News

กรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิฯ อมธ.ลาออก ปมขัดแย้งนายกฯ

เขียน: อชิรญา ปินะสา

กรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิ อมธ.แถลงลาออก เหตุโดนจำกัดความเห็นในการทำงานและผู้นำมีความคิดแคบ ฝ่ายนายกอมธ.แจง ปัญหาคือทัศนคติในการทำงานไม่ตรงกันและขาดการพูดคุย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา อินท์ธารี อธิเจริญลักษณ์ อดีตกรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิและส่งเสริมสวัสดิการนักศึกษา องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ได้แถลงการณ์ผ่านบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัวถึงเหตุผลที่ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิฯ อมธ. โดยเนื้อหาในแถลงการณ์ระบุถึงปัญหาของการลาออกไว้ว่า มีการจำกัดความคิดเห็นในการทำงานรวมถึงใช้อารมณ์และคำพูดในการลดทอนกำลังใจคนทำงาน

อินท์ธารีกล่าวว่า การทำงานเป็นองค์กร คือการทำงานร่วมกันของหลายคนและหลายฝ่าย มีตำแหน่งมีลำดับชั้น ซึ่งการที่มีคนทำงานแปลว่าทุกคนมีความคิดที่แตกต่างกัน หากแต่งตั้งใครมาทำงานแล้วควรจะยอมรับความคิดที่หลากหลายด้วย แต่เมื่อความคิดที่หลากหลายไม่สามารถเป็นไปในแนวทางเดียวกันได้สำหรับการทำงานในองค์กร ก็ควรที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่สภาพแวดล้อมในอมธ.ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เพราะมักถูกบีบบังคับให้ทำงานไปในทิศทางเดียว ในหลายครั้งมีการใช้คำถามเพื่อแดกดันให้คิดเห็นเหมือนกัน

อินท์ธารีกล่าวว่า ปัญหาที่พบเจอบ่อยคือการใช้คำพูดที่ไม่เคารพกัน และอีกปัญหาคือ หลายๆ อย่างที่ดูเหมือนทำเพื่อนักศึกษาแต่แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้น เช่น นายกอมธ. กำหนดว่าต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อที่จะได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานนั้น ทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อต้องการอาศัยความช่วยเหลือจากหน่วยงานนั้นในการจัดกิจกรรม โดยการเอารูปแบบโครงการไปเสนอ ทั้งที่ไม่ถามความเห็นผู้รับผิดชอบโครงการก่อน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ความคิดเห็นไม่ตรงกัน “อันนี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดว่าเราถูกนายทุนซื้อ และหลายๆ ครั้งเราไม่สามารถพูดอย่างตรงไปตรงมาได้ว่านี่คือปัญหา เพราะว่าเรารับเงินเขามาจัดกิจกรรม” 

อินท์ธารีกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาหลักคือการที่ผู้นำมีความคิดแคบ ไม่ใช่เรื่องการไม่พูดคุยถึงปัญหา หลายๆ ครั้งที่คุยหรือประชุม ไม่ได้ใช้เหตุผลมีแต่อารมณ์ และการทำงานฝ่ายพิทักษ์สิทธิฯ  แต่ไม่สามารถพิทักษ์สิทธิของคนในองค์กรที่โดนต่อว่าได้เลย จึงค่อนข้างย้อนแย้งกัน 

“อมธ.กำลังทำอะไรอยู่ ทำอย่างที่โฆษณาจริงหรือทำเพื่อตำแหน่งของตัวเอง ถ้าหากองค์กรยังไม่เปลี่ยนแนวการทำงานคงเป็นพลวัตที่ถอยหลังลงเรื่อยๆ เพราะเมื่อก่อนองค์การนักศึกษาสามารถพูดอย่างเปิดกว้างกว่านี้” อินท์ธารีกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา อพิชญา วิทยากุล นายกอมธ. ได้ออกมาชี้แจงและให้สัมภาษณ์ว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้น คิดว่าปัญหาคือการมีมุมมองที่ต่างกันและไม่เข้าใจกันมากกว่า เพราะสิ่งที่ทำก็ล้วนเป็นประโยชน์ของนักศึกษาทั้งนั้น แต่อาจจะไม่ใช่ทางตรง และการมาทำหน้าที่ตรงนี้ ต้องใช้การประนีประนอมเพื่อผลักดันอมธ.ได้คุยกับทุกฝ่าย 

อพิชญากล่าวว่า ในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งกรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิฯ มาก่อน จึงพยายามทำความเข้าใจและไม่กดดันการทำงานของฝ่ายพิทักษ์สิทธิมากเกินไป แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่เข้าใจกัน ทว่าไม่เคยนำมาพูดคุยกัน และไม่ทราบมาก่อนว่ามีความไม่พอใจกันเกิดขึ้น และเนื่องจากเคยทำงานตรงนั้นมาก่อนจึงอยากให้ทุกงานออกมาดี อาจมีบางคนมองว่าดุไป แต่ที่ต้องทำเช่นนั้นเพราะเป็นสิ่งที่มีข้อบังคับกำหนดไว้ว่าให้บริหารกิจการทั้งปวงโดยไม่ขัดต่อต่อกฎหมาย เพราะฉะนั้นอะไรที่ขัดต่อข้อกฎหมายหรือสร้างผลกระทบต่อบุคคลภายนอก ก็ต้องบริหารจัดการให้ดีที่สุด 

อพิชญากล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องพิทักษ์สิทธินักศึกษาเป็นเรื่องอันดับหนึ่งสำหรับองค์กร แต่ก็พยายามไม่ก้าวก่ายในส่วนของการทำงาน มีเพียงการถามความคืบหน้าเท่านั้น และกับอดีตกรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิฯ ได้พูดคุยกันค่อนข้างน้อย เนื่องจากต้องสื่อสารผ่านคนกลาง จึงอาจทำให้สารตกหล่นไปบ้าง ให้เกิดการเข้าใจผิดเพิ่มขึ้น แต่ก็ได้พูดคุยกันแล้วก่อนที่อินท์ธารีจะลาออก มองว่าปัญหาคือรูปแบบการทำงานที่ต่างกัน และมุมมองการทำงานค่อนข้างไม่ตรงกันมากกว่า 

“ที่เขาบอกว่าเราเอื้อต่อการจัดกิจกรรม รักษาผลประโยชน์เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการจัดกิจกรรม และเลือกรักษาภาพลักษณ์  แต่เรามองว่ารูปแบบการนำเสนอปัญหาหรือการแก้ไขปัญหามันมีหลายรูปแบบ และทุกอย่างสามารถพูดคุยกันได้ และมองว่าถ้าเรารักษาความสัมพันธ์ได้ เราก็ควรที่จะรักษาความสัมพันธ์” อพิชญากล่าวและว่า สิ่งหนึ่งในการทำงานกับองค์กรใหญ่คือการที่ต้องรักษาสมดุลกับคนในองค์กรทุกๆ คน และมองว่าสิ่งที่คนหนึ่งอยากทำแต่ไปกระทบสิ่งที่อีกคนอยากทำ ไม่ได้เป็นการใช้เสรีภาพ เพราะเสรีภาพต้องไม่กระทบและไม่เดือดร้อนคนอื่น สำคัญคือต้องคุยกันและพยายามหาจุดยืนร่วมกันให้ได้มากที่สุด

อพิชญากล่าวต่อว่า การที่ไม่ได้ใช้ช่องทางใดออกมาชี้แจงเพราะมองว่าเป็นการที่ต่างคนต่างตอบโต้กันไปมามันเหมือนกับเขาว่าเรา เราว่าเขา จึงไม่อยากใช้วิธีเหล่านั้น แต่เปิดใจคุยกันแล้ว ณ วันนั้น ได้มีการพูดคุยกันจนเข้าใจในระดับหนึ่งแล้ว จึงไม่ทราบว่าทำไมภายหลังถึงได้มีแถลงการณ์ออกมา

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีการติดต่อไปที่อดีตอนุกรรมการอมธ.ถึงความเห็นต่อการที่บุคคลในแถลงการณ์ลาออกว่าส่งผลกระทบต่อนักศึกษาอย่างไรบ้าง ก่อนจะได้รับคำตอบว่า การที่กรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิฯ ลาออก ไม่มั่นใจว่าส่งผลกระทบในภาพรวมการทำงานปัจจุบันมากน้อยเพียงใด แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอนคือส่งผลเชิงนโยบาย เพราะโดยปกติแล้วหน้าที่หลักของหัวหน้าฝ่าย หรือ กรรมการ มี สองประการ คือ รักษาทุกอย่างให้เป็นไปตามแผน ซึ่งประการนี้ไม่รู้ว่าการดำเนินกิจการของฝ่ายพิทักษ์สิทธิ์ฯ ตั้งแต่เปิดเทอมอยู่ในสภาพระหองระแหงจากความไม่ลงรอยอยู่แล้วหรือไม่ และไม่รู้ว่าควรประเมินการทำงานอย่างไร แต่ถ้ามีผลกระทบ คือจะทำให้กรรมการบริหารงานได้ไม่เต็มที่เนื่องจากความไม่ลงรอย ซึ่งคงต้องตรวจสอบนโยบายอีกที

อดีตอนุกรรมการอมธ.กล่าวต่อว่า ประการที่สองคือการกำหนดนโยบายเพราะกรรมการทำหน้าที่บังคับทิศทางการทำงานให้ ดังนั้นแม้ตอนนี้แม้หาคนมาแทนได้ แต่ก็กำลังเกิดสภาวะสูญญากาศของฝ่ายพิทักษ์สิทธิ์ฯ ซึ่งอาจเกิดจากคนที่เข้ามาใหม่ไม่สามารถเห็นภาพการทำงานได้ทะลุปรุโปร่ง หรืออาจเป็นปัญหาว่าคนที่รับเข้ามา รับเข้ามาปะหน้าแก้เขิน หรือรับเข้ามาแก้ปัญหา แต่ถ้ามีการกระจายอำนาจกันลงตัว งานก็จะเดินต่อไปได้เรื่อยๆ เพราะสุดท้ายตำแหน่งกรรมการอาจไม่สำคัญขนาดนั้นถ้าหากการกระจายอำนาจมีประสิทธิภาพ

“การลาออกของผู้แทนนักศึกษาไม่ได้เพิ่งมี มันเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยในการเมืองมธ.ถ้าเราเข้าใจนิเวศน์การเมืองมธ.ประมาณหนึ่ง เราก็จะเข้าใจได้ว่าลักษณะการบริหารคนภายในองค์กรของมธ. ไม่ได้ดีเท่าไรนัก และความผันผวนทางการเมือง หลายครั้งทำให้เกิดสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก การตัดสินใจหลายอย่าง จึงมักเกิดความขัดแย้งขึ้น การลาออกจึงมักเกิดขึ้นได้ปกติ” อดีตอนุกรรมการอมธ.กล่าว

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
1
Love รักเลย
0
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0

More in:News

News

ร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาดฯ จ่อเข้าสภาใหญ่ กมธ. ชี้อากาศดีคือสิทธิมนุษยชน

เขียน: ภัชราพรรณ ภูเงิน กมธ. ร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาดฯ อัปเดตร่างกฎหมายอากาศสะอาด ปัจจุบันผ่านการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการแล้ว และเตรียมเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวาระที่ 2 ต่อไป เพราะอากาศสะอาดคือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และคือหน้าที่ร่วมกันของรัฐและประชาชน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของ ...

News

ที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ชี้ ไทยยังไม่มีกฎหมายกำกับสื่อสตรีมมิง  แม้มีแผนแม่บทแต่ไม่นำเข้าที่ประชุมกสทช.

เรื่อง : พรวิภา หิรัญพฤกษ์ และ วรพร รุ่งวัฒนโสภณ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ชี้ ไทยไม่มีการกำกับดูแล OTT เพราะร่างแผนแม่บทไม่ถูกนำเข้าที่ประชุมกสทช. กระทบสื่อทีวี-ผู้บริโภค จากกรณีเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ...

News

ศาลตัดสิน คุก 2 ปี ‘พิรงรอง’ หลัง ทรูไอดี ฟ้อง กสทช.

เรื่อง : ยลพักตร์ ขุนทอง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำพิพากษา ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. พิรงรอง รามสูต ...

News

ทีมผลิตคลิปงานแรกพบเพื่อนใหม่ มธ. เผยยังได้ค่าจ้างไม่ครบ ด้านอมธ. แจงจ่ายช้าเพราะกำลังพิจารณาสาเหตุของค่าใช้จ่ายที่เกินงบ

เรื่องและภาพประกอบ : ทยาภา เจียรวาปี กลุ่มนักศึกษาคณะวารสารศาสตร์ฯ ทีมผลิตคลิปประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัย เผยได้รับค่าจ้างผลิตคลิปประชาสัมพันธ์งาน TU universe: Merging of the galaxies ไม่ครบ ทางผู้อำนวยการกองถ่ายคาด ...

News

ภาคประชาชนชี้ รัฐควรปรับปรุง ‘ร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP 2024)’ เพราะอาจดันค่าไฟสูงขึ้น เหตุตั้งกำลังผลิตเกินจำเป็น

เรื่อง : ณัฐกานต์ บุตรคาม ภาพประกอบ : จุฑาภัทร ทิวทอง “โครงการมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรมในประเทศไทย” ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาชนที่รณรงค์เรื่องพลังงาน ชี้ภาครัฐควรปรับปรุงร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP 2024)  เนื่องจากกำหนดกำลังผลิตไฟฟ้าเกินความจำเป็น ซึ่งจะทำให้ค่าไฟสูงขึ้น ...

News

ผอ. กองนโยบายภาษีชี้หนี้ครัวเรือนไทย เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมบริโภคนิยม ประชาชนใช้จ่ายเกินตัว แนะรัฐฯ ปฏิรูประบบการศึกษาสร้างทักษะติดตัว

เรื่อง : ณัฐธิดา นิติเกษตรสุนทร ภาพประกอบ : ทยาภา เจียรวาปี ผอ. กองนโยบายภาษีชี้หนี้ครัวเรือนไทยเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมบริโภคนิยมและค่านิยมในสังคม  ทำให้ประชาชนใช้จ่ายเกินตัว แนะรัฐฯ ปฏิรูปโครงสร้างตั้งแต่ระบบการศึกษาเพื่อสร้างทักษะติดตัวประชาชน เพราะดิจิทัลวอลเล็ตไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว เมื่อวันที่ ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save