Writings

ยาดม : ไม้เด็ดนักศึกษาไทย ไพ่ลับหอมเขย่าโลก

เรื่องและภาพ : จักรพรรดิ พีชาตะนันท์

“ไอเ-ย มหาลัยมันเปลืองยาดมจังวะ” ข้อความตัดพ้อเชิงขำขันจากผู้ใช้งาน X รายหนึ่ง (Twitter เดิม) ที่มีผู้คนเห็นด้วยและกดปุ่มรีโพสต์ไปมากกว่าหนึ่งหมื่นหนึ่งพันครั้ง ประกอบกับภาพสะท้อนในกระจกที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ภาพของนักศึกษาชายคนหนึ่งที่มือขวากำลังพิมพ์งานอย่างขะมักเขม้น และมือซ้ายที่กำลังกำกระปุกยาดมสีเขียวเอาไว้แน่น คงจะพอเป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่ายาดมเป็นหนึ่งอาวุธสำคัญที่จำเป็นกับนักศึกษาไทยและกำลังมีแนวโน้มที่จะได้ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งอาวุธสำคัญของซอฟต์พาวเวอร์ไทยส่งไปเฉิดฉายยังต่างประเทศ

ทำไมนักศึกษาถึงชอบดมยาดม?

โดยปกติเมื่อเราถูกถามว่า “ทำไมถึงชอบดมยาดม?” เราก็มักจะตอบตามความเคยชินว่า “เพราะมันหอม” “เพราะมันสดชื่นดี” แต่นี่ก็อาจไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริงก็ได้ ถ้าหากจะหาเหตุผลจริง ๆ ที่เราชอบดมยาดมกันก็คงคาดเดาได้สองสาเหตุ สาเหตุแรก เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเขตร้อนที่จะต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนเหมือนอยู่ในหม้อทอดไร้น้ำมันตลอดทั้งปี เมื่อร่างกายคนเราต้องเผชิญกับความร้อนเป็นเวลานาน ก็อาจจะทำให้เกิดอาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ และหน้ามืดได้ง่าย ยาดมที่มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยได้เป็นอย่างดี โดยทั่วไปนั้น ยาดมจะประกอบไปด้วยส่วนผสมของสมุนไพรหลายชนิด ที่ช่วยในการบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย หายใจไม่ออก และช่วยให้กลิ่นหอมสดชื่น ยกตัวอย่างเช่น พิมเสน, การบูร, เกล็ดสะระแหน่, น้ำมันยูคาลิปตัส และสมุนไพรอื่น ๆ อีกมากมาย

นอกจากอากาศที่ร้อนแล้ว อีกหนึ่งสาเหตุที่อาจจะทำให้ผู้ใช้ที่เป็นนักศึกษาวิงเวียนศีรษะ ตาลายได้เช่นกันก็คือความเครียดจากการเรียน ไม่ว่าจะเป็นการบ้านกองโต รายงานความยาวหนึ่งร้อยหน้ากระดาษ หรือข้อสอบปลายภาคสุดหฤหรรษ์ ซึ่งก็ต่างเป็นตัวจุดชนวนความเครียดของนักศึกษาได้ทั้งสิ้น ดังนั้นการดมยาดมจึงสามารถช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนดังกล่าวได้ รวมไปถึงช่วยผ่อนคลายความเครียดด้วยการผสมกลิ่นหอมของสมุนไพรตามภูมิปัญญาไทย ที่มีคุณสมบัติคล้ายกับการทำสุคนธบำบัดหรือกลิ่นบำบัด (Aromatherapy) นั่นเอง

ยาดมจัดได้ว่าเป็นหนึ่งยาสามัญประจำบ้านสุดคลาสสิก ที่ไม่ว่าเราจะมองไปทางไหนก็จะเจอ ทั้งแบบหลอดและแบบกระปุก หน้าตาสีสันแตกต่างกันออกไปตามการออกแบบของแต่ละยี่ห้อ รวมถึงกลิ่นที่แตกต่างกันออกไปตามส่วนประกอบของยาดมยี่ห้อนั้น ๆ แต่ถึงแม้จะมีหน้าตาและกลิ่นที่แตกต่างกัน แต่ยาดมทุกหลอดต่างสามารถทำหน้าที่บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย หายใจไม่ออก และใช้เพื่อช่วยสร้างความผ่อนคลายได้ในสรรพคุณคล้ายคลึงกัน จึงไม่น่าแปลกใจที่ยาดมจะสามารถเอาชนะใจคนไทยรวมทั้งกลุ่มวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ได้อย่างง่ายดาย

ยาดม จากยาสามัญประจำบ้านสู่อุตสาหกรรมระดับพันล้าน

ถึงแม้เราจะไม่สามารถระบุได้ว่าคนไทยเริ่มใช้ยาดมมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่หากนับตามจำนวนปีที่ผลิตของยาดมยี่ห้อเก่าแก่ที่สุดของไทยที่เริ่มผลิตมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479 นั้นก็หมายความว่าคนไทยมียาดมที่เป็นรูปเป็นร่างใช้มานานกว่า 88 ปีแล้ว เริ่มต้นจากยาดมพีเป็กซ์หลอดสีแดงทรงป้อม ๆ เหมือนดินสอกุด ๆ ที่เป็นต้นแบบของยาดมตราโป๊ยเซียน นำมาสู่การเกิดขึ้นของยาดมแบรนด์ใหม่ ๆ มากมายในท้องตลาด ทั้ง เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์, หงส์ไทย, เฌอเอม, โบว์แดง, วังว่าน และแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย จนมาสู่ยุคที่ยาดมกลายเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่ารวมเกือบ 4,500 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2564 จากยาดมที่เป็นสมุนไพรภูมิปัญญาพื้นบ้าน ผลิตใช้กันในประเทศ กลับกลายมาเป็นสินค้าที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมากมายมหาศาลและมีชื่อเสียงไปทั่วภูมิภาคและทั่วโลก

จากการประเมินของ บริษัท เบอร์แรม (1958) จำกัด บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เป๊ปเปอร์มินท์ ฟิลด์และเซียงเพียงอิ๊ว ในปี พ.ศ. 2564 ระบุว่าจากการประเมินฐานประชากรไทยที่น่าจะใช้ยาดมคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 10% ของประชากรที่ใช้ยาดม และส่วนใหญ่มีโอกาสซื้อมากกว่าหนึ่งชิ้นเนื่องจากเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีโอกาสหายได้บ่อย ทั้งทำหายเอง โดนเพื่อนยืมไป หรือทำไส้ยาดมหก จึงประเมินตัวเลขขั้นต่ำที่ยาดม 2 ชิ้นต่อคนไทยหนึ่งคน ดังนั้นเมื่อนำมาคำนวณกับราคาเฉลี่ยราว 20 – 30 บาทก็จะได้มูลค่าของตลาดยาดมคร่าว ๆ อยู่ที่ประมาณ 4,500 ล้านบาท เรียกได้ว่าดมกันอย่างบ้าระห่ำเลยทีเดียว และยังคงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดพักตามการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ได้มากที่สุด ทั้งการปรับปรุงกลิ่น, รูปร่างหน้าตาของยาดมให้มีความสวยงาม ทันสมัยมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงช่องทางการจำหน่ายที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น

Hello, my name is ยาดม from Thailand!!

ในเมื่อยาดมมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าเป็นไอเทมยอดฮิตของคนไทยขนาดนี้ ชาวต่างชาติที่ได้มีโอกาสแวะมาเมืองไทยทั้งทีก็คงพลาดไม่ได้ที่จะทดลองซื้อยาดมของดีคู่ใจคนไทยมาทดลองใช้กันเสียหน่อย เพียงแค่เปิดฝา สูดหายใจลึก ๆ นักท่องเที่ยวต่างก็พากันตกหลุมรัก ถูกอกถูกใจจนต้องขอหิ้วกลับบ้านกันยกใหญ่ หรือบ่อยครั้งก็เป็นคนไทยเองที่เป็นคนนำซอฟต์พาวเวอร์นี้ไปเผยแพร่สู่ต่างชาติ บางคนไปทำงาน บางคนไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศก็พกพายาดมคู่ใจไปด้วยและแบ่งปันให้กับเพื่อนใหม่ชาวต่างชาติได้ทดลองใช้ ถึงแม้ในครั้งแรกที่เห็นชาวต่างชาติส่วนใหญ่อาจจะรู้สึกสงสัยและประหลาดใจว่าคนไทยดมอะไรกันตลอดเวลา จนหลายครั้งก็ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสารเสพติดหรือเปล่า แต่เมื่อได้ลองใช้แล้วต่างก็พากันตกตะลึงและประทับใจในความน่าอัศจรรย์ของกลิ่นยาดมไทยไปตาม ๆ กัน ผู้ใช้งาน X รายหนึ่ง (Twitter เดิม) เคยเล่าว่าในครั้งแรกที่เพื่อนชาวต่างชาติของเขาได้ทดลองดมยาดม ถึงกับตกตะลึงจนถึงขั้นตั้งฉายาให้ยาดมไทยว่าเป็นถังออกซิเจนขนาดพกพาเลยทีเดียว

อาจกล่าวได้ว่ายาดมน่าจะเป็นอีกหนึ่งอำนาจละมุนที่น่าสนใจทั้งในมิติของความเป็นเอกลักษณ์ แปลกใหม่ในสายตาชาวต่างชาติ และในแง่ของการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ใครจะไปคิดว่ายาดมหลอดเล็ก ๆ เหล่านี้จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึงหลักพันล้านด้วยตัวของมันเอง แต่ก็เป็นเรื่องน่าเสียดายอีกเช่นกัน ที่เราแทบไม่เคยเห็นภาพยาดมไทยได้รับการผลักดันจากรัฐบาลในฐานะซอฟต์พาวเวอร์ส่งออกไปยังต่างชาติอย่างจริงจัง ทั้งที่ยาดมเองก็อาจถูกจัดกลุ่มได้ว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงได้ จากการถูกเลือกไปเป็นของฝากยอดฮิต หรือการเข้าไปอยู่ในมือของศิลปิน ดนดังระดับโลกโดยไม่ต้องพึ่งพากลไกการโฆษณา ทั้งลิซ่า วง BLACKPINK, แฮร์รี่ สไตล์ (Harry Styles), หนุ่ม ๆ จากวง GOT7 แบมแบม, แจ็คสัน หวัง (Jackson Wang), มาร์ค ต้วน (Mark Tuan) รวมถึงยองแจ (Youngjae) นอกจากนี้ยังมีศิลปินคนดังต่างชาติอีกมากมายที่เคยมีโอกาสได้ใช้และรู้สึกประทับใจในยาดมของไทย

ถึงแม้ยาดมจะถูกมองว่าเป็นของพื้น ๆ ธรรมดาทั่วไปเมื่ออยู่ในประเทศไทย แต่เมื่อยาดมไปอยู่ในต่างประเทศ กลับถูกมองว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่และน่าประทับใจพอ ๆ กันกับซอฟต์พาวเวอร์ขึ้นชื่อของไทยอย่างต้มยำกุ้ง เผลอ ๆ อาจจะน่าสนใจกว่าต้มยำกุ้งเสียด้วยซ้ำ มันจะดีแค่ไหนกัน ถ้าหากวันหนึ่งยาดมไทยจะได้รับการสนับสนุนที่ดีจากรัฐบาล กลายเป็นสินค้าไทยที่รู้จักไปกันทั่วโลกเหมือนกับที่คนรู้จักต้มยำกุ้ง เราอาจจะได้เห็นภาพชาวอเมริกันเปิดร้านขายยาดมนำเข้าจากไทยอยู่กลางนิวยอร์ค มีการประกวดเฟ้นหาสุดยอดวัตถุดิบทำยาดม มีภาพโฆษณาของยาดมแบบใหม่ในดีไซน์ที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน เพียงแค่คิดก็น่าสนุกแล้ว อดใจรอเห็นยาดม ไพ่ลับซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ตีตื้นต้มยำกุ้งแล้วก้าวขึ้นไปเป็นสุดยอดซอฟต์พาวเวอร์บนเวทีโลกไม่ไหวเสียแล้ว


อ้างอิงข้อมูล

https://www.brandage.com/article/26035

https://www.marketthink.co/17817

https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/892284

https://www.bangkokbiznews.com/business/914970

https://brandthink.me/content/whatissoftpower

https://www.tnnthailand.com/news/trueinside/143260/

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
4
Love รักเลย
4
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0

More in:Writings

Writings

ภาษารุนแรงในเพลงร็อก: ศิลปะ การต่อต้าน หรือแค่คำหยาบ

เรื่อง: ณฐนนท์ สายรัศมี ภาพประกอบ: สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ หากดนตรีคือกระจกสะท้อนสังคม เพลงร็อกก็คงเป็นกระจกที่แตกเป็นเสี่ยงๆ บาดคม ท้าทาย และไม่เคยเลือกแสดงเพียงด้านที่งดงาม  ภายใต้เสียงกีตาร์อันกระหึ่ม เสียงกลองที่ดุดัน และน้ำเสียงของนักร้องที่มักเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ เกลียด หรือผิดหวัง ...

Writings

‘Human Zoo’ หรือ  ‘สวนสัตว์มนุษย์ ’ เมื่อความบันเทิงของชนชั้นสูงคือการลดทอนความเป็นมนุษย์

เรื่อง : อชิรญา ปินะสา ภาพประกอบ : Rare Historical photos จะเป็นอย่างไรหากมนุษย์เสพสุขโดยการบั่นทอนและลดคุณค่ามนุษย์ด้วยกันเอง ? ในช่วงศตวรรษที่ 19 จนถึงต้นศตวรรษที่ 20 ...

Writings

มากกว่าแค่ลวดลาย รอยสักที่บอกเล่าเรื่องราว อัตลักษณ์ และวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไป

เรื่อง : ฐิดาพร พิมพ์สีโคตร ภาพประกอบ : สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ จากภาพลักษณ์ที่เคยถูกมองว่าเป็นเพียงสัญลักษณ์ของกลุ่มคนบางกลุ่ม ปัจจุบัน ‘รอยสัก’ ได้กลายปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่พบเห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นบนร่างกายของนักแสดงชื่อดัง นักกีฬา ศิลปิน ...

Writings

Graffiti ศิลปะแห่งการต่อสู้ไม่รู้จบ

เรื่องและภาพ : สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ เพราะไม่ว่าจะต้องสู้กับใคร ศิลปะจะคงอยู่ข้างผู้คนเสมอ… ภาพวาดที่มีมากกว่าความสวยงาม และแฝงไว้ด้วยความคิดอย่างเต็มเปี่ยมจึงสามารถพาผู้ชมย้อนกลับไปมองไปปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมต่างๆ ได้ทุกขณะ  ดังนั้น เมื่อกำแพงกลายเป็นแคนวาส สีสันฉูดฉาดที่พ่นลงไปเป็นตัวแทนการแสดงออกทางความคิด กราฟิตี้ (Graffiti) ศิลปะที่คนส่วนใหญ่มองว่าขบถ ...

Lifestyle

อนาคตอยู่ในมือใคร

เรื่องและภาพประกอบ: ณฐนนท์ สายรัศมี เพราะกลัวว่าทางเลือกที่เลือกเองจะผิดไปเพราะสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเพราะอยากรู้ว่าชีวิตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรเพราะทนไม่ได้ที่จะไม่รู้ว่าปัญหาที่เผชิญอยู่จะจบลงแบบไหนและที่สำคัญ เพราะวุ่นวายกับคำถามว่าประสบความสำเร็จไหม ในโลกที่ทุกคนดูเหมือนจะทำทุกอย่างสำเร็จได้ง่ายๆเจนเนอเรชัน ‘เรา’ ซึ่งคุ้นเคยกับการประกาศตัวว่า ‘ไม่มีศาสนา’ และตั้งคำถามกับอะไรที่ ‘งมงาย’ เสมอจึงกลับกลายเป็นเจนที่พุ่งหาที่พึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการหยิบไพ่ดูดวง ลองเปิดแอปทำนาย หรือสวดมนต์ขอพร ...

Writings

คนสั่งไม่รู้ แต่คนรู้ต้องทำตาม : นโยบายห้ามเผาที่ไม่ตอบโจทย์ปัญหาฝุ่น PM 2.5

เรื่อง : สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ ภาพประกอบ : เก็จมณี ทุมมา “ไฟป่าไม่ได้คร่าเพียงแค่ผืนป่า แต่ยังคร่าชีวิตผู้พิทักษ์ฯ ของเราไปด้วย” คำอุทิศจากบุคลากรของอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกถึงเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่พลัดหลงจากกลุ่ม หลังภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่ป่าทางทิศตะวันออกของบ้านห้วยมะยม ตำบลเวียง อำเภอฝาง ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save