News

เครือข่ายธุรกิจอาหารทะเลยั่งยืนเผย ประมงอวนลาก ทำลายนิเวศทะเล แต่หยุดไม่ได้เพราะธุรกิจอาหารสัตว์

เรื่อง : วรพร รุ่งวัฒนโสภณ

ภาพประกอบ : ณัฐธิดา นิติเกษตรสุนทร

กก.ผจก.บริษัทปลาออร์แกนิกฯ ซึ่งทำเครือข่ายธุรกิจอาหารทะเลยั่งยืน ชี้ประมงอวนลากกระทบระบบนิเวศทางทะเล เหตุธุรกิจอาหารสัตว์รับซื้อปลาเป็ดจากประมงอวนลาก แนะผู้บริโภคเลือกซื้อหมูไก่ที่เลี้ยงระบบปล่อยอิสระ

สุภาภรณ์ อนุชิราชีวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปลาออร์แกนิกวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจจำหน่ายอาหารทะเลจากการทำประมงพื้นบ้านแบบยั่งยืน ให้สัมภาษณ์ว่า การทำประมงโดยใช้เครื่องมืออวนลากเป็นการทำประมงทำลายล้าง เพราะอวนลากมีตาถี่จึงกวาดต้อนสัตว์น้ำหลายชนิดและขนาด รวมถึงลากหน้าดิน ปะการัง และหญ้าทะเลไปรวมกันที่ก้นถุง ซึ่งทำลายระบบนิเวศและทรัพยากรทางทะเล

สุภาภรณ์ กล่าวว่า เมื่อ พ.ศ.2558 สหภาพยุโรปให้ใบเหลืองประเทศไทย เพราะมีการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing หรือ IUU Fishing) สาเหตุหนึ่งคือพบเรืออวนลากผิดกฎหมายจำนวนมาก จึงมีการออกพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และเรียกเรืออวนลากที่ผิดกฎหมายมาจดทะเบียนให้ถูกกฎหมาย แม้จะทำลายทรัพยากรทางทะเล ในปัจจุบันประเทศไทยยังคงมีเรืออวนลากที่ผิดกฎหมายอยู่

สุภาภรณ์ซึ่งจบการศึกษาด้านการจัดการทรัพยากรชายฝั่ง กล่าวว่า สัตว์น้ำที่ถูกอวนลากลากมามีสัดส่วนโดยประมาณ ดังนี้ ร้อยละ 30 เป็นสัตว์น้ำสำหรับบริโภค และร้อยละ 70 เป็นปลาเป็ดหรือสัตว์น้ำสำหรับทำอาหารสัตว์ โดยร้อยละ 30-50 ของปลาเป็ดเป็นสัตว์น้ำวัยอ่อนและลูกปลาเศรษฐกิจ ส่งผลให้อัตราการขยายพันธุ์ของสัตว์น้ำลดลง แต่ยังคงมีการทำประมงอวนลากอยู่

“ในอดีตปลาเป็ดถือว่าไม่มีประโยชน์ แต่ปัจจุบันปลาเป็ดเป็นปลาที่มีคุณค่ามากในการทำอาหารสัตว์ และเอาอย่างอื่นมาทดแทนไม่ได้ ฉะนั้นธุรกิจอาหารสัตว์จึงเป็นอันตรายมากต่อทรัพยากรทางทะเล แต่เราทำอะไรไม่ได้เลย เพราะมีบริษัทผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่รองรับอยู่” สุภาภรณ์กล่าวและว่า การเติบโตของธุรกิจอาหารสัตว์ทำให้ปลาเป็ดเป็นปลาที่มีโรงงานมารับซื้อมากขึ้น เพื่อนำไปทำเป็นปลาป่นและแปรรูปเป็นอาหารสัตว์

สุภาภรณ์ กล่าวว่า ธุรกิจอาหารสัตว์เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ตอบสนองความต้องการของธุรกิจเลี้ยงสัตว์ เช่น หมูและไก่ แต่ผู้บริโภคสามารถหลีกเลี่ยงการสนับสนุนธุรกิจอาหารสัตว์และเปลี่ยนแปลงการบริโภคได้โดยการเลือกบริโภคหมูและไก่ที่เลี้ยงด้วยระบบปล่อยอิสระ (Free Range) ซึ่งปล่อยให้สัตว์ออกนอกโรงเรือนเพื่อหากินตามธรรมชาติได้อย่างอิสระ แทนการซื้อหมูและไก่จากธุรกิจอาหารแบบครบวงจรรายใหญ่

กก.ผจก.บริษัทปลาออร์แกนิกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 มาตรา 57 ห้ามมิให้ผู้ใดจับสัตว์น้ำหรือนำสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็กกว่าที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดขึ้นเรือประมง อาจแก้ปัญหาการทำลายระบบนิเวศและทรัพยากรทางทะเลได้ แต่ในขณะนี้ยังไม่บังคับใช้ เนื่องจากไม่มีการออกประกาศกำหนดที่แสดงรายละเอียดของสัตว์น้ำขนาดเล็กมารองรับ

“ถ้าบังคับใช้มาตรา 57 เรืออวนลากจะหายไป เพราะไม่ว่าอย่างไรบนเรือก็ต้องมีสัตว์น้ำขนาดเล็กกว่าที่กำหนด ดังนั้นปลาเป็ดจะหายไป และธุรกิจอาหารสัตว์ก็จะอยู่ไม่ได้ เรามองว่าที่ยังไม่บังคับใช้เพราะหากบังคับใช้อาจกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวโยงกับธุรกิจอาหารสัตว์” สุภาภรณ์กล่าวและว่า ควรอนุญาตให้ปลาขนาดเล็กติดขึ้นมาได้บ้าง แต่ต้องกำหนดเป็นร้อยละของปริมาณปลาทั้งหมดร่วมกัน เพื่อป้องกันการกวาดลากเข้ามา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลนิธิความยุติธรรมเชิงสิ่งแวดล้อม (EJF) เผยแพร่รายงาน ‘อุตสาหกรรมอวนลากในประเทศไทย ผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลของไทยจากการลากอวนและข้อเสนอแนะในการปฏิรูปอุตสาหกรรมฯ’ ระบุว่า จากข้อมูลเมื่อ พ.ศ.2564 ประเทศไทยมีจำนวนเรืออวนลากที่จดทะเบียนถูกกฎหมายทั้งที่อ่าวไทยและทะเลอันดามันทั้งหมด 3,370 ลำ และมีจำนวนเรือประมงพื้นบ้านทั้งหมด 51,237 ลำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2565 นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์เพื่อชี้แจงการแก้ปัญหาการจับสัตว์น้ำวัยอ่อนโดยใช้มาตรา 57 ว่าประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนจึงมีสัตว์น้ำหลากหลายชนิด และเครื่องมือประมงที่ใช้ไม่สามารถเลือกจับรายชนิดได้อย่างชัดเจน ดังนั้นถ้าบังคับใช้มาตรา 57 หากพบสัตว์น้ำขนาดเล็กบนเรือเพียงตัวเดียวก็มีความผิด จึงต้องใช้บทบัญญัติตามมาตราอื่นด้วย ทั้งนี้กรมประมงเคยจัดประชุมนำเสนอผลการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นไปแล้ว 4 ครั้ง ในช่วง พ.ศ.2564-2565 แต่ยังไม่ได้ข้อยุติที่เหมาะสมที่จะนำไปปฏิบัติได้จริง

บริษัท ปลาออร์แกนิกวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด เป็นองค์กรที่ร่วมมือกับประมงพื้นบ้าน 6 ชุมชนในเครือข่ายรักษ์ปลารักษ์ทะเล และเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างผู้บริโภคกับชาวประมงพื้นบ้าน เพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายอาหารทะเลแบบยั่งยืนผ่านร้านปลาออร์แกนิก โดยมีเป้าหมายในการใช้ทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการค้าอย่างเป็นธรรม รวมถึงให้ผู้บริโภคเข้าถึงอาหารทะเลที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และตรวจสอบแหล่งที่มาได้

อ้างอิง

มูลนิธิความยุติธรรมเชิงสิ่งแวดล้อม (EJF).(3 กุมภาพันธ์ 2566).อุตสาหกรรมอวนลากในประเทศไทย ผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลของไทยจากการลากอวนและข้อเสนอแนะในการปฏิรูปอุตสาหกรรมฯ.สืบค้น 2 กันยายน 2567.https://ejfoundation.org/reports/%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5

กรมประมง.(11 มิถุนายน 2565).กรมประมง…ชี้แจง ! การดำเนินการตามมาตรา 57 แห่ง พ.ร.ก. การประมง พ.ศ. 2558 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม. สืบค้น 2 กันยายน 2567.https://www4.fisheries.go.th/local/index.php/main/view_activities/1210/146051

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
0
Love รักเลย
0
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0

More in:News

News

แม่ค้ามธ.ติงคนละครึ่ง ช่วยแต่ผู้บริโภคไม่ช่วยคนขาย แนะรัฐฯ ลดราคาวัตถุดิบหากหวังกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว

เขียน: กวินทัต สวัสดิ์นพรัตน์ แม่ค้าโรงอาหารมธ.ติงโครงการคนละครึ่งช่วยผู้บริโภคแต่ไม่ได้ช่วยคนขาย เพราะรายรับไม่เพิ่มขึ้นแถมต้องแบกรับค่าใช้จ่ายต้นทุนวัตถุดิบ แนะรัฐบาลควรทำนโยบายลดต้นทุนวัตถุดิบระยะยาวเพื่อช่วยทั้งผู้ค้าและผู้บริโภค จากกรณีที่เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แถลงนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยเตรียมเสนอโครงการคนละครึ่งพลัส ซึ่งเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อยอดมาจากโครงการคนละครึ่งเดิม โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายสินค้าและบริการให้กับประชาชนในราคาครึ่งหนึ่ง เพื่อลดภาระค่าครองชีพ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา วัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย และทำให้เกิดการกระจายตัวของเม็ดเงินภายในประเทศ โดยจะเริ่มใช้จ่ายได้ภายในเดือนตุลาคมนั้น อังสนา ...

News

กองกิจฯ มธ.ขอความร่วมมือนศ.งดใช้บริการร้านเหล้าเสี่ยงผิดกฎหมาย ฝั่งสรรพสามิตและตำรวจ ตีความต่าง ปมอำนาจผู้กำหนดระยะห่างที่เหมาะสม

เขียน: ศิวะ พุ่มอรุณ กองกิจการนักศึกษา มธ.ขอความร่วมมือนักศึกษาไม่สนับสนุนร้านเหล้าที่เสี่ยงผิดกฎหมาย หลังพบบางร้านมีจุดที่ห่างจากรั้วมหาวิทยาลัยไม่ถึง 10 เมตร และมีการแสดงดนตรีสดทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบสถานบันเทิง ด้านสภ.คลองหลวงและกรมสรรพสามิตพื้นที่ปทุมธานี ตีความต่างเรื่องผู้มีอำนาจกำหนดระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างร้านเหล้าและมหาวิทยาลัย  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2558 ซึ่งใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ...

News

กรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิฯ อมธ.ลาออก ปมขัดแย้งนายกฯ

เขียน: อชิรญา ปินะสา กรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิ อมธ.แถลงลาออก เหตุโดนจำกัดความเห็นในการทำงานและผู้นำมีความคิดแคบ ฝ่ายนายกอมธ.แจง ปัญหาคือทัศนคติในการทำงานไม่ตรงกันและขาดการพูดคุย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา อินท์ธารี อธิเจริญลักษณ์ ...

News

FAIR เตรียมยื่นแก้กม.ยาเสพติดให้ผู้ใช้ยาไม่ผิดอาญา

เขียน: ธีรภัทร กมล และศิวะ พุ่มอรุณ  มูลนิธิเพื่อสิทธิความหลากหลาย เตรียมยื่นเสนอแก้กฎหมายยาเสพติดให้ผู้ใช้ยาไม่มีความผิดทางอาญา เพราะผู้ใช้ยาไม่ใช่อาชญากร พร้อมเสนอ Harm Reduction เป็นบริการทางเลือก หวังลดอคติจากคนในสังคม  เมื่อวันที่  13 ก.ย. ที่ ...

News

ผนังอิฐหน้า SC3 ถล่ม คาดวัสดุเสื่อมสภาพ วิศวกรยืนยันไม่กระทบโครงสร้างหลัก

เขียน: เปรมชนก พฤกษ์พัฒนรักษ์ ผนังอิฐหน้าอาคาร SC3 ถล่ม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เจ้าหน้าที่คาดวัสดุเสื่อมสภาพและพายุลมแรงเป็นเหตุ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ วิศวกรยืนยันโครงสร้างหลักของอาคารปลอดภัยและอยู่ระหว่างวางแผนซ่อมแซม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.12 น. วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เกิดเหตุผนังอิฐตกแต่งถล่มลงมาบริเวณทางเข้าอาคารเรียนรวมสังคมศาสตร์ 3 (SC3) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากจุดดังกล่าวไม่มีนักศึกษาหรือเจ้าหน้าที่อยู่ในพื้นที่ขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภายในอาคารกล่าวว่า ได้ยินเสียงดังเป็นวัตถุตกลงมา ก่อนจะพบว่าแผงอิฐที่ติดผนังตรงทางเข้าก่อนถึงลิฟต์ร่วงลงมา พนักงานจึงได้รีบนำเชือกมากั้นพื้นที่ภายในเวลาประมาณ 20 นาทีหลังเกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัย พนักงานอีกคนหนึ่งที่ใช้พื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุกล่าวว่า ผนังในจุดดังกล่าวเคยมีรอยร้าวมาแล้วก่อนหน้านี้ และเป็นจุดที่ 4 ที่พบรอยร้าวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บางจุดเคยมีน็อตยึดไว้ แต่ก็เริ่มเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะหลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อต้นปีที่ผ่านมาที่ห้อง M-20 ชั้น M  ภูวกร ธีระกาญจน์ วิศวกรโยธาปฏิบัติการ กองบริหารศูนย์รังสิต กล่าวว่าจุดที่ถล่มนั้นเป็นเพียงผนังตกแต่ง ไม่ใช่โครงสร้างหลักของอาคาร ตัวอิฐไม่ได้ยึดติดกับโครงสร้างโดยตรง แต่มีเหล็กและน้ำยาเจาะเสียบทำหน้าที่ยึดไว้ ซึ่งวัสดุดังกล่าวมีคุณสมบัติเหมือนกาวและมีแนวโน้มว่าเสื่อมสภาพจากความชื้นและอายุการใช้งาน ประกอบกับช่วงเกิดเหตุมีพายุฝนและลมแรง จึงอาจทำให้ผนังที่แยกชั้นจากโครงสร้างหลักนั้นร่วงลงมา  ภูวกรกล่าวว่า อาคาร SC3 เพิ่งตรวจรับเมื่อเดือนตุลาคม ...

News

1663 เสนอสปส. เพิ่มสวัสดิการหนุนหญิงท้อง

เขียน: ศิวะ พุ่มอรุณ และสุชานันท์ สหวงศ์เจริญ ภาพประกอบ: ฐิดาพร พิมพ์สีโคตร สายด่วน 1663 เสนอสปส. เพิ่มงบกว่า 6,000 ล้านบาท ชดเชยรายได้ช่วงตั้งครรภ์ให้ผู้ประกันตนม.33 พร้อมจ่าย ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save