News

ฐปณีย์ย้ำคนทำสื่ออย่าละทิ้งความน่าเชื่อถือ หลังนักข่าวจำลองกินไก่ดิบออกอากาศ

เรื่องและภาพ : กัญญพัชร กาญจนเจตนี

ฐปณีย์ย้ำ การสร้างความน่าเชื่อถือและทำงานอย่างมีมาตรฐานคือสิ่งที่คนทำสื่อต้องหนักแน่น เหตุผู้สื่อข่าวช่องดังจำลองเหตุการณ์เสี่ยแป้งกินไก่ดิบออกอากาศ 

จากกรณีคดีเสี่ยแป้ง นาโหนด หรือ เชาวลิต ทองด้วง นักโทษชายซึ่งเป็นผู้ต้องโทษในคดีความผิดฐานเข้าปล้นผู้ต้องหาจากตำรวจสืบสวนขณะเข้าจับกุมคดียาเสพติด และยังมีประวัติอาชญากรรมเกี่ยวข้องกับคดีอาวุธปืน คดียาเสพติด คดีฆ่าและพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายคดี ได้หลบหนีจากการควบคุมตัวขณะเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราชและมีเส้นทางการหนีเข้าไปยังป่าในเทือกเขาบรรทัดที่คาบเกี่ยวหลายจังหวัดในภาคใต้ หลังจากนั้นได้มีผู้สื่อข่าวสำนักข่าวหนึ่งลงพื้นที่ รายงานข่าวเกี่ยวกับคดีและทดลองกินไก่ดิบเพื่อจำลองเหตุการณ์เสี่ยแป้งได้กินเพื่อประทังชีวิตในป่าโดยมีการออกอากาศทางโทรทัศน์นั้น เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 กลุ่มวิชาวิทยุและโทรทัศน์ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้จัดงานเสวนา มีผู้เข้าร่วมเสวนาหลายท่านซึ่งมี ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้ก่อตั้งสำนักข่าว The Reporters และธนกร วงษ์ปัญญา บรรณาธิการข่าวไทย สำนักข่าว The Standard เป็นผู้เข้าร่วมเสวนาซึ่งบางช่วงทั้งสองได้มีการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ฐปณีย์ เอียดศรีไชย กล่าวว่าในยุคที่ใคร ๆ ก็เป็นสื่อได้ สิ่งที่สำนักข่าวหรือคนทำข่าวต้องหนักแน่นและยืนหยัดให้ได้คือการสร้างความน่าเชื่อถือ เพราะหากสำนักข่าวทำงานอย่างมีมาตรฐานก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อวิชาชีพและสังคม หากผู้สื่อข่าวทำอะไรนอกเหนือไปจากการรายงานอย่างควรจะเป็น เช่นนั้นจะทำให้ประชาชนหมดความน่าเชื่อถือในตัวผู้สื่อข่าวไป “อย่างกรณีนักข่าวที่ไปกินไก่ดิบระหว่างการรายงานข่าว ต้องกลับมามองว่าเป็นการทำเกินหน้าที่นักข่าวไปหรือไม่ การทำข่าวสืบสวนสอบสวนเราสามารถเอาตัวเองเข้าไปทดสอบหาข้อเท็จจริงต่าง ๆ ได้ก็จริงแต่ว่าการทดสอบแบบที่น้องนักข่าวทำออกมามันอาจจะเกินเลยจากประเด็นที่ต้องทำไป ดังนั้นก็ต้องพิจารณากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยเพราะสุดท้ายยังไงคำถามจากสังคมก็จะถูกวนกลับมาเรื่องความน่าเชื่อถือของตัวคนทำข่าวเอง”

ฐปณีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาชนผู้รับสารเห็นวิธีการรายงานข่าวที่เกิดขึ้นอาจคิดว่าประเด็นที่ผู้สื่อข่าวรายงานเป็นเรื่องเล่น ๆ หรือใช้วิธีนี้เพื่อเรียกเรตติ้งความนิยมหรือเปล่า เพราะฉะนั้นผู้สื่อข่าวควรกลับมารายงานข่าวให้อยู่หลักคิดที่ว่าเพื่อให้ประชาชนได้รับความรู้หรือข่าวสารที่เป็นข้อเท็จจริงก็เพียงพอ หากมีการทำงานอย่างมีมาตรฐานโดยยืนอยู่บนหลักคุณธรรมและจริยธรรมของการเป็นสื่อใส่ลงไปบนผลงานที่ทำออกไปแล้วเสียงตอบรับจากประชาชนจะบอกเอง ว่าพวกเขาจะได้รับความน่าเชื่อถือและความไว้ใจตอบกลับมา

นอกจากนี้ ธนกร วงษ์ปัญญา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าหนึ่งในเหตุผลที่อาจทำให้ผู้สื่อข่าวในปัจจุบันพยายามหาช่องทางหรือวิธีการให้ข่าวที่พวกเขาทำได้รับความนิยมจนมองข้ามมาตรฐานในการทำงานไปคือค่าตอบแทนและสวัสดิการของผู้สื่อข่าวที่อาจไม่เพียงพอหรือไม่คุ้มค่ากับการต้องทำงานภายใต้กรอบจริยธรรม เพราะการมุ่งทำข่าวเร้าอารมณ์จะทำให้ปุถุชนสนใจมากกว่านำมาซึ่งรายได้จากการโฆษณา จึงต้องกลับมาตั้งคำถามว่าทำไมค่าตอบแทนจากการทำงานผู้สื่อข่าวถึงไม่สามารถตอบโจทย์การดำรงชีวิตได้เพียงพอ ควรมีการพูดคุยว่ารายได้ของผู้สื่อข่าวหรือผู้ที่อยู่ในองค์กรสื่อควรจะเริ่มต้นที่เท่าไหร่เพื่อให้เหมาะสมกับคุณค่าของวิชาชีพ ทำงานวันหยุดควรได้ค่าตอบแทนแบบไหน มีโอกาสพัฒนาก้าวหน้าในหน้าที่การงานหรือไม่อย่างไร เพราะเมื่อเทียบกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศจะเห็นความแตกต่างกันเรื่องรายได้ การเติบโตและความมั่นคงในหน้าที่การงานอย่างชัดเจน ฉะนั้นหากองค์กรสื่อสามารถให้ค่าตอบแทนและสวัสดิการที่คุ้มค่ากับการทำงานได้จะเป็นเรื่องดีเพราะสามารถช่วยให้คนที่ตั้งใจและอยากเข้ามาทำวิชาชีพนี้ทำงานต่อไปได้โดยไม่หมดกำลังใจและพะวงเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตจนต้องไปเน้นใช้วิธีทำข่าวเพื่อแข่งขันเอากระแสตอบรับจนละเลยมาตรฐานวิชาชีพที่ควรจะเป็น

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
0
Love รักเลย
0
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0

More in:News

News

การเสวนาโดยเครือข่าย TransEqual ชี้ Hate Crime รุนแรงกว่าอาชญากรรมทั่วไป เสนอรัฐแก้กฎหมายและเก็บข้อมูลอย่างจริงจัง

เขียน: ภัชราพรรณ ภูเงิน  ข้อมูลจากการเสวนาโดยเครือข่ายทอม ผู้ชายข้ามเพศ นอนไบนารี่ เพื่อความเท่าเทียม ระบุว่าอาชญากรรมจากความเกลียดชังรุนแรงกว่าอาชญากรรมทั่วไป เพราะมีแรงขับจากความเกลียดชัง พร้อมเสนอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ปัญหา ผลักดันกฎหมายการลงโทษผู้กระทำผิดแบบขั้นบันไดและเสนอให้มีการเก็บข้อมูลอย่างจริงจัง เมื่อวันที่ 27 กันยายน ในงานเสวนาออนไลน์ ‘สำรวจ ...

News

แม่ค้ามธ.ติงคนละครึ่ง ช่วยแต่ผู้บริโภคไม่ช่วยคนขาย แนะรัฐฯ ลดราคาวัตถุดิบหากหวังกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว

เขียน: กวินทัต สวัสดิ์นพรัตน์ แม่ค้าโรงอาหารมธ.ติงโครงการคนละครึ่งช่วยผู้บริโภคแต่ไม่ได้ช่วยคนขาย เพราะรายรับไม่เพิ่มขึ้นแถมต้องแบกรับค่าใช้จ่ายต้นทุนวัตถุดิบ แนะรัฐบาลควรทำนโยบายลดต้นทุนวัตถุดิบระยะยาวเพื่อช่วยทั้งผู้ค้าและผู้บริโภค จากกรณีที่เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แถลงนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยเตรียมเสนอโครงการคนละครึ่งพลัส ซึ่งเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อยอดมาจากโครงการคนละครึ่งเดิม โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายสินค้าและบริการให้กับประชาชนในราคาครึ่งหนึ่ง เพื่อลดภาระค่าครองชีพ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา วัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย และทำให้เกิดการกระจายตัวของเม็ดเงินภายในประเทศ โดยจะเริ่มใช้จ่ายได้ภายในเดือนตุลาคมนั้น อังสนา ...

News

กองกิจฯ มธ.ขอความร่วมมือนศ.งดใช้บริการร้านเหล้าเสี่ยงผิดกฎหมาย ฝั่งสรรพสามิตและตำรวจ ตีความต่าง ปมอำนาจผู้กำหนดระยะห่างที่เหมาะสม

เขียน: ศิวะ พุ่มอรุณ กองกิจการนักศึกษา มธ.ขอความร่วมมือนักศึกษาไม่สนับสนุนร้านเหล้าที่เสี่ยงผิดกฎหมาย หลังพบบางร้านมีจุดที่ห่างจากรั้วมหาวิทยาลัยไม่ถึง 10 เมตร และมีการแสดงดนตรีสดทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบสถานบันเทิง ด้านสภ.คลองหลวงและกรมสรรพสามิตพื้นที่ปทุมธานี ตีความต่างเรื่องผู้มีอำนาจกำหนดระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างร้านเหล้าและมหาวิทยาลัย  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2558 ซึ่งใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ...

News

กรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิฯ อมธ.ลาออก ปมขัดแย้งนายกฯ

เขียน: อชิรญา ปินะสา กรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิ อมธ.แถลงลาออก เหตุโดนจำกัดความเห็นในการทำงานและผู้นำมีความคิดแคบ ฝ่ายนายกอมธ.แจง ปัญหาคือทัศนคติในการทำงานไม่ตรงกันและขาดการพูดคุย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา อินท์ธารี อธิเจริญลักษณ์ ...

News

FAIR เตรียมยื่นแก้กม.ยาเสพติดให้ผู้ใช้ยาไม่ผิดอาญา

เขียน: ธีรภัทร กมล และศิวะ พุ่มอรุณ  มูลนิธิเพื่อสิทธิความหลากหลาย เตรียมยื่นเสนอแก้กฎหมายยาเสพติดให้ผู้ใช้ยาไม่มีความผิดทางอาญา เพราะผู้ใช้ยาไม่ใช่อาชญากร พร้อมเสนอ Harm Reduction เป็นบริการทางเลือก หวังลดอคติจากคนในสังคม  เมื่อวันที่  13 ก.ย. ที่ ...

News

ผนังอิฐหน้า SC3 ถล่ม คาดวัสดุเสื่อมสภาพ วิศวกรยืนยันไม่กระทบโครงสร้างหลัก

เขียน: เปรมชนก พฤกษ์พัฒนรักษ์ ผนังอิฐหน้าอาคาร SC3 ถล่ม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เจ้าหน้าที่คาดวัสดุเสื่อมสภาพและพายุลมแรงเป็นเหตุ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ วิศวกรยืนยันโครงสร้างหลักของอาคารปลอดภัยและอยู่ระหว่างวางแผนซ่อมแซม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.12 น. วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เกิดเหตุผนังอิฐตกแต่งถล่มลงมาบริเวณทางเข้าอาคารเรียนรวมสังคมศาสตร์ 3 (SC3) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากจุดดังกล่าวไม่มีนักศึกษาหรือเจ้าหน้าที่อยู่ในพื้นที่ขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภายในอาคารกล่าวว่า ได้ยินเสียงดังเป็นวัตถุตกลงมา ก่อนจะพบว่าแผงอิฐที่ติดผนังตรงทางเข้าก่อนถึงลิฟต์ร่วงลงมา พนักงานจึงได้รีบนำเชือกมากั้นพื้นที่ภายในเวลาประมาณ 20 นาทีหลังเกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัย พนักงานอีกคนหนึ่งที่ใช้พื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุกล่าวว่า ผนังในจุดดังกล่าวเคยมีรอยร้าวมาแล้วก่อนหน้านี้ และเป็นจุดที่ 4 ที่พบรอยร้าวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บางจุดเคยมีน็อตยึดไว้ แต่ก็เริ่มเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะหลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อต้นปีที่ผ่านมาที่ห้อง M-20 ชั้น M  ภูวกร ธีระกาญจน์ วิศวกรโยธาปฏิบัติการ กองบริหารศูนย์รังสิต กล่าวว่าจุดที่ถล่มนั้นเป็นเพียงผนังตกแต่ง ไม่ใช่โครงสร้างหลักของอาคาร ตัวอิฐไม่ได้ยึดติดกับโครงสร้างโดยตรง แต่มีเหล็กและน้ำยาเจาะเสียบทำหน้าที่ยึดไว้ ซึ่งวัสดุดังกล่าวมีคุณสมบัติเหมือนกาวและมีแนวโน้มว่าเสื่อมสภาพจากความชื้นและอายุการใช้งาน ประกอบกับช่วงเกิดเหตุมีพายุฝนและลมแรง จึงอาจทำให้ผนังที่แยกชั้นจากโครงสร้างหลักนั้นร่วงลงมา  ภูวกรกล่าวว่า อาคาร SC3 เพิ่งตรวจรับเมื่อเดือนตุลาคม ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save