เรื่องและภาพ: ฐิดาพร พิมพ์สีโคตร

ในอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดซีรีส์วายคือหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ และสร้างรายได้มหาศาลทั้งจากในและนอกประเทศ แต่ท่ามกลางความรุ่งเรืองนั้น หากลองมองลึกเข้าไปในโครงสร้างของการเล่าเรื่องจะพบว่า ผู้หญิง มักจะถูกลดบทบาทให้เหลือเพียงตัวประกอบในศูนย์กลางของเรื่องราวความรักชาย-ชาย
หากมองย้อนกลับไปในยุคแรกๆ บทบาทของผู้หญิงคือ ตัวร้าย หรือ มือที่สาม ที่เข้ามาสร้างอุปสรรค และเป็นตัวละครเสริมที่สนับสนุนความสัมพันธ์ของชาย-ชายให้โดดเด่นขึ้น และเมื่อเวลาผ่านไปบทบาทของผู้หญิงถูกปรับลงเหลือเพียง เพื่อนสนิท หรือ ตัวประกอบ
ตัวอย่างเช่น ซีรีส์วายที่เล่าเรื่องราวในรั้วโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ตัวละครหญิงมีบทบาทเพียงเพื่อนสนิทที่คอยเชียร์อยู่ข้างสนาม บางเรื่องเลือกให้ผู้หญิงเป็นนักศึกษาคณะเดียวกัน คอยทำหน้าที่ปล่อยมุกคลายเครียด หรือบางครั้งเป็นตัวแทนของกลุ่ม ‘สาววาย’ ที่เป็นผู้รับชมอยู่มากกว่าจะมีชีวิตและเรื่องราวเป็นของตัวเอง
ขณะเดียวกัน อิทธิพลจากนวนิยายที่เป็นต้นทางของซีรีส์จำนวนมาก ก็ยังคงลดบทบาทของผู้หญิง ทำให้พื้นที่ของผู้หญิงในอุตสาหกรรมเล็กลงไปอีก
แต่ในเรื่อง ‘ชาย’ (Shine The Series) ซีรีส์เกี่ยวกับการเมืองในยุค 2512 ที่ประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าเป็น ‘Original Gay Series’ จากค่ายเหนือเมฆ (Be On Cloud) บทบาทของผู้หญิงในเรื่องนั้นถูกออกแบบให้แตกต่างไปจากกรอบเดิม
ผู้หญิงในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียง เงา อยู่เบื้องหลัง หากแต่ละตัวละครมีเรื่องราว มีชีวิต และมีมิติเป็นของตัวเอง
เนื้อหาต่อไปนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของเรื่อง
บทบาทของตัวละครหญิงใน Shine
เทวี หากมองผ่านสายตาของสังคมในยุคนั้น เธอคือสตรีชนชั้นสูงที่เพียบพร้อม สง่างาม ตามแบบฉบับกุลสตรีในสมัยนั้น เธอถูกจับแต่งงานกับ ‘ไกรเลิศ’ ผู้พันหนุ่มผู้มีอุดมการณ์แรงกล้า แต่ในอีกด้านหนึ่งเขาเป็นชายที่ไม่ได้รักเธอในฐานะภรรยา เพราะแท้จริงแล้วเขาเป็นเกย์
เทวีแทบไม่เคยได้รับการดูแล เอาใส่ใจจากสามี แม้กระทั้งวันครบรอบแต่งงานในตอนที่ 1 เขาก็ไม่ได้กลับบ้าน เพียงแค่ฝากให้ลูกน้องคนสนิทนำดอกกุหลาบที่ไม่ได้เป็นแม้แต่ดอกไม้ที่เธอชอบไปมอบแทน
เมื่อมองให้ลึกลงไป เทวีจึงไม่ใช่เพียงตังละครหญิงในเรื่องราว แต่เปรียบเสมือนภาพสะท้อนของผู้หญิงจำนวนมากที่ถูกกดทับด้วยบรรทัดฐานและอำนาจชายเป็นใหญ่ ที่ถึงแม้ว่าจะเพียบพร้อม สง่างามแค่ไหน สามีก็ไม่เห็นคุณค่าของเธอ และเธอก็ไม่มีสิทธิเลือกทางเดินชีวิตของตัวเธอเอง
ดาวดี คุณหนูไฮโซ ลูกสาวนายธนาคารที่เติบโตมาในครอบครัวสังคมชนชั้นสูง มีรสนิยมและความมั่นใจ ไม่ใช่กุลสตรีเรียบร้อยแบบเก่า แต่เป็นหญิงสาวรุ่นใหม่ที่เปิดรับอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตกเป็นภาพสะท้อนของชนชั้นสูงในช่วงที่สังคมไทยที่กำลังขยับเข้าสู่ความทันสมัย
ในเรื่องเธอคบหากับ ‘ณรัน’ นักข่าวหนุ่มผู้ยึดมั่นในอุดมการณ์ เสี่ยงชีวิตเพื่อเปิดโปงความอยุติธรรม ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นเสมือนการปะทะกันระหว่าง อุดมการณ์ กับ อภิสิทธิ์ชน
เธอมักเป็นฝ่ายที่ยอมประนีประนอมอยู่เสมอ ในขณะที่ณรันยึดมั่นในอุดมการณ์ของตัวเอง ความแตกต่างทำให้ชีวิตทั้งคู่เต็มไปด้วยรอยร้าว ฐานะที่แตกต่างทำให้เธอต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ครอบครัวยอมรับแฟนหนุ่ม
“เราได้ที่ตั้งสำนักพิมพ์ให้เธอแล้วนะ เตี่ยตกลงว่าจะออกทุนให้สามปีแรก แล้วหลังจากนั้นถ้าเธอพิสูจน์ตัวเองสำเร็จ เตี่ยจะยกหุ้นทั้งหมดให้พวกเราเป็นของขวัญวันแต่งงาน”
ถ้อยคำดังกล่าวที่ปรากฎในตอนที่ 7 แสดงให้เห็นถึงความพยายามและความทุ่มเทที่ดาวดีอยากสนับสนุนคนรัก แต่สุดท้ายความสัมพันธ์และความพยายามของเธอก็พังทลายลงด้วยความจริงที่ว่าคนรักที่เธอทุ่มเทนอกใจ
ภาพของเธอจึงไม่ได้เป็นเพียงตัวแทนของหญิงที่ถูกแฟนหนุ่มนอกใจ แต่เปรือบเสมือนภาพสะท้อนของหญิงสาวชนชั้นสูง ที่แม้ว่ามีอำนาจ มีชีวิตที่เพียบพร้อม แต่ก็ต้องถูกผู้ชายทำให้เป็นฝ่ายเจ็บปวด
มนทิรา หญิงม่ายเจ้าของโรงแรมแกรนด์พาราดิโซและไนต์คลับ สถานที่ที่ทำหน้าที่มากกว่าแหล่งพักผ่อน หากแต่เป็น ‘พื้นที่การต่อรองอำนาจ’ ในยุคที่ผู้หญิงจำนวนมากยังอยู่ใต้บรรทัดฐานของสังคมและอำนาจของผู้ชาย มนทิรากลับเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเธอเอง เธอใช้ชีวิตอย่างท้าทายต่อขนบและกรอบของสังคมที่พยามจำกัดบทบาทผู้หญิงให้อยู่แค่ในครัวหรือในบ้าน
มีฉากที่เธอพูดกับธันวา(ตัวละครหลัก) ขณะเล่าถึงอดีตในตอนที่ 2 ว่า
“ชฎานั้นฉันสวมตอนรำถวายต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ตอนนั้นอายุ 16 เองนะ รำดีจนมีผัวเลยล่ะ”
“แล้วมีมงกุฎอะไรที่มนทิราอยากได้อีกไหม” ธันวาถาม
“ตอนนี้ฉันเป็นราชินีของที่นี่ ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาสวมมงกุฎให้ฉันแล้วล่ะ”
คำตอบของเธอสะท้อนถึงความมั่นใจและการยืนหยัดในพื้นที่ของตัวเอง
มนทิรานำมาสู่การเปรียบเทียบกับตัวละครหญิงคนอื่นๆ ในเรื่อง เทวีและดาวดีอาจถูกจำกัดหรือถูกทำให้เจ็บปวดโดยผู้ชาย แต่มนทิราสามารถนิยามชีวิตและอำนาจของตัวเองได้ และเป็นสัญลักษณ์ของผู้หญิงหัวก้าวหน้าที่ขัดต่อค่านิยมสมัยนั้น
นุ่ม ตัวแทนของผู้หญิงชนชั้นล่างในยุคนั้น เสียงเพลงที่เธอร้องขณะทำอาหารในตอนที่ 1
“ทั้งวันเราทำงานงามสง่าหน้าพิศมัย พอเย็นก็เฮ่ ค่ำก็เพลิน ระรื่นยำพาย หญิงอย่างเราต้องเชิดต้องฉายไม่อายผู้ใด”
ถ้ามองลึกลงไป เพลงนั้นอาจจะซ่อนความในบ้างอย่าง ที่ไม่ได้สะท้อนแค่ความรื่นเริง แต่คือการประกาศศักดิ์ศรีของผู้หญิงว่า เธอขายของด้วยความสง่า ใช้ชีวิตด้วยความสุขเล็กๆ ยืนหยัดอย่างภาคภูมิ และเห็นคุณค่าของตัวเธอเอง
นุช เด็กสาวที่เลือกการทำงานมากกว่าการเรียน ช่วยนุ่มทำกับอาหารขาย และเรียนรู้โลกจากชีวิตจริงมากกว่าตำรา ฉากที่เธอยืนอยู่กลางวงข้าวที่นั่งรายล้อมด้วยผู้ชายที่เรียนหนังสือในตอนที่ 3 ว่า
“เปลือง หาเงินไม่ได้ ยังแxกจุอีก”
ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง การยืนอยู่เหนือผู้ชายไม่ได้เป็นเพียงแค่การยืนค่ำหัว แต่ยังสื่อว่า ถึงแม้เธอจะไม่ได้มีความรู้ในโรงเรียน แต่ก็ยังสามารถ ‘สูงกว่า’ ผู้ชายที่มีอำนาจและความรู้ได้ คล้ายกับการประกาศตัวว่าผู้หญิงธรรมดาก็มีพื้นที่ มีจุดยืนของตัวเธอเอง ไม่จำเป็นต้องอยู่ใต้เงาผู้ชายเสมอไป
เมื่อได้มองมองย้อนผ่านตัวละครหญิงใน Shine จะเห็นภาพหลากหลายของความเป็นผู้หญิงในสังคมไทย
เทวี กุลสตรีชนชั้นสูงที่ถูกกดทับด้วยบรรทัดฐานทางสังคม
ดาวดี หญิงสาวผู้ทันสมัยที่ไม่หลุดพ้นจากครอบครัวและชนชั้น
มนทิรา ผู้หญิงหัวก้าวหน้าที่ยืนหยัดด้วยตัวเอง
นุ่มและนุช เสียงสะท้อนจากชนชั้นล่าง ที่แม้จะมีเพียงพื้นที่เล็กๆ แต่ก็มีศักดิ์ศรีและเส้นทางชีวิตที่เธอเลือกเอง
ผู้หญิงในเรื่องนี้ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อทำให้ความรักชาย–ชาย โดนเด่นขึ้น หากแต่คือเส้นเรื่องที่ช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ว่าผู้หญิงเองก็มีเรื่องราว พื้นที่ และคุณค่าของตัวเอง
ท้ายที่สุดชายจึงไม่ได้เล่าเพียงเรื่องรักหรือการเมือง หากยังเป็นกระจกสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างเพศ ชนชั้น และอำนาจในสังคมไทย และเกิดเป็นคำถามที่ว่า ผู้หญิงในสังคมจริง มีพื้นที่ให้ยืนอย่างที่ตัวเองเลือกได้แค่ไหน
สามารถติดตามบทสรุปของตัวละครหญิงและตอนจบของเรื่องได้ในคืนนี้ ทางช่อง 7HD และ WeTV เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป
รายการอ้างอิง
Caremat. (ม.ป.ป). ชายเป็นใหญ่กับการกดทับ LGBT. วันที่สืบค้น 16 กันยายน 2568. https://www.caremat.org/%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A-l/
The Momentum. (2566). วาทกรรมเกลียดผู้หญิงในหมู่สาว Y. วันที่สืบค้น 16 กันยายน 2568. https://themomentum.co/gender-misogyny-among-sao-y/
TrueID. (2568). รู้จัก 8 นักแสดง Shine The Series ซีรีส์ไทยเกย์ จาก BOC.
วันที่สืบค้น 17 กันยายน 2568. https://entertainment.trueid.net/detail/p7RKzEvEodxJ
Wongyai, P. (2567). บทบาทของผู้หญิงและความเป็นหญิงในสื่อกระแสนิยมประเภทชายรักชาย ในซีรีส์และมังงะ
วันที่สืบค้น 18 กันยายน 2568. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/socku/article/view/270717
มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล. (2563). คำสอนที่ผลิดซ้ำระบบชายเป็นใหญ่. วันที่สืบค้น 18 กันยายน 2568.https://www.wmp.or.th/blog/3278/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%8B%E0%B9%89%E0%B8%B3-%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88