เรื่อง : ชลธิชา บุญเรือง
ภาพประกอบ : เก็จมณี ทุมมา
ในยุคที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและความกดดันจากทุกทิศทาง ทั้งในโลกออฟไลน์และออนไลน์ ทุกย่างก้าวของชีวิตเต็มไปด้วยเสียงกดดันจากสังคมที่คอยบอกให้เราต้องวิ่งตามให้ทันตลอดเวลา “ต้องเรียนให้เก่ง ” “ต้องได้เข้ามหาลัยดัง ๆ” “ต้องได้ทำงานดี ๆ ” “ต้องไม่หยุดพัฒนาตัวเอง” “ต้องประสบความสำเร็จ” “อายุเท่านี้ต้องมีเงินเก็บเท่านู้นเท่านี้” ฯลฯ ท่ามกลางสังคมที่วัดคุณค่าคนด้วยมาตรฐานและค่านิยมบางอย่างของสังคมอยู่ตลอดเวลา ความปรารถนาอย่างหนึ่งจึงค่อย ๆ โผล่พ้นขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ ในใจของคนยุคนี้ นั่นคือ ความปรารถนาในอิสรภาพการใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง ไม่ต้องแข่งขัน ไม่ต้องพิสูจน์ตัวเองกับใคร และไม่ต้องใช้ชีวิตในแบบที่ใครคาดหวัง
หากเป็นเมื่อสิบปี ยี่สิบปีก่อน ความฝันของใครหลาย ๆ คนอาจเป็นการมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง ๆ การมีบ้านหลังใหญ่ การเป็นคนที่มีชื่อเสียง หรือการเป็นที่นับหน้าถือตาของคนในสังคม แต่ในวันนี้ ความฝันของใครหลาย ๆ คนในยุคนี้กลับกลายเป็นการฝันที่จะมีชีวิตเงียบ ๆ ในแบบที่ต้องการ การได้ใช้ชีวิตในจังหวะที่ตัวเองกำหนด ไม่ต้องแข่งขันกับใคร และไม่ต้องถูกคาดหวังให้ทำตามสูตรสำเร็จของสังคม
หนึ่งในภาพสะท้อนที่น่าสนใจในช่วงนี้ คือการที่คนชื่นชอบอนิเมะแนวต่างโลก หรือ Isekai กันมากขึ้น โดยคำว่าIsekai(อิเซไค) มาจากคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นว่า異世界ที่แปลว่า ต่างโลก ซึ่งคำว่า Isekai มักถูกนำมาใช้เรียกแทนประเภทของสื่อบันเทิงแฟนตาซีของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นนวนิยาย มังงะ อนิเมะ ฯลฯ ที่มีลักษณะเนื้อหาหลักที่ตัวเอกของเรื่องต้องเจอเหตุบางอย่างที่ทำให้ต้องทะลุมิติหรือไปเกิดใหม่ที่โลกอื่นซึ่งมีเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างไปจากโลกปัจจุบันที่จากมา เช่น โลกในเกม โลกในนิยาย โลกต่างยุค โลกต่างมิติ ซึ่งประเด็นหนึ่งที่ทำให้คนยุคใหม่ชื่นชอบอนิเมะแนวต่างโลก(Isekai) คือ การที่ตัวเอกของเรื่องมักจะได้รับโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่และมีอิสรภาพในการใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการโดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อจำกัดเหมือนในโลกเดิมที่จากมา
ตัวอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยในช่วงนี้คืออนิเมะเรื่อง “สกิลสุดพิสดารกับมื้ออาหารในต่างโลก” ผลงานจากสตูดิโอ Mappa ที่ดัดแปลงมาจากผลงานไลต์โนเวลของ เร็น เองุจิ(Ren Eguchi) เป็นอนิเมะที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามหลังจากฉายซีซั่นที่ 1 ไปเมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา และมีกำหนดการฉายซีซั่นที่ 2 ในเดือนตุลาคม ปี 2025 นี้ โดย “สกิลสุดพิสดารกับมื้ออาหารในต่างโลก” เป็นอนิเมะแนวต่างโลก(Isekai) ที่มีสไตล์การเล่าเรื่องที่ไม่หวือหวาตามสไตล์อนิเมะแนว Slice of life ที่เล่าถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเหตุการณ์และชีวิตประจำวันธรรมดา ๆ ของตัวละครอย่างเรียบง่าย และไม่มีพล็อตเรื่องที่ซับซ้อนหรือตื่นเต้นเร้าใจมากนัก ซึ่งในอนิเมะเรื่องนี้ก็เน้นการนำเสนอไปที่เรื่องราวเบา ๆ อย่างการทำอาหารมื้อต่าง ๆ กิจกรรมในแต่ละวันของตัวละครหลัก รวมถึงความสัมพันธ์ของตัวละครต่าง ๆ ในเรื่อง อาจมีการต่อสู้ การเมืองและประเด็นอื่น ๆ บ้างนิดหน่อยเพื่อความสนุกของเรื่อง แต่จะไม่ได้เล่าลงลึกหรือนำมาเป็นประเด็นหลักของเรื่องขนาดนั้น
โดยตัวเอกในอนิเมะเรื่องนี้อย่าง มุโคดะ สึโยชิ ก็เป็นเพียงพนักงานบริษัทธรรมดาคนหนึ่งที่ดันจับพลัดจับผลูทะลุมิติจากญี่ปุ่นยุคปัจจุบันมายังต่างโลกที่มีเซ็ตติ้งเป็นโลกแฟนตาซีเวทย์มนตร์ในยุคกลาง โดยมุโคดะเป็นหนึ่งในคนที่ถูกอัญเชิญมาในฐานะผู้กล้าพร้อมกับนักเรียนอีก 3 คนโดยราชวงศ์ของอาณาจักรเรเซเฮล ด้วยความหวังที่ว่าผู้กล้าเหล่านี้จะสามารถต่อสู้กับจอมมารเพื่อความสงบสุขของมนุษยชาติได้ ทว่าตัวเอกของเรื่องอย่างมุโคดะกลับไม่ได้ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้ เขาไม่ได้ต้องการเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ที่ดูร่ำรวยจนน่าสงสัย ไม่ได้ต้องการเป็นผู้กล้าที่จะมากอบกู้โลก ไม่ได้ใฝ่ฝันอยากมีอำนาจหรือชื่อเสียง ได้มีโอกาสมาต่างโลกแบบนี้ทั้งที เขาต้องการแค่การได้มีชีวิตที่อยู่รอดปลอดภัย ได้ใช้ชีวิตเรียบง่าย และได้เดินทางผจญภัยไปในที่ต่าง ๆ ในต่างโลกอย่างอิสระก็เท่านั้น ดังนั้นมุโคดะจึงตัดสินที่จะไม่เป็นผู้กล้าและขอแยกตัวออกมาใช้ชีวิตของตัวเองเงียบ ๆ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการผจญภัยในต่างโลกของเขาในอนาคต ที่เรื่องราวแต่ละวันดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ไม่หวือหวา ต่างกับอนิเมะแนวต่างโลกเรื่องอื่นที่ตัวเอกมักจะพบเจอเรื่องราวชวนระทึกใจหรือต้องเจอกับบทพิสูจน์สุดหินมากมายเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ เช่น การเสี่ยงชีวิตต่อสู้เพื่อกอบกู้มนุษยชาติ การขึ้นเป็นผู้ปกครองอาณาจักร กลับกันเรื่องราวในแต่ละวันของมุโคดะดำเนินไปอย่างสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ ไม่กดดัน ได้ออกเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ที่ไม่เคยไป ดื่มด่ำกับบรรยากาศและธรรมชาติอันงดงามในต่างโลก ได้พบเจอผู้คนใหม่ ๆ และได้มิตรภาพดี ๆ ไม่ว่าจะกับสัตว์อสูรรับใช้ เทพธิดา นักผจญภัย พ่อค้า ฯลฯ ได้ล่าสัตว์อสูร ลงดันเจี้ยน ได้สนุกไปกับการทำอาหารและเพลิดเพลินไปกับมื้ออาหารสุดอร่อย เหนื่อยก็หาที่พัก มีเวลาว่างก็เข้าเมืองเอาของไปขายเพื่อหาเงินบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ
ในโลกความเป็นจริงปัจจุบัน เรามักไม่มี “อิสรภาพ” ในการเลือกใช้ชีวิตในแบบที่เราใฝ่ฝัน คนจำนวนมากถูกบีบบังคับโดยเงื่อนไขชีวิต หน้าที่ ความรับผิดชอบ หนี้สิน ความคาดหวัง และกรอบบางอย่างของสังคม การได้ใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ทำได้ง่าย ๆ และสังคมเองก็ยังไม่เปิดพื้นที่ให้ทางเลือกนี้ดู “น่าภูมิใจ” เหมือนกับการใช้ชีวิตเพื่อมุ่งสู่การเป็นคนที่ประสบความสำเร็จตามที่สังคมคาดหวัง
แต่ในโลกของอนิเมะแนวต่างโลกนี้ ตัวละครมักสามารถ “ตัดสินใจ” ได้ว่าอยากจะมีชีวิตแบบไหน การที่มุโคดะเลือกจะไม่เป็นผู้กล้า ทั้งที่มีโอกาสในการใช้ชีวิตท้าทายเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้กล้าที่ใคร ๆ ต่างชื่นชมสรรเสริญสักครั้ง กลับกลายเป็นสิ่งที่สัมผัสใจคนดูในโลกความจริงอย่างเราได้อย่างน่าประหลาด
สิ่งที่เคยถูกสังคมมองว่าดู “ไร้คุณค่า” “ไร้เป้าหมาย” อย่างการใช้ชีวิตในจังหวะช้า ๆ ที่เรียบง่าย ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องดิ้นรนไขว่คว้าความสำเร็จเหมือนใคร ๆ อย่างมุโคดะที่ขอแค่มีที่นอนอุ่น ๆ มีวัตถุดิบดี ๆ ไว้ทำอาหาร ได้เพลิดเพลินกับอาหารอร่อย ๆ และได้ออกเดินทางผจญภัยไปยังที่ต่าง ๆ พร้อมสัตว์อสูรรับใช้สุดน่ารัก กลับกลายเป็นภาพในฝันของคนยุคปัจจุบัน เพราะมันคือการใช้ชีวิตในแบบของตัวเองที่ไม่ต้องพยายามพิสูจน์อะไรกับใคร ไม่มีใครมากำหนดว่าเราต้องเป็น “อย่างนั้นอย่างนี้” ถึงจะถือว่า “ประสบความสำเร็จในชีวิต”
อีกหนึ่งความฝันของใครหลายคนหลังจากได้ดูอนิเมะเรื่องนี้ คือ การได้เป็นคนเก่งโดยที่ไม่ต้องดิ้นรนพยายามอะไรมากมาย โดยในเรื่องนี้เมื่อตัวละครเอกอย่างมุโคดะทะลุมิติมาต่างโลกเขาก็ได้รับสกิลพลังวิเศษหลายอย่างติดตัวทันที เช่น สกิลเน็ตซูเปอร์ โดยเน็ตซูเปอร์เป็นเว็บไซต์สั่งสินค้าออนไลน์ที่มีสินค้าหลากหลายตั้งแต่ของใช้ในชีวิตประจำวัน วัตถุดิบทำอาหาร ยารักษาโรค เสื้อผ้า ไปจนถึงเครื่องครัว เครื่องนอน ซึ่งสกิลนี้ก็ทำให้เขาไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นอยู่ในต่างโลก อยากได้อะไรก็แค่กดสั่งซื้อ แถมเขายังสามารถหาเงินได้ง่าย ๆ จากสกิลนี้โดยการซื้อของจากเน็ตซูเปอร์มาขายต่อให้กับคนในต่างโลกได้อีกต่างหาก นอกจากนี้ยังมีสกิลภาษาที่ช่วยให้สามารถเข้าใจภาษาในโลกนี้ได้ทันที สกิลไอเท็มบอกซ์ที่สามารถเก็บของได้อย่างมหาศาล และสกิลวินิจฉัยที่ช่วยให้ตรวจสอบสถานะ(Status)ของตัวเองและคนอื่นได้
ในโลกความจริง ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดมาพร้อมพริวิเลจหรือพรสวรรค์บางอย่างติดตัว ไม่ได้เกิดมาแล้วเป็นคนเก่งเลย แต่ต้องอาศัยความพยายามและเวลาในการเรียนรู้ฝึกฝนและพัฒนาตัวเอง การจะเป็นคนเก่งไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นเหมือนในอนิเมะ และในโลกความจริงเงินไม่ใช่สิ่งที่หาได้ง่าย ๆ ต้องใช้เวลายี่สิบกว่าปีในระบบการศึกษา กว่าจะเรียนจบ กว่าจะได้เข้าทำงาน และกว่าจะอดทนทำงานอย่างหนักในแต่ละวันเพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงชีพ ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
นอกจากนี้ในเนื้อเรื่อง ระหว่างการเดินทางมุโคดะยังมีโอกาสได้พบและทำพันธะสัญญาเป็นเจ้านายกับสัตว์อสูรรับใช้หลายตน อย่างเช่น เฟล และซุย ที่ปรากฏตัวในซีซั่น 1 แถมยังได้เทพธิดาหลายองค์มอบพรคุ้มครองให้อีก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ยิ่งทำให้การใช้ชีวิตในต่างโลกของเขามันช่างแสนจะง่ายดายขึ้นไปอีก ตลอดการเดินทางไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไรเข้ามาเขาก็จะสามารถผ่านไปได้ด้วยดีเพราะมีผู้อุปถัมภ์คอยช่วยเหลือ
ขณะที่ในโลกความจริง ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับการสนับสนุนหรือการช่วยเหลือจากคนอื่น ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับการหยิบยื่นโอกาสดี ๆ ให้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือเมื่อชีวิตเจอกับอุปสรรคหรือปัญหา หลายคนต้องพยายามไขว่คว้าโอกาสและต้องดิ้นรนฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ไปให้ได้ด้วยตัวของตัวเอง
นอกจากนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการที่มุโคดะมี “อิสรภาพในการใช้ชีวิต” ได้นั้นไม่ได้เกิดจากความปรารถนาในการใช้ชีวิตของเขาเท่านั้น แต่มันเป็นผลมาจากเงื่อนไขสำคัญอย่างหนึ่งที่เขามี นั่นคือ การมี “อิสรภาพทางการเงิน” โดยการมีอิสรภาพทางการเงิน คือ การมีสถานะทางการเงินที่ดีและมั่นคงมากพอต่อการใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้จนสิ้นอายุขัยโดยที่ไม่ต้องพะวงกับค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน หรือกังวลว่าเงินจะหมดในอนาคต ซึ่งการที่มุโคดะเป็นคนที่ทะลุมิติมาจากญี่ปุ่นยุคปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยทุนนิยม ทำให้มุโคดะสามารถใช้ความรู้ที่ติดตัวตัวมาจากโลกเดิมประกอบกับการมีสกิลพิเศษหลายอย่าง โดยเฉพาะสกิลเน็ตซูเปอร์ มาใช้ในการหาเงินได้อย่างมหาศาลจากการซื้อสินค้าในเน็ตซูเปอร์ของโลกปัจจุบันมาขายต่อให้กับคนในต่างโลกที่ยังอยู่ในโลกยุคกลาง เช่น ขายผลิตภัณฑ์ความงามอย่างสบู่ แชมพู ครีมนวดที่ให้ผลลัพธ์ยอดเยี่ยมให้กับบรรดาคุณหญิงคุณนายที่รักความสวยความงาม ขายเกลือกับพริกไทยที่ราคาแพงเหมือนทองให้กับกิลด์พ่อค้า ยังไม่นับรวมกับเงินที่ได้จากการขายสัตว์อสูรราคาสูงที่เขาล่ามาได้อย่างง่ายดายเพราะมีสัตว์อสูรรับใช้คอยช่วยล่าให้อีก เรียกได้ว่าแค่ลงแรงและเวลาเพียงเล็กน้อย อาศัยแรงสนับสนุน ความรู้ ความสามารถ และทรัพยากรที่มี มุโคดะก็สามารถมีทรัพย์สินมากพอที่จะใช้ชีวิตแบบไม่ต้องกังวลเรื่องเงินไปตลอดชีวิตได้
ขณะที่ในโลกความจริงปัจจุบัน การจะไปถึงจุดที่เรียกว่ามี “อิสรภาพทางการเงิน” ไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ไปถึงได้ หลายคนทำงานมาทั้งชีวิตแต่สุดท้ายกลับยังไม่มีเงินเก็บเหลือเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในวัยเกษียณด้วยซ้ำ ยิ่งในบริบทของคนยุคใหม่ที่ต้องใช้ชีวิตในยุคที่เศรษฐกิจไม่เคยดี ข้าวของแพง ค่าแรงก็ไม่ขยับ บางคนทำงานหาเงินมาได้ก็ต้องใช้จ่ายไปกับสิ่งจำเป็นต่าง ๆ ในชีวิต ซ้ำอาจยังไม่พอจ่ายจนต้องไปกู้หนี้ยืมสิน หรือต้องเอาเวลาที่ว่างจากการทำงานปกติไปหางานพิเศษทำเพิ่มอีก ไม่ต้องพูดถึงการมีเงินเก็บไว้ใช้ชีวิตตามที่ใจปรารถนาหรือการมีเวลาให้กับความฝันที่แท้จริงของตัวเอง การจะมีเงินเหลือออม เหลือลงทุน จนมีสินทรัพย์มากพอที่จะมีอิสรภาพทางการเงินและมีอิสรภาพในการชีวิตได้นั้นเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถเอื้อมถึงได้ในชีวิตจริง
อนิเมะเรื่อง “สกิลสุดพิสดารกับมื้ออาหารในต่างโลก” จึงไม่ใช่แค่อนิเมะแนวต่างโลกที่หลายคนเลือกเปิดขึ้นมาดูเพลิน ๆ ระหว่างทานข้าวเท่านั้น แต่คือศิลปะที่สะท้อน “ความฝัน” ของใครหลาย ๆ คนในยุคปัจจุบันที่เหนื่อยกับใช้ชีวิตในโลกจริงที่เรามักไม่มี “โอกาส” ได้ใช้ชีวิตที่เราต้องการจริง ๆ และต้อง “ดิ้นรน” แข่งขันและไขว่คว้าความสำเร็จอยู่ตลอดเวลา เราต่างก็ถูกบีบบังคับโดยเงื่อนไขชีวิต หน้าที่ ความรับผิดชอบ ภาระหนี้สิน ความคาดหวัง และกรอบของสังคม เพื่อให้สามารถอยู่รอดใน “โลกแห่งความจริง” แห่งนี้ต่อไปได้ การเลือกใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการเหมือนตัวละครในอนิเมะไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ทำได้ง่าย ๆ
ตลอดทุกช่วงของชีวิตเราต่างก็ถูกบีบให้วิ่งตามเส้นทางและความคาดหวังของสังคมตลอดเวลา ต้องเข้าสู่ระบบการศึกษาที่ต้องแข่งขันกันตั้งแต่อนุบาล ต้องได้เรียนโรงเรียนดี ๆ ต้องสอบติดมหาลัยดัง พอเรียนจบเข้าสู่การทำงานก็ต้องแข่งขันกับคนเก่งอีกมากมายเพื่อให้ได้งานมา พอได้ทำงานก็ต้องแข่งกันทำงานแข่งกันพัฒนาตัวเองเพื่อประสบความสำเร็จอีก ชีวิตเป็นเหมือนสนามสอบที่ไม่มีวันหยุดพัก จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนต้องหลบมาพักใจในโลกของอนิเมะแฟนตาซี ที่อย่างน้อยตัวละครที่เราชื่นชอบก็ยังสามารถเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองได้จริง ๆ ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และไม่ต้องเหนื่อยล้ากับการดิ้นรนเอาตัวรอดเหมือนกับตัวเราในโลกความจริง
หากมีผู้ชมได้ดูอนิเมะเรื่องนี้แล้วเกิดความรู้สึกที่ว่า “อยากทะลุมิติไปต่างโลกได้แบบนี้บ้าง” “อยากเป็นแบบตัวละครตัวนี้บ้าง” หรือ “อยากใช้ชีวิตแบบนั้นบ้าง” นั่นอาจเป็นสัญญาณที่กำลังบอกว่า คนยุคนี้กำลัง “หมดแรง” และอยาก “หนี” ไปจากโลกแห่งความจริงที่โหดร้ายแห่งนี้หรือเปล่า?
หากชีวิตที่สงบ เรียบง่าย และเต็มไปด้วยอิสรภาพ กลับกลายเป็นสิ่งที่ต้องหามาเติมเต็มผ่านโลกแฟนตาซี เราอาจต้องหันมาทบทวนกันสักหน่อยแล้วว่า สิ่งที่เราเรียกว่า “โลกความจริง” แห่งนี้ กำลังบีบให้มนุษย์เป็นอะไรบางอย่างที่เขาไม่ได้อยากเป็นหรือไม่? ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเราเคยได้มีโอกาสเป็นผู้กำหนดเส้นทางชีวิตของตัวเอง “จริง ๆ” หรือเปล่า? อิสรภาพที่จะได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราใฝ่ฝันจะมีวันมาถึงหรือไม่? หรือสุดท้ายเราต่างก็ต้องถูกบีบให้วิ่งตามเส้นทางที่โลกความจริงแห่งนี้กำหนดไว้ไปตลอดทั้งชีวิตก็เท่านั้น