เขียน: จิระกานต์ วรรณธะสุข
ภาพประกอบ: ปานชีวา ถนอมวงศ์

Dead By Daylight หรือในวงการสตรีมเมอร์เรียกว่า ‘ดบดล’ เกมแนวสยองขวัญเอาชีวิตรอดชื่อดัง ที่มักสร้างความตื่นเต้นด้วยการหยิบตัวละครจากแฟรนไชส์ชื่อดังมาปรากฏตัว เช่น Steve Harrington จากซีรีส์ชื่อดัง Stranger Things และล่าสุดได้สร้างความตื่นเต้นด้วยการเปิดตัวตัวละครตัวใหม่อย่าง ‘กระสือ’ ที่ถูกระบุชัดเจนว่าเป็นฆาตกรไทยตัวแรกในเกม
ผีกระสือในตำนานพื้นบ้านคือหญิงสาวที่ศีรษะหลุดลอยออกมาพร้อมเครื่องในห้อยระย้า ออกหากินของสดและเลือดในยามค่ำคืน ดีไซน์ของกระสือในดบดล ไม่ได้มาแบบกว้างๆ แต่ลงรายละเอียดอย่างชัดเจนว่าเป็นหญิงสาวสวมชุดไทยสีเขียว มีรอยแผลรอบคอเหมือนหัวพร้อมหลุดออกจากร่าง ป้ายไฟภาษาไทย ซึ่งสะท้อนว่าผู้พัฒนาเกมตั้งใจผูกเรื่องนี้ไว้กับความเป็นไทยเต็มตัว
ภาพลักษณ์เครื่องในที่เลือดสาดเหนือธรรมชาติถูกดัดแปลงให้เข้ากับกลไกการไล่ล่าในเกม สร้างบรรยากาศที่ทั้งดิบโหดและน่าขนลุก ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับตำนานผีไทยที่ถูกปลุกขึ้นมาในโลกดิจิทัล
แต่ทว่าตำนานผีที่มีหัวลอยมาพร้อมกับไส้นี้ ไม่ได้มีแค่ในไทยเท่านั้น ผีตัวนี้เป็นผีในตำนานจากหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีชื่อเรียกที่ต่างกันออกไป อย่างในฟิลิปปินส์ผีตัวนี้ชื่อว่า ‘มานานังกัลป์’ (Manananggal) ในมาเลเซียผีตัวนี้ชื่อ ‘เปนังกาลัน’ (Penanggalan) ในอินโดนีเซียผีตัวนี้ชื่อ ‘เลอัก’ (Leak) และในกัมพูชาผีตัวนี้มีชื่อว่า ‘เอิบ’หรือ ‘อาบ’ (Ahp) แม้จะมีความต่างกันในบางจุด แต่มีลักษณะเด่นที่เหมือนกันคือ กลางวันเป็นผู้หญิงธรรมดาและในกลางคืนจะออกหากินโดยการถอดหัวและไส้รวมไปถึงอวัยวะภายในส่วนอื่นออกมา
‘Khmer?’ ‘Cambodia’ ‘Hi This is Cambodia’ ‘Cambodian ghosts’ ‘Thailand claim ghost Cambodia lol’
ความคิดเห็นบางส่วนในโลกออนไลน์แม้จะไม่ได้เห็นการถกเถียงกันรุนแรงระหว่างประเทศโดยตรง แต่ก็มีการอ้างสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของวัฒนธรรมหรือการ ‘เคลม’ อยู่บ่อยครั้ง และประเทศที่เป็นคู่กรณีเรื่องการเคลมกับไทยมากที่สุด ยังคงเป็นกัมพูชา และในกรณีของกระสือก็เช่นกัน
การผูกตำนานกับชาติใดชาติหนึ่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลลัพธ์ของการที่วัฒนธรรมท้องถิ่นถูกนำเสนอในเวทีโลก ซึ่งย่อมหนีไม่พ้นประเด็นชาตินิยม
ทั้งนี้เมื่อตัวผู้เขียนได้ไปพูดคุยกับ ผศ.ดร.พิพัฒน์ กระแจะจันทร์ อาจารย์สาขาวิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกี่ยวกับประเด็นผีกระสือในเกมดบดลที่เราเรียกกัน ผศ.ดร.พิพัฒน์ เล่าว่า เหตุผลที่กระสือไม่ได้มีแค่ที่ไทยเป็นเพราะว่าการมีรากร่วมกับคนมอญ เขมร และกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใช้ภาษาในตระกูล Austronesian languageหรือภาษาในทางใต้ ภาษามลายู ซึ่งอพยพมาในภูมิภาคนี้ราว 3,000 ปีก่อน
แต่ภายใต้กรอบรัฐชาติสมัยใหม่หรือการเกิดขึ้นของประเทศต่างๆ ในภายหลัง ตำนานที่เคย ‘แชร์กันได้’ กลับถูกอ้างสิทธิ์และใช้เป็นเครื่องมือทางอัตลักษณ์
ผศ.ดร.พิพัฒน์ แสดงความเห็นว่าที่ไทยถูกเลือกให้เป็นเจ้าของกระสือในเกมนี้ ส่วนหนึ่งเพราะสื่อไทย ที่มีบทบาทสำคัญทำให้กระสือกลายเป็นภาพจำที่โดดเด่นที่สุดในระดับภูมิภาค ผ่านการสร้างภาพยนตร์และละคร ซึ่งมีการฉายซ้ำภาพของกระสือมายาวนาน
อาจารย์มองว่าการที่กัมพูชาพยายามแย่งชิงความเชื่อนี้ก็เป็นสิ่งที่ เข้าใจได้เพราะต้องเผชิญกับประวัติศาสตร์ที่เจ็บปวดจึงต้องการให้ประเทศของตนมีความพิเศษขึ้นมาเพื่อทดแทนในส่วนนั้น ซึ่งจะเกี่ยวโยงถึงแนวคิดรัฐชาติสมัยใหม่และชาตินิยมด้วย
“สร้างอนาคตไม่ได้ เลยต้องพยายามสร้างอดีต” อาจารย์บอกถึงสาเหตุที่กัมพูชาต้องการที่จะเป็นเจ้าของวัฒนธรรมนี้ คือเมื่อพยายามสร้างอดีตขึ้นมา ก็เป็นการพยายามสร้างอัตลักษณ์ให้รัฐชาติด้วย
ชุดความรู้ที่มาจาก รัฐชาติสมัยใหม่ ก็เป็นตัวเสริมให้เกิดการพยายามสร้างอัตลักษณ์ให้รัฐชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง ‘sense of belonging’ ความรู้สึกที่เป็นส่วนหนึ่ง เพื่อรวมคนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ท้ายที่สุดแล้วจะนำไปสู่ความเป็นชาตินิยม ถึงแม้ว่าแง่มุมของอาจารย์เอง จะมองว่ากระสือไม่ได้น่าภูมิใจขนาดนั้น และไม่ได้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่รู้จักเป็นวงกว้างมากนัก เหมือนกับกรณีมรดกโลกอื่นๆ
ถ้าหากพูดถึงเรื่องเกมแล้ว จะไม่ถามความคิดเห็นของคนในวงการเกมเลยไม่ได้ ตัวผู้เขียนจึงได้ติดต่อพูดคุยกับ นายสิทธิเดช สายพัทลุง ผู้อยู่ในวงการเกม นายสิทธิเดชให้ความเห็นว่า ถึงแม้กระสือในดบดลจะเป็นผีไทยที่มีการออกแบบ ที่ดูน่าสนใจ แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะผีไทยก็เคยปรากฏในเกมอื่นมาแล้ว และผู้เล่น ที่เล่นจริงจังจำนวนไม่น้อย มักเลือกตัวละครจากความสามารถของตัวละครมากกว่าความเป็นท้องถิ่น หากความสามารถของตัวละครไม่ตรงกับรูปแบบการเล่น ต่อให้เป็นตัวละครไทยก็คงไม่เล่นอยู่ดี
เมื่อถามถึงเรื่องราวเบื้องหลังของกระสือในเกม นายสิทธิเดชให้คำตอบว่า น้อยคนที่จะสนใจเบื้องหลังของตัวละครในเกม รูปแบบการเล่นและความสามารถของตัวละครเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากกว่า
นายสิทธิเดชเล่าเสริมว่าในแง่การตลาดของเกม เขามองว่าเกมทำขึ้นเพื่อขาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มผู้เล่น หรือทำการตลาดที่เจาะจงพื้นที่นั้นๆ เพราะในพื้นที่นั้นมีผู้เล่นเยอะอยู่แล้ว
ในมุมหนึ่ง มันเป็นการตลาดล้วนๆ เพราะภาพลักษณ์กระสือไทยถูกผลิตซ้ำในหนัง
และสื่อมานานจนติดหูติดตาโลกอยู่แล้ว คนเลยจำง่ายกว่าผีประเทศอื่นๆ และกระสือในวันนี้ ไม่ได้อยู่ใต้ถุนบ้านอีกต่อไป แต่กลายเป็นสิ่งที่รัฐชาติแข่งกันเคลมเพื่อความเป็นเจ้าของวัฒนธรรม