News

รพ.หลายแห่งไม่รับทำแท้งผู้ที่อายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์ แม้มีกม.รองรับ

เรื่อง: ปาณัสม์ จันทร์กลาง

ภาพ: ณัฐกมล สิทธิวงศ์

สายด่วนท้องไม่พร้อม 1663 เผย แม้ประเทศไทยจะแก้กฎหมายให้ผู้มีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์สามารถเข้ารับบริการยุติการตั้งครรภ์ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ยังพบว่าโรงพยาบาลจำนวนมากรวมทั้งโรงเรียนแพทย์ปฏิเสธการให้บริการ แนะสธ.จัดหน่วยบริการยุติการตั้งครรภ์จังหวัดละ 1 แห่งเพื่ออำนวยความสะดวก

จากการที่ประเทศไทยได้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทำแท้ง จากเดิม ม.305 แพทย์สามารถทำแท้งได้เพื่อสุขภาพของแม่ และเป็นคดีทางเพศ แก้เป็นแพทย์สามารถทำแท้งได้เพื่อสุขภาพกายและใจของแม่ การท้องต่อเสี่ยงต่อความผิดปกติของทารก หญิงยืนยันว่าการท้องเกิดจากคดีทางเพศ อายุครรภ์ไม่ถึง 12 สัปดาห์ หรืออายุครรภ์ระหว่าง 12-24 สัปดาห์แต่อยู่ภายใต้คำปรึกษาของแพทย์ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 นั้น

สมวงศ์ อุไรวัฒนา ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ (แอสเซส) และหัวหน้าโครงการ 1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม ให้สัมภาษณ์ว่า ถึงแม้จะมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อรองรับให้สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้อย่างเปิดกว้างขึ้นแล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังคงมีปัญหาเรื่องการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งเรื่องการปฏิเสธการให้บริการยุติการตั้งครรภ์ และการไม่ส่งต่อไปยังหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง “ทุกวันนี้หน่วยรับการยุติตั้งครรภ์มีร้อยกว่าหน่วยที่ขึ้นทะเบียนไว้ แต่ก็ตั้งเงื่อนไขในการให้บริการ เช่น รับเฉพาะคนที่ถูกข่มขืน รับเฉพาะคนในอำเภอเรา หรือรับเฉพาะคนที่อายุต่ำกว่า 20 ปีเท่านั้น ไม่ได้เปิดกว้างตามกฎหมาย ส่วนของภาครัฐที่เปิดกว้างและสามารถเข้าไปรับบริการได้เลยจริงๆ ทั้งประเทศไทยมีอยู่ไม่เกิน 5 แห่งเท่านั้น”

สมวงศ์กล่าวว่า กรณีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของหน่วยบริการ เช่น มีหญิงที่ถูกตรวจพบว่าตัวอ่อนในครรภ์เป็นดาวน์ซินโดรมและมีสมองที่ผิดปกติ แพทย์แนะนำให้ยุติการตั้งครรภ์ แต่โรงพยาบาลที่ฝากครรภ์ไว้ปฏิเสธการให้บริการโดยให้เหตุผลเรื่องผิดศีลธรรมและเครื่องมือไม่พร้อม จึงทำหนังสือยืนยันผลตรวจและให้ผู้รับบริการไปหาหน่วยบริการเอาเอง แล้วถูกโรงเรียนแพทย์ 4 แห่งในกรุงเทพฯ ปฏิเสธ จึงโทรเข้าสายด่วน 1663 ซึ่งได้ช่วยประสานงานให้ได้รับบริการในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งกระทั่งสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย

“ในกรณีดังกล่าว ระบบสาธารณสุขเราก็นิ่งดูดาย แม้แต่โรงพยาบาลระดับใหญ่ หรือโรงเรียนแพทย์ก็ยังปฏิเสธ เราต้องใช้ความสามารถส่วนตัวและคอนเนคชันกับหมอจำนวนหนึ่งในการช่วยเหลือนอกระบบ ซึ่งตามระบบปกติมันไม่ควรมีคอนเนคชัน แต่กลายเป็นว่าต้องใช้อำนาจของหมอผู้ใหญ่มาช่วย” สมวงศ์กล่าว

สมวงศ์กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมองเรื่องการยุติการตั้งครรภ์เป็นปัญหาสุขภาพและต้องให้บริการการรักษา โดยขอให้กระทรวงสาธารณะสุข (สธ.) จัดหน่วยบริการยุติการตั้งครรภ์อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่งและจัดเตรียมระบบการส่งต่อให้ผู้ที่ท้องไม่พร้อมได้รับบริการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้เข้ารับบริการไม่จำเป็นต้องเดินทางข้ามจังหวัดหรือข้ามพื้นที่ ขอให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ออกนโยบายว่าการยุติการตั้งครรภ์เป็นการรักษาเพื่อให้ผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิประกันสังคมในการยุติการตั้งครรภ์ได้ เพราะปัจจุบันหญิงท้องที่เป็นผู้ประกันตนไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้เพราะ สปส.อ้างว่าการยุติการตั้งครรภ์ไม่ใช่การรักษา ขอให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะผู้ซื้อบริการช่วยควบคุมการให้บริการของหน่วยบริการต่างๆ โดยเฉพาะการส่งต่อผู้ตั้งครรภ์ไปยังหน่วยบริการอื่น ต้องไม่ปล่อยให้ผู้รับบริการดำเนินการด้วยตัวเอง และขอให้แพทยสภากำชับแพทย์ให้เข้าใจกฎหมายและดำเนินการตามกฎหมายที่แก้ไขแล้วอย่างเคร่งครัด เนื่องจากยังคงพบปัญหาเรื่องการปฏิเสธให้บริการอย่างต่อเนื่อง

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
2
Love รักเลย
1
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0

More in:News

News

แม่ค้ามธ.ติงคนละครึ่ง ช่วยแต่ผู้บริโภคไม่ช่วยคนขาย แนะรัฐฯ ลดราคาวัตถุดิบหากหวังกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว

เขียน: กวินทัต สวัสดิ์นพรัตน์ แม่ค้าโรงอาหารมธ.ติงโครงการคนละครึ่งช่วยผู้บริโภคแต่ไม่ได้ช่วยคนขาย เพราะรายรับไม่เพิ่มขึ้นแถมต้องแบกรับค่าใช้จ่ายต้นทุนวัตถุดิบ แนะรัฐบาลควรทำนโยบายลดต้นทุนวัตถุดิบระยะยาวเพื่อช่วยทั้งผู้ค้าและผู้บริโภค จากกรณีที่เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แถลงนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยเตรียมเสนอโครงการคนละครึ่งพลัส ซึ่งเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อยอดมาจากโครงการคนละครึ่งเดิม โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายสินค้าและบริการให้กับประชาชนในราคาครึ่งหนึ่ง เพื่อลดภาระค่าครองชีพ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา วัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย และทำให้เกิดการกระจายตัวของเม็ดเงินภายในประเทศ โดยจะเริ่มใช้จ่ายได้ภายในเดือนตุลาคมนั้น อังสนา ...

News

กองกิจฯ มธ.ขอความร่วมมือนศ.งดใช้บริการร้านเหล้าเสี่ยงผิดกฎหมาย ฝั่งสรรพสามิตและตำรวจ ตีความต่าง ปมอำนาจผู้กำหนดระยะห่างที่เหมาะสม

เขียน: ศิวะ พุ่มอรุณ กองกิจการนักศึกษา มธ.ขอความร่วมมือนักศึกษาไม่สนับสนุนร้านเหล้าที่เสี่ยงผิดกฎหมาย หลังพบบางร้านมีจุดที่ห่างจากรั้วมหาวิทยาลัยไม่ถึง 10 เมตร และมีการแสดงดนตรีสดทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบสถานบันเทิง ด้านสภ.คลองหลวงและกรมสรรพสามิตพื้นที่ปทุมธานี ตีความต่างเรื่องผู้มีอำนาจกำหนดระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างร้านเหล้าและมหาวิทยาลัย  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2558 ซึ่งใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ...

News

กรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิฯ อมธ.ลาออก ปมขัดแย้งนายกฯ

เขียน: อชิรญา ปินะสา กรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิ อมธ.แถลงลาออก เหตุโดนจำกัดความเห็นในการทำงานและผู้นำมีความคิดแคบ ฝ่ายนายกอมธ.แจง ปัญหาคือทัศนคติในการทำงานไม่ตรงกันและขาดการพูดคุย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา อินท์ธารี อธิเจริญลักษณ์ ...

News

FAIR เตรียมยื่นแก้กม.ยาเสพติดให้ผู้ใช้ยาไม่ผิดอาญา

เขียน: ธีรภัทร กมล และศิวะ พุ่มอรุณ  มูลนิธิเพื่อสิทธิความหลากหลาย เตรียมยื่นเสนอแก้กฎหมายยาเสพติดให้ผู้ใช้ยาไม่มีความผิดทางอาญา เพราะผู้ใช้ยาไม่ใช่อาชญากร พร้อมเสนอ Harm Reduction เป็นบริการทางเลือก หวังลดอคติจากคนในสังคม  เมื่อวันที่  13 ก.ย. ที่ ...

News

ผนังอิฐหน้า SC3 ถล่ม คาดวัสดุเสื่อมสภาพ วิศวกรยืนยันไม่กระทบโครงสร้างหลัก

เขียน: เปรมชนก พฤกษ์พัฒนรักษ์ ผนังอิฐหน้าอาคาร SC3 ถล่ม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เจ้าหน้าที่คาดวัสดุเสื่อมสภาพและพายุลมแรงเป็นเหตุ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ วิศวกรยืนยันโครงสร้างหลักของอาคารปลอดภัยและอยู่ระหว่างวางแผนซ่อมแซม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.12 น. วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เกิดเหตุผนังอิฐตกแต่งถล่มลงมาบริเวณทางเข้าอาคารเรียนรวมสังคมศาสตร์ 3 (SC3) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากจุดดังกล่าวไม่มีนักศึกษาหรือเจ้าหน้าที่อยู่ในพื้นที่ขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภายในอาคารกล่าวว่า ได้ยินเสียงดังเป็นวัตถุตกลงมา ก่อนจะพบว่าแผงอิฐที่ติดผนังตรงทางเข้าก่อนถึงลิฟต์ร่วงลงมา พนักงานจึงได้รีบนำเชือกมากั้นพื้นที่ภายในเวลาประมาณ 20 นาทีหลังเกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัย พนักงานอีกคนหนึ่งที่ใช้พื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุกล่าวว่า ผนังในจุดดังกล่าวเคยมีรอยร้าวมาแล้วก่อนหน้านี้ และเป็นจุดที่ 4 ที่พบรอยร้าวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บางจุดเคยมีน็อตยึดไว้ แต่ก็เริ่มเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะหลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อต้นปีที่ผ่านมาที่ห้อง M-20 ชั้น M  ภูวกร ธีระกาญจน์ วิศวกรโยธาปฏิบัติการ กองบริหารศูนย์รังสิต กล่าวว่าจุดที่ถล่มนั้นเป็นเพียงผนังตกแต่ง ไม่ใช่โครงสร้างหลักของอาคาร ตัวอิฐไม่ได้ยึดติดกับโครงสร้างโดยตรง แต่มีเหล็กและน้ำยาเจาะเสียบทำหน้าที่ยึดไว้ ซึ่งวัสดุดังกล่าวมีคุณสมบัติเหมือนกาวและมีแนวโน้มว่าเสื่อมสภาพจากความชื้นและอายุการใช้งาน ประกอบกับช่วงเกิดเหตุมีพายุฝนและลมแรง จึงอาจทำให้ผนังที่แยกชั้นจากโครงสร้างหลักนั้นร่วงลงมา  ภูวกรกล่าวว่า อาคาร SC3 เพิ่งตรวจรับเมื่อเดือนตุลาคม ...

News

1663 เสนอสปส. เพิ่มสวัสดิการหนุนหญิงท้อง

เขียน: ศิวะ พุ่มอรุณ และสุชานันท์ สหวงศ์เจริญ ภาพประกอบ: ฐิดาพร พิมพ์สีโคตร สายด่วน 1663 เสนอสปส. เพิ่มงบกว่า 6,000 ล้านบาท ชดเชยรายได้ช่วงตั้งครรภ์ให้ผู้ประกันตนม.33 พร้อมจ่าย ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save