News

คอลเซ็นเตอร์หลอกเอาเงินนักศึกษาธรรมศาสตร์ร่วม 5.5 แสน ตำรวจชี้ข้อมูลนักศึกษาอาจรั่วไหล

เขียน: รณรต วงษ์ผักเบี้ย, เปรมชนก พฤกษ์พัฒนรักษ์, จิระกานต์ วรรณธะสุข และ ศิริมณฑล อินศิริ

ภาพประกอบ: จิระกานต์ วรรณธะสุข

นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สูญเงินกว่า 550,000 บาท หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์หลอกให้โอนเงิน ด้านตำรวจเผยมีนักศึกษาตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก อาจมีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลจากภายในมหาวิทยาลัย

เมื่อวันที่ 23 กันยายน เวลา 11.45 น. ที่ สภ.คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เอ (นามสมมติ) นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เข้าแจ้งความพร้อมให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า เมื่อวันที่ 20 กันยายน เวลา 11.30 น. เธอได้รับสายจากมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเอไอเอส อ้างว่าเบอร์โทรศัพท์ของเธอถูกนำไปใช้แอบอ้างเกี่ยวกับการแชร์ลูกโซ่และเว็บพนันที่ห้างโรบินสัน เพชรบุรี ทางค่ายมือถือจึงมีคำสั่งให้ระงับเบอร์โทรศัพท์ของเธอ

เอ กล่าวต่อว่า จากนั้นมิจฉาชีพแนะนำให้ไปแจ้งความที่ สภ.บ้านลาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี แต่เธอไม่สะดวกที่จะเดินทางไป จึงให้แอดไลน์ของ สภ. บ้านลาด ก่อนส่งเอกสารหมายจับปลอมให้ดู และวิดีโอคอลไปหาเอ ที่ปลายสายพบบุคคลแต่งกายเหมือนตำรวจปรากฏตัวเพียงแวบเดียวแล้วจึงปิดกล้องไป ต่อมาบุคคลปลายสายบอกว่าเบอร์โทรศัพท์ของเธออาจพัวพันกับคดีฟอกเงิน และขอให้เธอโอนเงินไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หากไม่มีความผิดจึงจะโอนเงินคืน พร้อมกำชับว่าห้ามบอกใครเด็ดขาด

เอ ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงเย็นวันที่ 20 กันยายน ได้โอนเงินให้มิจฉาชีพ 400,000 บาท ต่อมาวันที่ 21 กันยายน มิจฉาชีพโทรบอกให้โอนเงินเพิ่ม และบอกให้เธอสร้างเรื่องว่าได้ทุนไปเรียนต่างประเทศเพื่อหลอกขอเงินผู้ปกครองเพิ่ม จากนั้นยังบอกให้เธอถ่ายรูปตัวเองรายงานให้ดูทุกๆ ชั่วโมง โดยขู่ว่าหากไม่ทำตามจะโดนคดีและอาจติดคุก

เอทำตามที่มิจฉาชีพบอกและได้เงินมาจากผู้ปกครอง จากนั้นช่วงเที่ยงของวันที่ 22 กันยายน จึงโอนเงินจำนวน 150,000 บาท ไปให้ โดยมีการโทรคุยกัน ต่อมามิจฉาชีพให้ถือสายรอ แล้วจึงวางสายไป เมื่อเธอโทรกลับแต่ไม่มีใครรับสาย จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก และได้โทรไปตรวจสอบกับ สภ.บ้านลาด ได้ทราบว่าทาง สภ.บ้านลาด นั้นไม่มีบัญชีไลน์ จึงมาแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง

ร.ต.ท.หญิง กนกวรรณ สายแสง รองสว. (สอบสวน) สภ.คลองหลวง กล่าวว่า คดีเช่นนี้ โอกาสที่จะได้รับเงินคืนมีน้อยมาก เนื่องจากกระบวนการในการอายัดบัญชีดำเนินการช้ามาก เมื่อเทียบกับการโอนเงินต่อกันเป็นทอดๆ ของมิจฉาชีพซึ่งรวดเร็วในระดับวินาที กว่าที่จะตามรอยเส้นทางการเงินได้ เงินที่ถูกหลอกไปก็อยู่ในรูปของคริปโตเคอร์เรนซี  ถูกฟอกเงิน หรือปะปนกับเงินถูกกฎหมายไปเสียแล้ว

ร.ต.ท.หญิง กนกวรรณ กล่าวต่อว่า ในช่วงหนึ่งเดือนมานี้ มีผู้เสียหายที่ถูกหลอกลักษณะนี้เป็นจำนวนมาก กล่าวคือมีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.บ้านลาด และเมื่อตรวจสอบเบอร์โทรที่โทรมาหลอกนั้น พบว่าตรงกับคดีอื่นๆ หลายคดี ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เสียหายเป็นนักศึกษา มธ. จึงเป็นไปได้ว่าข้อมูลของนักศึกษาอาจมีการรั่วไหล 

ร.ต.ท.หญิง กนกวรรณ ให้สัมภาษณ์ว่า ในตอนนี้คาดการณ์ว่ามิจฉาชีพที่หลอกลวงนักศึกษามธ. นั้นสร้างความเสียหายแล้วร่วมกว่า 20 ล้านบาท ดังนั้นทางมหาวิทยาลัยจึงต้องออกมาตรการเตือนภัยที่มากกว่าการโพสต์ในโซเชียลมีเดีย เช่น เสียงตามสาย หรือติดโปสเตอร์ เพราะการโพสต์ลงโซเชียลมีเดียอาจสื่อสารได้ไม่ทั่วถึงนัก

“เราไม่สามารถจับได้เลย ขบวนการเหล่านี้อาจอยู่ปอยเปตหรือแถวๆ นี้แหละ ตอนนี้ก็อยากให้คนที่ยังไม่ถูกหลอกช่วยเป็นกระบอกเสียง เพราะช่วงนี้มีน้องนักศึกษามาแจ้งความทุกวันเลย” ร.ต.ท.หญิง กนกวรรณ กล่าว          

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากกรณีของเอ เมื่อวันที่ 25 กันยายน ยังมีกรณีของบี (นามสมมติ) นักศึกษา มธ. อีกคนหนึ่งซึ่งถูกมิจฉาชีพโทรศัพท์มาหลอกว่าเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเอไอเอสและตำรวจจากสภ.บ้านลาดเช่นกัน โดยหลอกว่าเลขบัตรประชาชนของเขาถูกนำไปเปิดบัญชีม้าและมีส่วนเกี่ยวของกับเว็บพนัน จึงบอกให้โอนเงินไปให้ตรวจสอบเพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ หากไม่มีความผิดจะโอนคืน ซึ่งสูญเงินไปกว่า 557,000 บาท นอกจากนี้ยังมีศิษย์เก่า มธ. ถูกมิจฉาชีพหลอกแบบเดียวกัน จนสูญเงินรวมทั้งสิ้น 1,699,000 บาท

วชิรา พรหมสาขา ณ สกลนคร รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและการดิจิทัล ผู้แทนจากสำนักงานทะเบียนนักศึกษา กล่าวว่าเขาได้รับการยืนยันจากฝ่ายไอที  ของมหาวิทยาลัยว่าไม่มีทางที่ข้อมูลส่วนบุคคลของนักศึกษาจะหลุดออกไป เนื่องจากการเข้าถึงข้อมูลไม่ได้ทำได้ง่ายๆ โดยหน่วยงานที่จะเข้าถึงข้อมูลจากสำนักทะเบียนได้มีเพียงแค่หน่วยงานในมหาวิทยาลัยที่สามารถขอข้อมูลส่วนตัวของนักศึกษาไปเพื่อดำเนินการภายในหน่วยงานได้ อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลรั่วไหลจากหน่วยงานใดในมหาวิทยาลัยจริง ก็อาจตรวจสอบได้ยากว่าหลุดมาจากส่วนไหน และขอยืนยันว่าสำนักทะเบียนไม่ได้ให้ข้อมูลกับใครง่ายๆ 

ด้านศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ปรึกษาเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของมหาวิทยาลัยแล้ว โดยวางแผนว่าจะทำการทดสอบว่านักศึกษามีความรู้เท่าทันแค่ไหน ผ่านการจำลองการฟิชชิง (phishing การหลอกลวงเพื่อขโมยข้อมูล)

กิตติวัฒน์ จันทร์แจ่มใส รองอธิการบดีฝ่ายบริหารศูนย์ลำปางและการนักศึกษา กล่าวว่า เขาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วว่า นักศึกษาถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกเป็นจำนวนมาก และอยู่ในขั้นตอนวางแผนแก้ไขปัญหา ทั้งการออกจดหมายเพื่อประกาศให้นักศึกษาทราบถึงเหตุการณ์และประชาสัมพันธ์ในรูปแบบโปสเตอร์ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้นักศึกษารู้เท่าทันมิจฉาชีพ และเน้นย้ำว่าหากมีผู้ไม่หวังดีแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้กดวางสายทันที

บุรชัย อัศวทวีบุญ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มธ. ให้สัมภาษณ์ว่า มธ. มีการประชาสัมพันธ์มาตลอดตั้งแต่รู้ว่ามีคนเป็นเหยื่อ และจะนำข้อมูลเหล่านี้บรรจุลงในวิชาศึกษาทั่วไป เช่น ความปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ การรู้เท่าทันสื่อ คาดว่าจะใช้ได้ในเทอมถัดไป

บุรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้อาจมีการประกวดสร้างคอนเทนต์ป้องกันนักศึกษาจากการตกเป็นเหยื่อ และอาจจะตั้งทีมคอลเซ็นเตอร์จำลองเพื่อทดสอบความรู้เท่าทันในหมู่นักศึกษาด้วยกัน

เมื่อถามว่าได้มีการให้ความช่วยเหลือนักศึกษาที่ตกเป็นเหยื่ออย่างไรบ้าง บุรชัย กล่าวว่า มธ. มีกลไกให้ความช่วยเหลือทางด้านจิตใจ คือ ศูนย์ให้คำปรึกษาทางด้านจิตใจ หรือศูนย์ชีวิตชีวา (Viva City) ที่จะช่วยบรรเทาความรู้สึกผิดของคนที่หลงเชื่อ ส่วนเรื่องเงินอาจจะช่วยเยียวยาได้บางส่วน เช่น หาที่พักราคาถูก หรือมีโครงการ Work on Campus หางานให้เพื่อให้นักศึกษามีงานมีเงินเพิ่มเติม แต่การตามเอาเงินทั้งหมดมาคืนนั้นไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ ยังมีศูนย์นิติศาสตร์ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายกับให้ทุนการศึกษาช่วยเหลือในกรณีที่ถูกไม่มีทุนเรียน

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
0
Love รักเลย
0
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0

More in:News

News

กรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิฯ อมธ.ลาออก ปมขัดแย้งนายกฯ

เขียน: อชิรญา ปินะสา กรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิ อมธ.แถลงลาออก เหตุโดนจำกัดความเห็นในการทำงานและผู้นำมีความคิดแคบ ฝ่ายนายกอมธ.แจง ปัญหาคือทัศนคติในการทำงานไม่ตรงกันและขาดการพูดคุย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา อินท์ธารี อธิเจริญลักษณ์ ...

News

FAIR เตรียมยื่นแก้กม.ยาเสพติดให้ผู้ใช้ยาไม่ผิดอาญา

เขียน: ธีรภัทร กมล และศิวะ พุ่มอรุณ  มูลนิธิเพื่อสิทธิความหลากหลาย เตรียมยื่นเสนอแก้กฎหมายยาเสพติดให้ผู้ใช้ยาไม่มีความผิดทางอาญา เพราะผู้ใช้ยาไม่ใช่อาชญากร พร้อมเสนอ Harm Reduction เป็นบริการทางเลือก หวังลดอคติจากคนในสังคม  เมื่อวันที่  13 ก.ย. ที่ ...

News

ผนังอิฐหน้า SC3 ถล่ม คาดวัสดุเสื่อมสภาพ วิศวกรยืนยันไม่กระทบโครงสร้างหลัก

เขียน: เปรมชนก พฤกษ์พัฒนรักษ์ ผนังอิฐหน้าอาคาร SC3 ถล่ม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เจ้าหน้าที่คาดวัสดุเสื่อมสภาพและพายุลมแรงเป็นเหตุ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ วิศวกรยืนยันโครงสร้างหลักของอาคารปลอดภัยและอยู่ระหว่างวางแผนซ่อมแซม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.12 น. วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เกิดเหตุผนังอิฐตกแต่งถล่มลงมาบริเวณทางเข้าอาคารเรียนรวมสังคมศาสตร์ 3 (SC3) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากจุดดังกล่าวไม่มีนักศึกษาหรือเจ้าหน้าที่อยู่ในพื้นที่ขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภายในอาคารกล่าวว่า ได้ยินเสียงดังเป็นวัตถุตกลงมา ก่อนจะพบว่าแผงอิฐที่ติดผนังตรงทางเข้าก่อนถึงลิฟต์ร่วงลงมา พนักงานจึงได้รีบนำเชือกมากั้นพื้นที่ภายในเวลาประมาณ 20 นาทีหลังเกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัย พนักงานอีกคนหนึ่งที่ใช้พื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุกล่าวว่า ผนังในจุดดังกล่าวเคยมีรอยร้าวมาแล้วก่อนหน้านี้ และเป็นจุดที่ 4 ที่พบรอยร้าวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บางจุดเคยมีน็อตยึดไว้ แต่ก็เริ่มเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะหลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อต้นปีที่ผ่านมาที่ห้อง M-20 ชั้น M  ภูวกร ธีระกาญจน์ วิศวกรโยธาปฏิบัติการ กองบริหารศูนย์รังสิต กล่าวว่าจุดที่ถล่มนั้นเป็นเพียงผนังตกแต่ง ไม่ใช่โครงสร้างหลักของอาคาร ตัวอิฐไม่ได้ยึดติดกับโครงสร้างโดยตรง แต่มีเหล็กและน้ำยาเจาะเสียบทำหน้าที่ยึดไว้ ซึ่งวัสดุดังกล่าวมีคุณสมบัติเหมือนกาวและมีแนวโน้มว่าเสื่อมสภาพจากความชื้นและอายุการใช้งาน ประกอบกับช่วงเกิดเหตุมีพายุฝนและลมแรง จึงอาจทำให้ผนังที่แยกชั้นจากโครงสร้างหลักนั้นร่วงลงมา  ภูวกรกล่าวว่า อาคาร SC3 เพิ่งตรวจรับเมื่อเดือนตุลาคม ...

News

1663 เสนอสปส. เพิ่มสวัสดิการหนุนหญิงท้อง

เขียน: ศิวะ พุ่มอรุณ และสุชานันท์ สหวงศ์เจริญ ภาพประกอบ: ฐิดาพร พิมพ์สีโคตร สายด่วน 1663 เสนอสปส. เพิ่มงบกว่า 6,000 ล้านบาท ชดเชยรายได้ช่วงตั้งครรภ์ให้ผู้ประกันตนม.33 พร้อมจ่าย ...

News

นักวิชาการรัฐศาสตร์มธ.ฟัน รธน.ใหม่อย่างต่ำ 2 ปี อาจสะดุดเสียงสว. ชี้ควรกำหนดคำถามประชามติให้ดี หากไม่อยากให้เป็นโมฆะ

เขียน: กวินทัต สวัสดิ์นพรัตน์ อาจารย์รัฐศาสตร์มธ. ชี้ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่อาจใช้เวลาจัดทำอย่างต่ำ 2 ปี แม้มีการเลือกตั้งสสร.โดยตรง เหตุเพราะอาจติดขัดในขั้นตอนของการเห็นชอบหลักการจากสว. แนะคำถามประชามติสำคัญ หากตั้งไม่ดี คนส่วนใหญ่ไม่ออกมาใช้สิทธิ ประชามตินั้นอาจกลายเป็นโมฆะ จากกรณีที่กลุ่ม ‘Con for All’ (กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ) ได้จัดกิจกรรม ‘ทวงคืนอำนาจประชาชน ...

News

ร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาดฯ จ่อเข้าสภาใหญ่ กมธ. ชี้อากาศดีคือสิทธิมนุษยชน

เขียน: ภัชราพรรณ ภูเงิน กมธ. ร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาดฯ อัปเดตร่างกฎหมายอากาศสะอาด ปัจจุบันผ่านการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการแล้ว และเตรียมเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวาระที่ 2 ต่อไป เพราะอากาศสะอาดคือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และคือหน้าที่ร่วมกันของรัฐและประชาชน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของ ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save