News

สมาชิกองค์กรทำไรท์ ชี้ พ.ร.บ. นิรโทษกรรมที่มัดรวม ม.112 อาจไม่ผ่านสภา เหตุขัดกับจุดยืนพรรคร่วม

เขียน : ปานชีวา ถนอมวงศ์

ภาพประกอบ : ศิรประภา จารุจิตร

องค์กรทำไรท์ เครือข่ายประชาชนเพื่อสิทธิทางการเมืองชี้ ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมมัดรวมมาตรา 112 อาจไม่ผ่านสภา เพราะขัดกับจุดยืนของพรรคร่วมรัฐบาล แนะหากต้องการแก้ไขปัญหามาตรา 112 ควรแก้ตัวบทกฎหมายของมาตรา 112 ให้มีความสมเหตุสมผลและชัดเจนขึ้น

จากการที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีวาระพิจารณารายงานของ “คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม” ซึ่งมีชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยเป็นประธานกมธ. โดยข้อสังเกตของ กมธ. ในท้ายรายงานมีเนื้อหาเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมคดีอ่อนไหวที่ยังคลุมเครือ ได้แก่คดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 110 (ความผิดฐานประทุษร้ายต่อพระราชินีหรือรัชทายาท) และมาตรา 112 (ความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์) ซึ่งที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก ‘ไม่เห็นชอบ’ ต่อข้อสังเกตดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 270 ต่อ 152 เสียงนั้น

นัสรี พุ่มเกื้อ สมาชิกองค์กรทำไรท์ (Thumb Rights) เครือข่ายประชาชนเพื่อสิทธิทางการเมือง ซึ่งรณรงค์เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมประชาชนในคดีทางการเมือง ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่ที่ประชุมมีเสียงข้างมากไม่เห็นชอบต่อข้อสังเกตคือการที่รายงานไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนต่อกระบวนการในการนิรโทษกรรมคดีอ่อนไหว รวมถึงเมื่อพิจารณาผู้ที่ได้รับผลประโยชน์แล้วมีประชาชนจำนวนมากที่เป็นผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 ซึ่งขัดต่อจุดยืนของ สส. ส่วนมากจากพรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศว่าจะไม่นิรโทษกรรมให้แก่ผู้กระทำความผิดตามมาตรา 112 ดังนั้น ในการตั้ง กมธ. ศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ นิรโทษกรรมในครั้งนี้ จึงเป็นเหมือนการประวิงเวลาเพื่อหาฉันทามติของสภาจนกว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพื่อพิจารณาในสภาร่วมกันต่อไป แต่การที่เสียงข้างมากในการประชุมวาระนี้ออกมาว่าไม่เห็นชอบ ก็มีนัยสำคัญว่าท้ายที่สุดแล้วประเด็นมาตรา 112 จะถูกปัดตกในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมในการประชุมสภาครั้งถัดไป ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็ยังคงไม่มีท่าทีที่ชัดเจนในการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

นัสรีกล่าวว่า การยกเว้นไม่ให้นิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 ซึ่งเป็นการดำเนินคดีเนื่องจากเหตุจูงใจทางการเมืองเป็นการตอกย้ำว่ารัฐเลือกที่จะไม่ให้โอกาสประชาชนได้พูดหรือแสดงความคิดเห็นเพื่อหาทางออกในการพัฒนาประเทศ ดังนั้นเพื่อลดความขัดแย้ง จึงควรมีการนิรโทษกรรมให้กับคดีที่มาจากการใช้สิทธิและเสรีภาพของตัวเองในการวิพากษ์วิจารณ์อย่างสุจริตเพื่อประชาธิปไตย โดยที่ไม่ได้ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น “การละเว้นไม่ให้นิรโทษกรรมมาตรา 112 ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่ารัฐปิดกั้นไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการหาทางออกเพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง นอกจากนี้ การที่ประชาชนมีความผิดจากการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ยิ่งทำให้ความใกล้ชิดระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชนมีน้อยลง” นัสรีกล่าว

นัสรีกล่าวว่า กรณีที่มีข้อกังวลว่า หากนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 แล้ว ผู้ที่ได้รับโทษก็อาจกลับมากระทำผิดซ้ำอีก ก็สามารถตั้งเงื่อนไขให้ชัดเจนว่า จะให้นิรโทษกรรมหากผู้ถูกดำเนินคดีไม่กลับมากระทำผิดซ้ำ อย่างไรก็ตาม หากต้องการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ควรพิจารณาที่ตัวบทกฎหมายของมาตรา 112 และความสมเหตุสมผลของการตัดสินความผิดให้ถี่ถ้วน เนื่องจากมีหลายคนถูกดำเนินคดีโดยที่ยังมีความคลุมเครือว่าแท้จริงแล้วมีความผิดหรือไม่ เช่น แชร์โพสต์ที่มีเนื้อหาทำนองหมิ่นประมาทกษัตริย์ ทั้งที่การแชร์โพสต์ควรเป็นพื้นที่ของประชาชนในการใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อรับข้อมูลข่าวสารอย่างตรงไปตรงมา นอกจากนี้ยังมีการกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ คือ ระวางโทษจำคุกระหว่าง 3-15 ปี ซึ่งตอกย้ำว่ารัฐบาลต้องการจำกัดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน

คันธิรา ฉายาวงศ์ อาจารย์ผู้บรรยายวิชากฎหมายและจริยธรรมสื่อสารมวลชน คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคเพื่อไทยมีผู้สนับสนุนพรรคซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนเสื้อแดงที่เรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรมมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดังนั้นในการตั้งข้อสังเกตในรายงานการศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ. นิรโทษกรรมนี้จึงเป็นไปได้ว่าพรรคเพื่อไทยต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มผู้สนับสนุนว่า การร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมที่รวมคดีมาตรา 110 และ 112 คงเป็นไปได้ยาก เพราะพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งเป็นเสียงส่วนมากในสภาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าไม่เห็นด้วย และแม้แต่ สส. ในพรรคก็ยังมีความเห็นขัดแย้งกันเองจนเสียงแตก

“พรรคเพื่อไทยต้องการสื่อสารว่าพรรคได้ทำการเคลื่อนไหวในประเด็นที่กลุ่มฐานเสียงต้องการแล้ว แต่เนื่องจากต้องพยายามรักษาเสียงจากพรรคร่วมไว้ เพราะผลเลือกตั้งออกมาไม่ได้ชนะแบบแลนด์สไลด์ จึงไม่สามารถทำได้อย่างสุดโต่ง” คันธิรากล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาลแล้วมีหน้าที่บริหารประเทศ ควรก้าวพ้นจากกลุ่มคนที่เป็นฐานเสียงหลักให้พรรค

คันธิรากล่าวว่า กรณีที่มีการกล่าวถึงการนิรโทษกรรมที่ไม่ควรรวมคดีมาตรา 112 ว่าการกระทำผิดไม่ใช่เพียงเรื่องที่เกิดจากเหตุจูงใจทางการเมือง แต่เป็นเรื่องของความมั่นคง ทำให้ไม่สามารถนิรโทษกรรมได้นั้น เป็นการเหมารวมจากผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมความผิดคดีมาตรา 112 ซึ่งมีทัศนคติด้านลบต่อคนที่มีความผิด ในความเป็นจริงต้องพิจารณาแยกรายคดี เนื่องจากหลายคดีเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องที่ส่งผลต่อความมั่นคง นอกจากนี้ยังเป็นวาทกรรมที่ใช้กล่าวอ้างว่าคนที่มีความผิดคดีมาตรา 112 เป็นภัยต่อความมั่นคง

คันธิรากล่าวว่า หากมองว่ามาตรา 112 กระทบกับสิทธิและเสรีภาพ และต้องการแก้ไขอย่างยุติธรรม ต้องแก้ไขที่ต้นเหตุคือ หลักเกณฑ์และกระบวนการพิจารณาคดี แต่เนื่องด้วยเป็นมาตราที่มีความอ่อนไหว รวมถึงสส. และประชาชนส่วนมากยังมีความเห็นไม่ลงรอยกัน ดังนั้นหากต้องการความชัดเจนและเพื่อให้สังคมเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก็อาจทำประชามติเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
0
Love รักเลย
0
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0

More in:News

News

ที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ชี้ ไทยยังไม่มีกฎหมายกำกับสื่อสตรีมมิง  แม้มีแผนแม่บทแต่ไม่นำเข้าที่ประชุมกสทช.

เรื่อง : พรวิภา หิรัญพฤกษ์ และ วรพร รุ่งวัฒนโสภณ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ชี้ ไทยไม่มีการกำกับดูแล OTT เพราะร่างแผนแม่บทไม่ถูกนำเข้าที่ประชุมกสทช. กระทบสื่อทีวี-ผู้บริโภค จากกรณีเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ...

News

ศาลตัดสิน คุก 2 ปี ‘พิรงรอง’ หลัง ทรูไอดี ฟ้อง กสทช.

เรื่อง : ยลพักตร์ ขุนทอง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำพิพากษา ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. พิรงรอง รามสูต ...

News

ทีมผลิตคลิปงานแรกพบเพื่อนใหม่ มธ. เผยยังได้ค่าจ้างไม่ครบ ด้านอมธ. แจงจ่ายช้าเพราะกำลังพิจารณาสาเหตุของค่าใช้จ่ายที่เกินงบ

เรื่องและภาพประกอบ : ทยาภา เจียรวาปี กลุ่มนักศึกษาคณะวารสารศาสตร์ฯ ทีมผลิตคลิปประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัย เผยได้รับค่าจ้างผลิตคลิปประชาสัมพันธ์งาน TU universe: Merging of the galaxies ไม่ครบ ทางผู้อำนวยการกองถ่ายคาด ...

News

ภาคประชาชนชี้ รัฐควรปรับปรุง ‘ร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP 2024)’ เพราะอาจดันค่าไฟสูงขึ้น เหตุตั้งกำลังผลิตเกินจำเป็น

เรื่อง : ณัฐกานต์ บุตรคาม ภาพประกอบ : จุฑาภัทร ทิวทอง “โครงการมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรมในประเทศไทย” ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาชนที่รณรงค์เรื่องพลังงาน ชี้ภาครัฐควรปรับปรุงร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP 2024)  เนื่องจากกำหนดกำลังผลิตไฟฟ้าเกินความจำเป็น ซึ่งจะทำให้ค่าไฟสูงขึ้น ...

News

ผอ. กองนโยบายภาษีชี้หนี้ครัวเรือนไทย เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมบริโภคนิยม ประชาชนใช้จ่ายเกินตัว แนะรัฐฯ ปฏิรูประบบการศึกษาสร้างทักษะติดตัว

เรื่อง : ณัฐธิดา นิติเกษตรสุนทร ภาพประกอบ : ทยาภา เจียรวาปี ผอ. กองนโยบายภาษีชี้หนี้ครัวเรือนไทยเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมบริโภคนิยมและค่านิยมในสังคม  ทำให้ประชาชนใช้จ่ายเกินตัว แนะรัฐฯ ปฏิรูปโครงสร้างตั้งแต่ระบบการศึกษาเพื่อสร้างทักษะติดตัวประชาชน เพราะดิจิทัลวอลเล็ตไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว เมื่อวันที่ ...

News

รมช.คลัง เดินหน้าแจกเงินหมื่นเฟส 3 เป็นดิจิทัลวอลเล็ต ยันกระตุ้นการใช้จ่ายได้มากกว่าเงินสด 

เรื่อง : วรพร รุ่งวัฒนโสภณ ภาพประกอบ : ทยาภา เจียรวาปี รมช.คลัง เดินหน้าแจกเงินหมื่นเฟส 3 เป็นดิจิทัลวอลเล็ต ยืนยันกระตุ้นการใช้จ่ายได้มากกว่าเงินสด เหตุตั้งเงื่อนไขการใช้เงินได้และต้องการให้ประชาชนเปิดรับเทคโนโลยี  เมื่อวันที่ ...

%

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save