Art & CultureArticlesWritings

The Catcher In The Rye จะเป็นผู้คอยรับไว้ ไม่ให้ใครร่วงหล่น : หวนอาลัยถึงวัยเยาว์

เรื่อง : ศิรประภา จารุจิตร

ภาพประกอบ : เก็จมณี ทุมมา

วรรณกรรมคลาสสิกของอเมริกา เรื่อง The Catcher In The Rye เป็นผลงานของเจ.ดี. ซาลินเจอร์ (J.D.Salinger) ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ.1951 ช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ในระยะสงครามเย็น มีลัทธิแมคคาร์ธี (McCarthyism) ซึ่งตั้งตามชื่อของวุฒิสมาชิกโจเซฟ แม็คคาร์ธี แห่งพรรครีพับลิกัน (Republican Party) คอยกวาดจับผู้ที่ประพฤติตนไม่เป็นอเมริกัน หันไปนิยมคอมมิวนิสต์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นภัยความมั่นคงของรัฐ

หนังสือเล่มนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงเป็นวงกว้าง เนื่องจากมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์สภาพสังคมบางส่วนในช่วงนั้น

องค์กรอนุรักษนิยมรวมถึงสมาคมผู้ปกครองในอเมริกาต่างพากันเป็นเดือดเป็นร้อน เมื่อ The Catcher In The Rye จะถูกนำไปบรรจุในหลักสูตรของโรงเรียนมัธยม โดยให้เหตุผลว่านวนิยายเรื่องนี้ใช้ถ้อยคำหยาบคาย เต็มไปด้วยคำสบถ จึงกลายเป็นหนังสือต้องห้ามอยู่พักหนึ่ง

แต่ทว่าในศตวรรษที่ 21 โฮลเดนตัวเอกของเรื่องที่เคยเป็นปัญหาเนื่องจากชอบทำตัวขบถ และขวางโลกก็ได้รับความเข้าอกเข้าใจและเป็นที่ยอมรับมากขึ้น แม้เขาไม่ใช่ตัวละครที่ทำความดี หรือน่านับถือนัก แต่เขาเป็นตัวละครที่จริงใจและมีความเป็นมนุษย์สูงจนกลายเป็นสัญลักษณ์แทนใจของวัยรุ่นในเวลาต่อมา

The Catcher In The Rye ถูกแปลไปหลายภาษาทั่วโลก ซึ่งในไทยได้รับการตีพิมพ์ถึง 3 ครั้ง โดยครั้งล่าสุด ปราบดา หยุ่น ได้นำกลับมาแปลใหม่ และใช้ชื่อว่า “จะเป็นผู้คอยรับไว้ ไม่ให้ใครร่วงหล่น” จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ไลต์เฮาส์ ปี 2552

คำเตือน: บทความชิ้นนี้มีการสปอยล์ โปรดอ่านอย่างระมัดระวัง

The Catcher in the Rye เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มวัยรุ่นอายุ 16 ปี ชื่อ‘โฮลเดน คอลฟิลด์’ (Holden Caulfield) ที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียนประจำเพนเซย์ก่อนปิดเทอมในช่วงคริสต์มาส เพราะสอบตกเกือบทุกวิชา

การผจญภัยฉบับโฮลเดนได้เริ่มต้นขึ้นจากการที่เขาตัดสินใจหนีออกจากโรงเรียน ใช้ชีวิตอิสระ และใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายอยู่สองสามวันแล้วค่อยกลับบ้าน ก่อนที่พ่อแม่จะรู้ว่าเขาถูกไล่ออก

เรื่องราวระหว่างการเดินทางดำเนินไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาที่เขาประสบพบเจอ รวมไปถึงความรู้สึกต่างๆ ที่เขามีต่อผู้คนรอบข้าง โดยเฉพาะความหดหู่ และความเฟก (fake)

เขาคิดว่าโลกของผู้ใหญ่ล้วนเต็มไปด้วยการโกหกตอแหล (phony) ไม่ว่าจะเป็นครูใหญ่ที่เลือกปฏิบัติกับผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่แต่งตัวดีกว่า หรือเพื่อนของเขาที่โกนหนวด แต่งตัวดีเวลาไปเดท แต่กลับทำตัวทุเรศเวลาอยู่กับเขา รวมถึงพ่อของเขาที่มีฐานะจากการทำงานเป็นทนาย

เขาคิดว่าทุกๆ คนต่างใส่หน้ากากเข้าหากันทั้งนั้น

เขาพยายามถามหาหนทางที่จะคงความจริงใจจากทุกๆ คน และคำตอบที่ได้มาในแต่ละครั้งทำให้เขาเริ่มเข้าใจว่าเมื่อเราเติบโตขึ้นก็ไม่มีใครใส่ใจต่อความจริงใจในการใช้ชีวิต เพราะสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการทำยังไงก็ได้ให้ใช้ชีวิตในสังคมต่อไปได้ต่างหาก

โฮลเดนเองก็รู้ตัวว่าเขาก็เป็นนักโกหกที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน เขาโกหกคนอื่นเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการและทำให้อีกฝ่ายพอใจ อีกทั้งเขายังโกหกเพื่อปกปิดความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเขาเอาไว้อีกด้วย ในใจลึกๆ เขากลัวว่าหากพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไปแล้วจะทำให้ตัวเองผิดหวัง เพราะไม่มีใครที่จะรับฟัง

อย่างไรก็ตามน้องสาวของเขา ‘ฟีบี’ เป็นคนเดียวที่ทำให้เขามีความสุข เพราะเขาสามารถพูดในสิ่งที่อยู่ในใจออกไปได้  โฮลเดนมองว่าพวกเด็กๆ นั้นไร้เดียงสา จริงใจ และปฏิบัติตัวอย่างตรงไปตรงมา ไม่เหมือนพวกผู้ใหญ่ที่ใส่หน้ากากเข้าหากัน

ฟีบีถามเขาว่า นอกจากฟีบี และ‘อัลลี’(น้องชายของโฮลเดนที่เสียชีวิต เพราะโรคลูคีเมีย) มีอะไรที่โฮลเดนชอบบ้างไหมในชีวิต เพราะเขาดูไม่เคยชอบหรือพอใจอะไรในชีวิตเลย สิ่งที่เขานึกออกมีเพียงแค่แม่ชีสองคนที่หิ้วตระกร้าโทรมๆ เพื่อเรี่ยไรเงินบริจาค กับเพื่อนร่วมชั้นของเขา

ตอนที่พบแม่ชีทั้งสองคนบนรถไฟฟ้า เขารู้สึกหดหู่กับข้าวของและกระเป๋าราคาถูกที่แม่ชีใช้ พลันทำให้เขาอดนึกถึงแม่และป้าผู้ร่ำรวยของเขาไม่ได้ ว่าถ้าพวกเขาต้องมาทำการกุศลแบบนี้คงทำไปเพียงเพราะอยากได้หน้า ความจริงใจของแม่ชีที่เขาได้พบและพูดคุยบนรถไฟฟ้าทำให้เขามีความสุข

อีกทั้งกระเป๋าของแม่ชีทำให้เขานึกถึงเรื่องราวในอดีต โฮลเดนกับอดีตรูมเมทของเขามีกระเป๋าเดินทางคนละใบ อดีตเพื่อนร่วมห้องของเขาที่ใช้กระเป๋าราคาถูกได้นำกระเป๋าไปซ่อนไว้ใต้เตียงเพื่อไม่ให้มีใครเห็นกระเป๋าโทรมๆ ของเขา โฮลเดนเลยนำกระเป๋าราคาแพงของเขาไปซ่อนบ้างเพื่อที่เพื่อนจะได้ไม่รู้สึกแย่หรืออาย แต่อดีตเพื่อนร่วมห้องกลับนำกระเป๋าของโฮลเดนออกมาวางไว้ที่ชั้นเพื่อให้ทุกคนที่เดินผ่านเข้าใจว่ากระเป๋าราคาแพงเป็นของเขานั่นเอง

โฮลเดนรู้สึกแย่ ไม่ใช่แค่กับอดีตรูมเมท แต่เขารู้สึกแย่กับสังคมที่หล่อหลอมให้คนคนหนึ่งผูกคุณค่า และความรู้สึกไว้กับวัตถุและภาพลักษณ์ เขาจึงเลือกที่จะหารูมเมทคนใหม่ที่มีฐานะใกล้เคียงกันกับเขา ถึงแม้ว่ารูมเมทคนใหม่จะทำตัวเฟกแค่ไหนก็ตาม แต่อย่างน้อยเพื่อนร่วมห้องผู้มาใหม่ก็ไม่ต้องมารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเมื่ออยู่กับเขา

ในขณะที่คนรอบตัวที่มีสถานะทางสังคมใกล้เคียงกับเขามัวแต่มีความสุขและไม่ได้รู้สึกรู้สาถึงโครงสร้างทางสังคมที่ไม่เท่าเทียมและกดทับผู้คนที่ไม่ได้เกิดมามีโอกาสทางสังคม (social privilege) มากนัก

เขาจึงเลือกที่จะก่นด่าทุกคนที่มีฐานะและสถานะทางสังคมที่ใกล้เคียงกับเขาเพียงในใจเท่านั้น

อีกหนึ่งคนที่เขานึกถึง คือเพื่อนร่วมชั้นที่โดนรุมทำร้ายอย่างสาหัส จากการเรียกคนคนหนึ่งว่าคนอวดดี แทนที่เขาจะถอนคำพูดเพื่อเอาตัวรอด เขากลับกระโดดลงมาจากหน้าต่างและเสียชีวิตในทันที

เรื่องราวนี้ฝังลึกในจิตใจของโฮลเดน ว่าหากไม่ยอมสูญเสียตัวตนของตัวเองก็มีแต่ต้องจากไปเพียงเท่านั้น มันทำให้เขารู้ว่าถ้าไม่สวมหน้ากากก็เอาตัวรอดไม่ได้

โฮลเดนรู้ตัวดีว่าตัวเองกำลังค่อยๆ ร่วงหล่นจากท้องทุ่ง กลายไปเป็นผู้ใหญ่โกหกตอแหลที่เขาแสนเกลียด…

ในเมื่อไม่มีใครที่คอยรับเขาไว้ สิ่งเดียวที่โฮลเดนอยากทำจึงเป็นการปกป้องความไร้เดียงสาในวัยเยาว์ ของเด็กๆ ทุกคนเพื่อที่จะไม่ต้องรู้สึกแตกสลายและกลายเป็นแบบเขาที่ค่อยๆ ตกจากหน้าผา สูญเสียตัวตนให้กับการเติบโต

“…พี่นึกภาพเด็กตัวเล็กๆ เล่นเกมกันอยู่ในทุ่งกว้างใหญ่ เด็กเล็กเป็นพันๆ คน และไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย พี่หมายถึงไม่มีคนตัวใหญ่อยู่เลย นอกจากพี่คนเดียว และพี่ก็ยืนอยู่ที่ขอบหน้าผาสูงที่อันตราย สิ่งที่พี่ต้องทำ คือพี่ต้องเป็นคนคอยรับทุกคนถ้าพวกเขาจะร่วงหล่นตกจากหน้าผา…”

แต่ความจริงแล้ว มันไม่มีหน้าผา ไม่มีใครต้องร่วงหล่นไปที่ไหน มีเพียงเด็กตัวเล็กๆ ที่วิ่งเล่นอยู่ในทุ่งที่มีรวงข้าวไรย์สูงท่วมหัว และเมื่อโตขึ้นเขาอาจจะเห็นท้องฟ้า อะไรต่อมิอะไรที่สำคัญไปมากกว่าสนามเด็กเล่นที่เคยวิ่งเล่นในวัยเด็ก

หากจะมีสิ่งใดที่จะร่วงหล่นคงเป็นทุ่งข้าวไรย์ที่เหี่ยวเฉา เพราะถูกเหยียบย่ำและลืมเลือนไปตามกาลเวลา สุดท้ายก็จางหายไปจนไม่มีที่ทางให้วิ่งเล่นได้อีกเลย

สุดท้ายเขาก็หนีไม่พ้น… โฮลเดนถูกความเป็นผู้ใหญ่กลืนกินเสียแล้ว เขาไม่มีทางเลือกนอกจากยอมจำนนต่อการเติบโต เขาเข้ารับการรักษาจากจิตแพทย์ และเตรียมตัวเพื่อเข้าโรงเรียนใหม่

ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากนั้นเขาจะทำอะไรต่อ เขาอาจจะกลายเป็นผู้ใหญ่จอมโกหกตอแหล เป็นแม่ชีที่เขาพบ เป็นเพื่อนร่วมชั้นของเขา แม้กระทั่งตัวเขาเองก็ไม่สามารถรู้ได้เหมือนกัน

ในศตวรรษที่ 21 เรื่องราวของโฮลเดนคงจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด แต่ความในใจของโฮลเดน ทำให้เราหวนอาลัยต่อความจริงใจในวัยเยาว์ที่เต็มไปด้วยการกระทำของผู้ที่ “ไม่บรรลุวุฒิภาวะ” ได้อีกครั้ง    มันทำให้เราอดคิดถึงความตอแหลจอมปลอมของการใช้ชีวิตในสังคมไม่ได้ ว่าเราได้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่เราเกลียดแสนเกลียดในวัยเด็กไปแล้วหรือยัง

ไม่มีใครร่วงหล่น ไม่มีใครไปไหน มีเพียงแค่ทุ่งข้าวไรย์ที่หายไป จากการถูกลืมเลือนเพราะต้องเติบโต

ขอเพียงอย่าลืมทุ่งข้าวไรย์ที่เคยวิ่งเล่น อย่าลืมจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ที่เต็มไปด้วยความสุขและความจริงใจ ถึงแม้ในวันนี้คุณจะกลายเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม…


งานที่อ้างถึง

Smiana Journal. (22 มีนาคม 2556). จะเป็นผู้คอยรับไว้ ไม่ให้ใครร่วงหล่น. เรียกใช้เมื่อ มีนาคม 2567 จาก Smiana Journal: https://smiana.wordpress.com/2013/03/22/จะเป็นผู้คอยรับไว้-ไม่ใ/

ปราบดา หยุ่น. (2562). The catcher in the rye จะเป็นผู้คอยรับไว้ ไม่ให้ใครร่วงหล่น. ใน J. D. Salinger, The catcher in the rye. กรุงเทพฯ, ประเทศไทย: ไลต์เฮ้าส์.

Eat . Pray . Live. (21 มิถุนายน 2562). The Catcher in The Rye. เรียกใช้เมื่อ มีนาคม 2567 จาก Facebook: https://www.facebook.com/100063528129871/posts/1330851240405632/

ไอดา อรุณวงศ์. (2565). “แม่ง โคตรโฟนี่เลย”: การเมือง | วรรณกรรม ในยุคที่สุนัขไม่ใช่หมาเสมอไป แต่ประชาชนยังเป็นควายเหมือนเดิม. ใน ไอดา อรุณวงศ์, แม่ง โคตรโฟนี่เลย. กรุงเทพฯ, ประเทศไทย: bookscape.

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
3
Love รักเลย
1
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0
Writings

Original Character: เรื่องราวตัวละครต้นฉบับของ 9 ผู้สร้างสรรค์

เรื่องและภาพ:  วรัชยา สุริยะพันธุ์  ในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เหล่า ‘สายผลิต’ ซึ่งเป็นศัพท์สแลงที่ใช้เรียกกลุ่มนักเขียน นักวาดและนักทำงานฝีมืออิสระต่างตั้งตารอมาออกบูธในงาน ‘Comic Avenue’ อีเวนต์เกี่ยวกับหนังสือการ์ตูนและอนิเมะที่เปิดพื้นที่ให้กลุ่มนักวาดและนักทำงานฝีมือซื้อขายผลงานและพบปะกลุ่มศิลปินด้วยกันเอง รวมทั้งแฟนคลับที่ติดตามพวกเขาผ่านโซเชียลมีเดีย หรือกับลูกค้าจรที่เดินผ่านมาและสะดุดตาผลงานของพวกเขาจนสนใจซื้อสินค้าของผู้ออกบูธกลับบ้านไปด้วย หนึ่งในสีสันที่ทำให้งานนี้แตกต่างจากงานอื่นคือการปรากฏตัวของกลุ่มตัวละครที่เรียกว่า ‘Original Character’ หรือตัวละครต้นฉบับของเหล่าศิลปินที่ได้รับการสร้างสรรค์ตั้งแต่รูปร่างหน้าตา ประวัติของตัวละครไปจนถึงโลกที่ตัวละครอาศัยอยู่ หลายครั้งตัวละครเหล่านั้นถูกนำไปผลิตเป็นสินค้ามากมายเพื่อวางขายในงานเช่น Comic Avenue แม้บางครั้งจะไม่ได้รายได้มากก็ตาม  Varasarn Press จะพาไปพบกับเรื่องราวจากปลายปากกาศิลปิน ...

Writings

ในเมื่อไม่มีอะไรเป็นต้นฉบับอีกต่อไป เรายังต้องเคารพต้นฉบับอยู่ไหม?

เขียน: ปานชีวา ถนอมวงศ์ ภาพประกอบ: ภัชราพรรณ ภูเงิน “ไม่มีอะไรเป็นต้นฉบับที่แท้จริงหรอก จงขโมยจากอะไรก็ตามที่สะท้อนถึงแรงบันดาลใจ หรือจุดประกายจินตนาการของคุณ และเลือกขโมยแค่จากสิ่งที่สื่อสารกับจิตวิญญาณอย่างตรงไปตรงมา ถ้าคุณทำตามนี้ ผลงาน (และการขโมย) ของคุณก็จะเป็นของแท้ ความจริงแท้เป็นสิ่งที่ล้ำค่า ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ไม่มีจริง ...

Writings

‘ปล่อยวาง’ พูดง่าย แต่ทำยาก?: การปล่อยวางกับสังคมในยุคปัจจุบันจากมุมมองของนักวิชาการ

เขียน: แพรพิไล เนตรงาม ภาพ: ภัชราพรรณ ภูเงิน เคยรู้สึกเหนื่อยไหมที่ต้องพยายามทำหรือควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามที่ใจต้องการ? ในสังคมที่เร่งรีบและมีการแข่งขันสูง คนเราอาจเคยพบเจอความสัมพันธ์ที่ไม่สมหวัง ไม่ผ่านสัมภาษณ์งาน มีหน้าที่ที่ต้องดูแลคนในครอบครัว หรือแม้แต่ความผิดที่เคยก่อยังคงวนเวียนอยู่ในใจไม่จางหาย เราคาดหวัง เราโกรธ เราโลภ ...

Writings

Queen of Arts and Crafts พระพันปี ผู้ฟื้นฟูศิลปะไทย

เขียน: กองบรรณาธิการวารสารเพรส ภาพประกอบ: สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนนานับประการ และหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นและเป็นที่จดจำอย่างมากคือพระราชปณิธานในการฟื้นฟูศิลปะและวัฒนธรรมไทย จนได้รับการยกย่องให้เป็น ‘Queen of Arts and ...

Writings

จากศูนย์สู่เซียน(?): จะเป็นอย่างไรเมื่อธรรมศาสตร์สอนพระเครื่อง

เขียน: วรัชยา สุริยะพันธุ์ ภาพประกอบ: ภัชราพรรณ ภูเงิน   จากกรณีถกเถียงของสองเซียนพระเครื่องชื่อดัง บอย ท่าพระจันทร์ และ โอ๊ต บางเเพ เรื่องมาตรฐานการพิจารณาพระเครื่องจริง-ปลอมของ เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ปี 2508 ปลุกกระแสให้วงการพระเครื่องกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง มีกลุ่มผู้สนใจพระเครื่องรุ่นใหม่ที่ต้องการหาความรู้ก่อนเข้าวงการเป็นจำนวนมาก เห็นได้จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับพระเครื่องในกลุ่มเฟซบุ๊ก ผู้ชื่นชอบพระเครื่องและเพจเซียนพระ สถาบันเสริมศึกษาฯ หรือ TU NEXT แหล่งรวมหลักสูตรออนไลน์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ...

Writings

ศิลปิน VS AI : ศิลปินผู้สร้างดนตรีจะทำอย่างไร เมื่อ AI (อาจ) แต่งเพลงสื่อสารทางใจแทนมนุษย์ด้วยกันได้

เรื่องและภาพประกอบ: เปรมชนก พฤกษ์พัฒนรักษ์ วันนี้ วันที่ 25 ตุลาคม เป็นวันศิลปินนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเชิดชูศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานผ่านศิลปะทุกแขนงทั่วโลก ทว่าในปัจจุบันทุกๆ วงการ ไม่เว้นวงการศิลปะทางดนตรี กลับถูกปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วงชิงพื้นที่การประกอบอาชีพ ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save