เรื่อง: เจตณัฐ พิริยะประดิษฐ์กุล
ภาพ: เจตณัฐ พิริยะประดิษฐ์กุล, ณัฐธนาวดี วงศ์วารห้อย และปาณัสม์ จันทร์กลาง
“ส้มมั้ยจ๊ะ ส้มมั้ยจ๊ะ ส้มมั้ย ส้มมั้ยจ๊ะ” เสียงพูดเร็วๆ ซ้ำๆ เสียงดังฟังชัดของหญิงคนหนึ่ง ที่เชื่อว่าชาวธรรมศาสตร์ (มธ.) รังสิต
ร้อยทั้งร้อยที่เป็นขาประจำร้านอาหารโซนเชียงราก ข้างมหาวิทยาลัย ต้องเคยได้ยินเสียงนี้กันสักครั้งในช่วงหัวค่ำถึงช่วงดึก
หากมองไปที่ต้นเสียง จะเห็นหญิงวัยกลางคนสวมหมวกบักเก็ตอันเป็นเอกลักษณ์พร้อมเดินเข็นรถเข็นที่มีขวดน้ำส้มวางเรียงรายอยู่ในตู้กระจกเล็ก ๆ ที่แช่ไว้ด้วยน้ำแข็ง และพูดเชิญชวนนักศึกษาให้อุดหนุนน้ำส้มด้วยประโยคข้างต้น ซึ่งนักศึกษามักเรียกเธอว่า
“ป้าน้ำส้ม”
เมื่อเรายังเป็นนักศึกษาปี 1 หากไปรับประทานอาหาร หรือไปหาเพื่อนที่เชียงราก ก็จะเห็นป้าน้ำส้มด้วยภาพลักษณ์และการพูด
เชิญชวนเช่นนี้แทบทุกครั้ง แม้ปัจจุบันเราจะเป็นนักศึกษาปี 4 แล้ว แต่ภาพที่เห็นและเสียงที่ได้ยินก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง
เราและเพื่อนๆ ทั้งคณะเดียวกันและต่างคณะ ต่างก็คุ้นเคยกับป้าน้ำส้มมาตั้งแต่ปี 1 แต่กลับไม่มีใครรู้เลยว่าจริง ๆ แล้ว ป้าน้ำส้ม
เป็นใคร มาจากไหน ทำไมเด็กมธ. แทบทุกคนถึงรู้จัก เราไปพูดคุยกับป้าน้ำส้มกันเลยดีกว่า
แนะนำตัวเองหน่อยจ้ะป้า
เรียกป้าว่าป้าน้ำส้มนี่ล่ะ อายุ 58 ปีแล้ว ครอบครัวป้ามีกัน 3 คน มีป้า สามี แล้วก็ลูกชาย ลูกชายป้าอายุ 15 เอง กำลังเรียนอยู่
ป้าแต่งงานช้าไปหน่อย (หัวเราะ) ส่วนสามีป้าเมื่อก่อนเขาทำงานบริษัท แต่พอบริษัทเขาปิดตัวลงเขาก็อยู่บ้าน ทำงานบ้าน เลี้ยงลูก ป้าก็ออกมาขายของหารายได้แทน
ป้าขายน้ำส้มมานานเท่าไรแล้ว
ถ้าน้ำส้มเนี่ย ขายมาประมาณ 10 ปีแล้ว แต่ว่าเมื่อก่อนป้าจะขายไปทั่วในปทุมฯ (ปทุมธานี) นี่ล่ะ ตามร้านอาหารบ้าง ตามโรงงานบ้าง นวนครป้าก็เคยไป
แล้วป้าขายที่มธ. มานานเท่าไรแล้ว
น่าจะสัก 5-6 ปี ได้แล้ว
ทำไมอยู่ ๆ ป้าถึงมาขายที่มธ. ล่ะ
มีวันหนึ่งป้าไปขายน้ำส้มที่ร้านอาหารแถวเทศบาลเมืองท่าโขลง แล้วมีอาจารย์มธ. 3 คนนั่งกินข้าวกันอยู่ เขาซื้อน้ำส้มป้าไปกินแล้วบอกว่าอร่อย เลยแนะนำให้ป้าไปขายที่มธ. เพราะนักศึกษาเยอะ น่าจะขายดีกว่านี้ ป้าก็ลองมาขายดู แล้วก็ขายมายาวเลยเนี่ย
ป้าขายเวลาไหน ตรงไหนบ้าง
ป้าจะมาถึงนี่ประมาณ 6 โมงเย็น หรือไม่ก็ประมาณทุ่มนึง ก็จะเดินขายตั้งแต่ประตูรั้วเชียงรากตรงก้ำกึ่ง จนถึงแถวร้าน
องศาหมูกระทะ เดินขายจนถึง 5 ทุ่ม นู่น บางวันก็เกือบเที่ยงคืน
น้ำส้มที่ป้าขายนี่ทำเองหรือเปล่า ใช้ส้มสายพันธุ์อะไร แล้วขายราคาเท่าไรบ้าง
ญาติป้าเขาส่งมาให้ป้าขาย วันต่อวันเลยนะ สดใหม่ ไม่ค้างคืน ใช้ส้มเขียวหวานจ้ะ ป้าขาย 2 ขนาด
ขวดเล็ก 200 มิลลิลิตร ราคา 20 บาท 1 ลิตร 100 บาท
แล้วก่อนขายน้ำส้มป้าทำอะไรมาก่อน
ก่อนขายน้ำส้มป้าก็ตั้งร้านขายของโชห่วยที่โรงงานในอยุธยา แต่ป้าก็พักที่ปทุมฯ (ปทุมธานี) มาตลอดนะ
ป้าพักที่ไหน แล้วเดินทางไปกลับยังไง
ป้าพักอยู่คลองสองนี้เอง เมื่อก่อนป้าจะมีรถมาส่งมารับ เพราะต้องบรรทุกรถเข็นมาด้วย แต่เดี๋ยวนี้ป้าขับรถมาเอง แล้วก็มาจอดแถวนี้เอา
อะไรทำให้ป้ายังคงขายอยู่ที่มธ. ไม่ได้เดินทางไปขายที่อื่นเหมือนเมื่อก่อน
ป้ารู้สึกว่าเด็กมธ. ต่างจากลูกค้าที่อื่นนะ คือส่วนใหญ่เขาจะน่ารัก มีน้ำใจ มีมารยาท พ่อค้าแม่ค้าแถวนี้ก็อัธยาศัยดี ป้าขายที่นี่แล้วรู้สึกมีความสุข รู้สึกผูกพันกับที่นี่เหมือนกับครอบครัวเลย
ไหนป้ามีเหตุการณ์ประทับใจเด็กมธ. ยังไงบ้าง
ประทับใจที่เขาน่ารัก มีมารยาท ไม่ก้าวร้าว บางคนก็เคยซื้อขนมมาฝากป้า ป้าก็เกรงใจ ป้าจะให้น้ำส้มเขาเขาก็ไม่เอา แล้วก็ตั้งแต่
มีโควิดมาเนี่ย ป้าก็ต้องเริ่มรับเงินลูกค้าผ่านออนไลน์ ให้เขาสแกน พอเขาสแกนแล้วเอาหน้าจอโทรศัพท์มาให้ดูป้าก็โอเค แต่ป้าก็เช็คไม่เป็นหรอก ว่าเขาโอนหรือยัง เงินเข้าไหม จนมีครั้งนึงป้าเพิ่งมารู้ว่ามีคนโกงค่าน้ำส้มป้า คือเขาไม่กดโอน ก็มีน้องลูกค้าคนนึงนี่ล่ะ มาสอนให้ป้าใช้แอป สอนดูบัญชีในโทรศัพท์ จนป้าทำเป็น
ป้าคิดว่าจุดขายของป้าคืออะไร อะไรคือสิ่งที่ทำให้เด็กมธ. รู้จักป้า
ป้าก็เดินขายของป้าไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่โซนเชียงราก 1 ถึงเชียงราก 2 ไม่รู้สิ ป้าก็ขายของป้าปกตินะ แต่ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะป้าชอบอวยพรเด็กด้วยมั้ง ป้ารู้สึกขอบคุณที่เด็กเขาอุดหนุนป้า แล้วป้าไม่รู้จะตอบแทนยังไง ก็เลยอวยพรให้ไป พอสมหวังเขาก็คงเอาไปบอกต่อๆ กันนั่นล่ะ แล้วก็ลูกค้าประจำป้าที่ป้าจำได้ พอวันเกิดเขาแล้วเขาทักป้า ป้าก็จะให้น้ำส้มเขาไปเป็นของขวัญวันเกิด
เรื่องอวยพรเนี่ย ป้าอวยพรยังไง แล้วอวยพรเรื่องอะไรบ้าง ขอตัวอย่างหน่อย
หูยยยยยย ก็หลายเรื่องนะ เดี๋ยวนี้เด็กจะชอบให้ป้ามาอวยพรเรื่องความรัก มีหลายคนเลยที่เขาโสดแล้วขอให้ป้าอวยพรความรักเขาต่อมาเขาก็เอาแฟนมาอวดป้า แล้วก็ขอบคุณป้า ป้าก็ดีใจกับเขานะ วัยรุ่นน่ะเนอะ เขาก็อยากมีความรักบ้างอะไรบ้าง
แล้วก็มีเรื่องเรียน เรื่องงานด้วย สองปีที่แล้วมีหมอผู้หญิงคนนึงเขาขอให้ป้าอวยพรว่าขอให้ได้ทุนไปต่างประเทศ สุดท้ายเขาก็ได้ทุนไปอิตาลี แล้วก็มีเด็กมธ. สองคนขอให้ป้าอวยพรว่าให้ขอวีซ่าไปอเมริกาผ่าน ซึ่งเขาบอกมันขอยาก แต่สุดท้ายเขาก็ขอมาได้ แล้วเขาก็มาหาป้า มาขอบคุณป้า ป้าก็ดีใจกับเขาด้วย
เอ้อแล้วก็เมื่อก่อน ป้าชอบได้เลขมาแม่นมาก ได้มาหลายที่ จากเพื่อนบ้าง จากที่อื่นบ้าง มีครั้งนึง น่าจะสามปีที่แล้ว มีเด็กเขามาขอเลขป้า ป้าก็ให้เลขเขาไปสองตัว พอเขามาเจอป้าอีกที เขาก็มาอุดหนุนป้า แล้วก็ขอบคุณป้า เพราะเขาบอกว่าเขาเอาเลขที่ป้าให้ไปให้พ่อ แล้วพ่อเขาไปซื้อตามแล้วถูก พอป้าถามว่าได้เท่าไร เขาชูนิ้วขึ้นมา 4 นิ้ว ป้าถาม 4,000 เหรอ? เขาบอกไม่ใช่ ป้าถาม 40,000 เหรอ? เขาก็บอกไม่ใช่ พอป้าถาม 400,000 เหรอ? เขาถึงพยักหน้า ป้าก็ดีใจนะ ที่ลูกค้าป้ามีโชคมีลาภเนี่ย
ป้ามีความฝันในอนาคตบ้างไหม
ป้าคิดว่าวันนึงถ้าป้ามีฐานะดีขึ้นมานะ ป้าจะเอาน้ำส้มมาแจกให้เด็ก ๆ มธ. ได้กินฟรีกัน ป้าตั้งใจไว้เลย เพราะ ทุกวันนี้ส่วนใหญ่ก็มีแต่น้อง ๆ มธ. นี่ล่ะที่อุดหนุนป้า อยู่เป็นเพื่อนป้า ป้าก็อยากจะตอบแทนเขา แต่ปัจจุบันป้าก็ยังไม่มีฐานะอะไร ก็เลยได้แค่อวยพรไปก่อน (หัวเราะ)
เดินคุยกับป้าตั้งแต่ก่อนห้าทุ่ม ดูเวลาอีกทีก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว คุยเพลินจนคอแห้ง ว่าแล้วก็อุดหนุนน้ำส้มป้าสักหน่อย เห็นในตู้กระจกเหลือน้ำส้มขวดเล็กและขวดใหญ่อย่างละ 2 ขวด เราก็กะว่าจะเหมาไปเลย เพราะน้ำส้มก็เหลือไม่เยอะ เวลานี้ก็ดึกแล้วด้วย ป้าจะได้กลับบ้าน แต่ป้าบอกว่าไม่ต้องหรอก ป้าเกรงใจ เดี๋ยวป้าเดินขายต่ออีกสักพักก็หมดแล้ว (อ้าว! จะเหมาก็ไม่เอาเหรอเนี่ยป้า)
เราก็เลยขอซื้อขวดเล็กและขวดใหญ่อย่างละขวด ที่เหลือป้าไว้ขอเดินขายเอง หลังจากเราจ่ายเงินเสร็จ ป้าก็ไม่ลืมที่จะอวยพรให้
“ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ขอให้รวย ๆ ขอให้สมหวังในความรัก ได้เจอคนดี ๆ คิดอะไรก็ขอให้สมหวัง สาธุ สาธุ สาธุ”