิรูประบบการศึกษาสร้างทักษะติดตัว

เรื่อง : ณัฐธิดา นิติเกษตรสุนทร

ภาพประกอบ : ทยาภา เจียรวาปี

ผอ. กองนโยบายภาษีชี้หนี้ครัวเรือนไทยเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมบริโภคนิยมและค่านิยมในสังคม  ทำให้ประชาชนใช้จ่ายเกินตัว แนะรัฐฯ ปฏิรูปโครงสร้างตั้งแต่ระบบการศึกษาเพื่อสร้างทักษะติดตัวประชาชน เพราะดิจิทัลวอลเล็ตไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ปัณณ์ อนันอภิบุตร ผู้อำนวยการกองนโยบายภาษี สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่าหนี้ครัวเรือนในปัจจุบันเป็นปัญหาที่สะสมมายาวนาน ทั้งหนี้รถและสินเชื่อบ้าน แม้ปัจจุบันจะลดลง แต่หนี้เพื่ออุปโภคบริโภคอื่นๆ ที่ไม่ใช่บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลยังคงเติบโต ซึ่งเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมบริโภคนิยมในสื่อต่างๆ เช่น การมีโพรโมชันส่วนลด หรือการดาวน์น้อยผ่อนนาน และค่านิยมในสังคมที่อาจทำให้ประชาชนหลงเชื่อทั้งที่ไม่มีความจำเป็นในการใช้จ่าย เช่น หนี้รถของอาชีพครูในต่างจังหวัด ที่ต้องการซื้อรถยนต์เพื่อให้รู้สึกมีเกียรติ สามารถเชิดหน้าชูตาในสังคมได้ 

ปัณณ์กล่าวว่าการที่ชาวไทยมีหนี้ครัวเรือนพุ่งสูงถึงร้อยละ 90 ส่งผลต่อประเทศในแง่ระบบเศรษฐกิจ โดยหากประชาชนมีรายได้ไม่เพียงพอจะไม่ใช้จ่าย ทำให้เศรษฐกิจไม่หมุนเวียน ในแง่ของจิตวิทยา ความกังวลในการเป็นหนี้ทำให้ขวัญกำลังใจในการทำงานลดลง  และในด้านการลงทุนพบว่ามีหนี้เพื่อการลงทุนเพียง 1 ใน 3 ของหนี้ครัวเรือนทั้งหมด จึงไม่เกิดการสร้างรายได้ ส่งผลให้ตัวเลขจีดีพีในการลงทุนลดลง กลไกของระบบเศรษฐกิจจึงทำไม่ได้ตามปกติ 

ปัณณ์กล่าวว่าแนวทางแก้ปัญหาที่รัฐบาลนิยมทำเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายทาง เช่น การพักหนี้ การลดดอกเบี้ย แต่สิ่งที่รัฐฯ ควรทำคือหาทางเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน เช่น ให้ความรู้เพื่อให้ประชาชนมีทักษะใหม่ๆ เพื่อนำไปลงทุนหรือสร้างรายได้ให้แก่ตนเอง “การมีหนี้เป็นธรรมชาติของระบบเศรษฐกิจ หากอยากให้หนี้ลดก็ต้องไปสร้างรายได้ การพักหนี้อาจทำให้เกิดภัยทางศีลธรรม (Moral Hazard) คือการจูงใจให้คนมีพฤติกรรมที่ไม่ถูก เช่น หากเราเป็นหนี้แล้วจ่ายหนี้ตามปกติก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐฯ แต่หากมีคนที่เบี้ยวหนี้ ไม่ยอมจ่าย แล้วรัฐฯ มาช่วยพักหนี้ ก็จะไม่มีใครที่อยากจ่ายหนี้อย่างถูกต้อง”

ปัณณ์กล่าวเพิ่มเติมว่ารัฐฯ มีการแจกเงินหมื่นตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่อาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระยะสั้น เปรียบเสมือนยาแก้ปวดที่บรรเทาได้ชั่วคราว เพราะประชาชนส่วนใหญ่นำเงินไปซื้อของเพื่ออุปโภคบริโภค ไม่ได้นำเงินไปใช้ในการลงทุนเพื่อสร้างรายได้ จึงไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ต้องปฏิรูปตั้งแต่โครงสร้างให้ตลาดมีการแข่งขันมากขึ้น จูงใจให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุน และเน้นไปที่การศึกษาที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงและตอบสนองกับความต้องการของโลก

พรวริน ตรีสุวรรณ แม่ค้าขายเครื่องดื่มในตลาดห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร  กล่าวว่าแม้จะมีคนมาเดินตลาดจำนวนมาก แต่รายได้กลับลดลง เพราะมีคนเดินแต่ไม่มีคนซื้อ เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้คนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น แม้จะมีประชากรบางส่วนที่ได้เงินหมื่นจากรัฐฯ ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่ก็นำเงินไปใช้หนี้หรือเก็บออมกันหมด 

พรวรินกล่าวว่าคนที่มีเงินลงทุนในการทำธุรกิจหรือเปิดร้านต่างๆ มักเป็นนักลงทุนจากต่างประเทศ ส่วนคนไทยในตลาดไม่มีเงินพอที่จะกล้ารับมือกับความเสี่ยงในการลงทุน  อีกทั้งการที่รัฐฯ ให้ยกเลิกหาบเร่แผงลอย ทำให้ประชาชนไม่มีช่องทางในการหารายได้ จึงไม่มีเงินพอที่จะจ่ายหนี้สิน “เราได้เงินหนึ่งหมื่นมาก็นำไปจ่ายค่าหนี้จนหมด แต่เมื่อเวลาผ่านไปขายของไม่ได้ ก็ต้องกลับไปกู้เงินมาอีกเพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน วนซ้ำไปมาจนไม่มีเงินเก็บ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากผลสำรวจหนี้สินครัวเรือนประจำไตรมาส 3/2567 ของศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่าหนี้ครัวเรือนในแต่ละกลุ่มระดับรายได้มีความสามารถในการรับมือกับภาระหนี้ที่แตกต่างกัน ดังนั้นการลดลงของสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีในระดับภาพใหญ่ของประเทศ จึงไม่อาจสะท้อนว่าภาระหนี้สินและปัญหาการชำระหนี้ในระดับครัวเรือนจะมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นตามในทันที เพราะแม้ว่าหลายครัวเรือนจะสามารถบริหารจัดการสภาพคล่องและดูแลภาระหนี้สินที่มีอยู่ได้ แต่ก็มีอีกหลายครัวเรือนเช่นกันที่มีปัญหาขาดสภาพคล่อง สถานะทางการเงินเริ่มมีความเปราะบาง เพราะไม่สามารถจ่ายภาระหนี้ได้

.

อ้างอิง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย. (16 ตุลาคม 2024). หนี้ครัวเรือนปี 2567 อาจชะลอลงมาที่ 88.5-89.5% ต่อจีดีพี. เข้าถึงได้จาก kasikornresearch: https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/HouseholdDebt-CIS3524-FB-16-10-24.aspx

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
0
Love รักเลย
0
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0

More in:News

News

รองอธิการบดี มธ. ยืนยันไม่เคยขู่ตัดน้ำ-ไฟงานเฟรชชี่เกมส์ แจงเป็นเพียงแนวทางหารือร่วมกับนักศึกษา

เขียน: เปรมชนก พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มธ. เผย ไม่เคยขู่ตัดน้ำ-ไฟงานเฟรชชี่เกมส์ แต่เป็นหนึ่งในแนวทางปรับเปลี่ยนงานจากการหารือกับนักศึกษา ซึ่งภายหลังให้จัดงานได้ แต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบตามแนวทางการไว้อาลัยจากมติครม. เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ...

News

ชาวบ้านใกล้ มธ. รังสิต ร้องนักศึกษาเมาส่งเสียงดัง ด้านผอ.กองกิจฯ ยัน หากมีหลักฐานจะดำเนินการตามระเบียบ

เขียน: เปรมชนก พฤกษ์พัฒนรักษ์ ชาวบ้านชุมชนคุ้งผ้าพับร้องนักศึกษา มธ. ส่งเสียงดังรบกวนจากอาการมึนเมา ด้าน ผอ. กองกิจการนักศึกษา มธ. เผยหากมีหลักฐานว่าเป็นนักศึกษา มธ. จริง จะดำเนินการตามระเบียบ เมื่อวันที่ ...

News

นักวิชาการชี้งานดัดแปลงคือผลงานใหม่ แต่อยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าของต้นฉบับ แนะเคารพสิทธิ์เพื่อลดปัญหา

เขียน: ภัชราพรรณ ภูเงิน นักวิชาการชี้แม้งานดัดแปลงหนังสือจะได้รับการคุ้มครองในฐานะผลงานใหม่ แต่อยู่ภายใต้การควบคุมจากเจ้าของต้นฉบับ แนะบุคคลที่เกี่ยวข้องควรรู้และเคารพสิทธิ์ของตนเองและผู้อื่น จึงจะลดปัญหาได้ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในงานเสวนาวิชาการหัวข้อ ‘สิทธิผู้เขียน ...

News

ร้านค้ามธ.ยอดขายพุ่งหลังคนละครึ่งวันแรก ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น แต่อาจกระตุ้นเศรษฐกิจได้สั้นๆ แนะระยะยาวควรสร้างอาชีพ

เขียน: กวินทัต สวัสดิ์นพรัตน์ ร้านค้ามธ.ชี้คนละครึ่งช่วยเพิ่มยอดขายร้านค้า เหตุลูกค้ามีกำลังซื้อมากขึ้น เพราะรัฐบาลช่วยจ่ายให้ประชาชน แนะโครงการเหมาะสำหรับกระตุ้นระยะสั้น แต่ระยะยาวควรสร้างงานที่มั่นคงมากกว่าการแจกเงินประชาชน จำเริญ จันทร์ประภา ผู้ขายผลไม้ในโรงอาหารกรีนแคนทีน มธ.กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งพลัสที่เปิดให้ประชาชนใช้บริการเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ...

News

อาจารย์คณะวิทย์ฯ มธ. ชี้กรีนซีเกมส์เป็นเรื่องยาก เหตุจัดหลายจังหวัด แนะมาตรการวัดผลการลดค่าคาร์บอนต้องชัดเจน

เขียน: ฐิดาพร พิมพ์สีโคตร อาจารย์คณะวิทย์ฯ มธ. ชี้กรีนซีเกมส์เป็นไปได้แต่ยาก เหตุการจัดแข่งกีฬาใช้พื้นที่หลายจังหวัดทำให้ควบคุมการจัดการยาก แนะหากต้องการลดค่าคาร์บอนควรกำหนดการวัดผลร่วมกัน 4 มิติ ทั้งด้านพลังงาน การเดินทาง การจัดการของเสีย และการชดเชยคาร์บอน เมื่อวันที่ ...

News

จิตแพทย์ และนักวิชาการเครือข่ายโครงการอะเวค1525 ชี้ วัยรุ่นยุคใหม่สื่อสารเร็วแต่ขาดการเชื่อมต่อในใจ เปิดเวทีเสวนาชวนวัยรุ่นกลับมาเข้าใจตัวเองอีกครั้งผ่านการเขียน

เขียน: ศิวะ พุ่มอรุณภาพประกอบ: อชิรญา ปินะสา และ ฝ่ายสื่อสารองค์กร คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน จิตแพทย์ นักวิชาการ และนักเขียนร่วมเวทีเสวนา “Signal Lost ตัวตนและความสัมพันธ์ที่หายไปในสังคมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง” ชี้ เยาวชนยุคดิจิทัลแม้สื่อสารได้รวดเร็วแต่กลับขาดการเชื่อมต่อกับตนเองและคนใกล้ตัว โครงการ ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save