เขียน: อชิรญา ปินะสา

อุปนายก อมธ. ศูนย์รังสิต ย้ำ อมธ. ไม่เห็นด้วยกับการนำระบบโซตัสทุกรูปแบบมาใช้ในกิจกรรมนักศึกษา หลังพบเหตุการณ์ที่เข้าข่ายในการฝึกซ้อมกิจกรรมงาน TU Freshy Games 2025 แนะผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องมีมาตรการป้องกันและแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อลดการกระทำผิดซ้ำ
นิรัชพร พรหมบัณฑูร อุปนายก องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ศูนย์รังสิต ให้สัมภาษณ์ว่าอมธ.ไม่เห็นด้วยกับระบบของ Seniority, Order, Tradition, Unity, Spirit (โซตัส) และมีจุดยืนต่อต้านมาโดยตลอด ซึ่งจะตีความความหมายของระบบนี้โดยทั่วไปคือ การใช้ระบบอาวุโส เพื่อเป็นข้ออ้างในการละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือการใช้วัฒนธรรมองค์กรเพื่อละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลหรือของคณะบุคคล
นิรัชพรกล่าวว่า เมื่อปีที่ผ่านมายังคงพบเห็นพฤติการณ์ที่เข้าข่ายการกระทำที่บังคับฝึกซ้อมเกินกว่าเหตุอยู่บ่อยครั้งภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการใช้ระบบอาวุโส เพื่อเป็นข้ออ้างในการละเมิดสิทธิของผู้อื่น รวมถึงเข้าข่ายการใช้วัฒนธรรมองค์กรเพื่อละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น กรณีที่พบเห็นพฤติการณ์เช่นนี้อย่างชัดเจนส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในงาน Thammasat Freshy Games ซึ่งเป็นงานที่ทางอมธ.ได้ทำงานร่วมกับทางคณะกรรมการนักศึกษาจากคณะสีต่างๆ ซึ่งในคณะสีจะประกอบด้วย คณะ วิทยาลัย และสถาบัน ในมธ.เอง โดยมักพบพฤติกรรมคล้ายคลึงกัน เช่นการลงโทษเกินกว่าเหตุ มีการกำหนดเงื่อนไขของการกระทำบางอย่างหรือไม่กระทำบางอย่างที่ไม่สมเหตุสมผล และกรณีล่าสุดที่พบในปีนี้ จากการเตรียมงานประเภทขบวนการแสดงในกิจกรรม Thammasat Freshy Games 2025 เป็นการบังคับฝึกซ้อมจนเกินควร กระทั่งได้รับบาดเจ็บ ภายหลังอมธ.ทราบเรื่อง จึงตักเตือนและแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งได้มีการรวบรวมคำชี้แจงจากผู้เสียหาย ผู้ถูกร้อง พยาน และคณะกรรมการนักศึกษาจากคณะสีดังกล่าว และพบว่ากระทำผิดจริง จึงตัดคะแนนคณะสีดังกล่าว 10 คะแนน และยุติบทบาทการปฏิบัติหน้าที่ผู้นำฝึกซ้อมของผู้ถูกร้องทันที
นิรัชพรกล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของมาตรการเชิงรุก ขณะนี้มีการมอบหมายให้ทางฝ่ายต่างๆ ที่มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบกิจกรรม Thammasat Freshy Games 2025 ที่จะถึงนี้ เช่น ประธานโครงการ หรือหัวหน้าฝ่ายต่างๆ ขับรถตรวจตรา ในช่วงเวลา 21.30-22.00 น. เพราะทางคณะทำงานตั้งข้อกำหนดว่า ในการฝึกซ้อมกิจกรรมต่างๆ จะต้องไม่เกินเวลา 22.00 น. หากพบเจอการกระทำผิดตามข้อกำหนด จะเข้าไปตักเตือน หรือหากพบเจอเหตุการณ์ที่เข้าข่ายใช้อำนาจบังคับซ้อม จะมีการสอบสวนเพิ่มเติมด้วย รวมไปถึงหากพบว่าเป็นกรณีที่เข้าข่ายผิดชัดเจน จะตักเตือนและตั้งกรรมการสอบสวนทันที
อุปนายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ตามระเบียบโซตัสของปี 2568 ที่อาศัยอำนาจตามความในข้อ 10 (4) แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ว่าด้วยกิจกรรมนักศึกษา พ.ศ.2563 ที่ทางสภานักศึกษามธ. เป็นผู้จัดทำระเบียบกิจกรรมนักศึกษามธ. ว่าด้วยการป้องกัน การดำเนินกิจกรรมนักศึกษาอันมีลักษณะเข้าข่ายการโซตัส การใช้อำนาจนิยม และการเลือกปฏิบัติ ขึ้นมานั้น กำหนดว่า อมธ. ระดับศูนย์ ซึ่งบริหารงานประจำแต่ละวิทยาเขต จะเป็นผู้ดำเนินการยุติการดำเนินกิจกรรมที่เกิดปัญหาในทันที และรายงานต่อสภานักศึกษา ระดับศูนย์ ซึ่งบริหารงานประจำแต่ละวิทยาเขต รวมถึงกรรมาธิการของสภานักศึกษา จากนั้นสภานักศึกษาจะยื่นคำร้องให้มีการดำเนินการทางวินัย ตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย ทั้งนี้จึงจำเป็นจะต้องสอบถามความสมัครใจของตัวผู้เสียหาย ว่าต้องการนำเรื่องเข้าสู่สภานักศึกษาเพื่อพิจารณาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าข่ายการกระทำผิดตามระเบียบที่กำหนดหรือไม่ เพราะหากนำเรื่องเข้าสภานักศึกษา จะสามารถเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงได้ต่อที่ประชุมสภา และจะมีการยื่นเรื่องถึงกองกิจการนักศึกษาตามระเบียบ
อุปนายกฯ กล่าวว่า มาตรการที่อาจมีการเพิ่มเติมในอนาคต จะเป็นเรื่องของการประชาสัมพันธ์และการขยายผล เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่แล้วมักมาจากโครงการ Freshy Games แต่ในส่วนของการรับเรื่องร้องเรียนทั้งจากตัวนักศึกษาเอง และจากทางคณะเอง มีจำนวนน้อยกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งมีความน่าเป็นห่วงว่าจะมีปริมาณผู้เสียหายมากกว่าที่ยื่นเรื่องเข้ามาด้วยเช่นกัน “คิดว่าในอนาคตหากมีความร่วมมือจากทางสภานักศึกษาในการตรวจสอบกฎระเบียบของโซตัสทุกปี หรือว่าหากเพิ่มความเข้มงวดในการตั้งกรรมาธิการสอบสวน และให้มีสัดส่วนของอมธ.เข้าไปช่วยแก้ไขตรงนี้ จะช่วยทำให้มาตรการควบคุมพฤติกรรมที่เข้าข่ายโซตัสในปีต่อๆ ไป มีประสิทธิผลมากขึ้น”