Art & CultureArticlesWritings

ขนมครกจิ้มไม่จิ้ม

เรื่อง : ตามติดชีวิตไอดอล

ภาพประกอบ : เก็จมณี ทุมมา

“เราโกรธมาก ไม่แถมน้ำตาลให้เราแล้วเราจะกินยังไง”

“ขนมครกเขาไม่ใส่น้ำตาล ถ้าใส่น้ำตาลบ้านเรามันคือขนมถังแตก แกคนที่ไหนเนี่ย?”

(ถกสนั่นโซเชียล ขนมครกต้องจิ้มน้ำตาลไหม?, 2566)

จากกระแสเกี่ยวกับขนมครกที่มีการถกเถียงกันบนโลกออนไลน์ว่า สรุปแล้วขนมครกนั้นต้องกินแบบจิ้มหรือไม่จิ้มน้ำตาลทราย บ้างก็ว่ากินแบบจิ้มน้ำตาลทรายมาตั้งแต่เกิด บ้างก็ว่าขนมครกรสชาติหวานอยู่แล้วจะจิ้มน้ำตาลทรายอีกทำไมไม่เคยเห็นใครทำมาก่อน เราจึงเกิดคำถามว่าแท้จริงแล้วขนมครกมันมีกี่ประเภทและต้องกินแบบไหนถึงจะถูกต้องกันแน่

ในปัจจุบันขนมครกนั้นมีการแบ่งเป็นสองประเภทใหญ่ ๆ คือ ขนมครกโบราณและขนมครกชาววัง        ซึ่งถ้าคุณกินแบบไม่จิ้มน้ำตาลทรายแสดงว่าคุณกำลังกินขนมครกสูตรชาววัง โดยขนมครกสูตรชาววังจะมีรสชาติหวานมัน และมีเครื่องโรยหน้าที่หลากหลายให้เลือกสรร เช่น ข้าวโพด ต้นหอม เผือก มัน ฯลฯ แต่ถ้าคุณ          กินขนมครกแบบจิ้มน้ำตาลทรายแสดงว่าคุณกำลังกินขนมครกสูตรโบราณ โดยขนมครกสูตรโบราณจะมีรสชาติเค็มมัน ไม่หวาน ไม่ได้มีการโรยหน้าแบบชาววัง และจะได้น้ำตาลทรายแถมมาด้วยเพื่อเอาไว้จิ้มกินเพิ่มความหวาน (หนมครกโบราณ, 2563)

ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ขนมครกในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันนั่นก็คือ ความแตกต่างทางวัฒนธรรม       อย่างที่ได้กล่าวมาในข้างต้น ขนมครกจิ้มน้ำตาลทรายหรือขนมครกสูตรโบราณส่วนใหญ่มักพบมากในภาคใต้    ของไทย เนื่องด้วยพื้นเพเดิมของคนใต้นิยมทานอาหารที่มีรสจัด เพราะพื้นที่ของภาคใต้อยู่ติดทะเลต้องทำอาหารรสจัดเพื่อกลบกลิ่นคาวจึงส่งผลให้คนใต้ไม่นิยมรับประทานอาหารที่มีรสชาติค่อนไปทางหวาน (วงในวันละร้าน, 2564) แต่ถึงอย่างนั้นการมีน้ำตาลมาให้เป็นเพียงตัวเลือกสำหรับคนที่อยากตัดรสเค็มของกะทิ ส่วนขนมครกไม่จิ้มน้ำตาลทรายหรือขนมครกสูตรชาววังที่มักพบเจอได้ทั่วไป เป็นสูตรต้นตำรับของชาววังที่ตั้งใจดัดแปลงขนมครก  ให้มีสีสันสวยงามโดยการเพิ่มเครื่องโรยบนหน้าขนมครก และมีรสชาติหวานมันพอดีกัน ดังคำกล่าวของคนชาววังที่ว่า “กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่” ซึ่งในที่นี้หมายถึงการกินอาหารที่มีรสหวานนั่นเอง

ขนมครกสูตรชาววังที่มีรสหวานในตัวของมันเอง เหตุมาจากในอดีตพบว่าน้ำตาลทรายเป็นของมีค่า      หายาก ราคาแพง (น้ำตาล: ประวัติศาสตร์ ชนชั้น รัฐไทย, 2560) คนทั่วไปจึงไม่สามารถลิ้มลองรสชาติความหวานจากน้ำตาลทรายได้ แต่แน่นอนว่าคนในวังที่ให้ความสำคัญกับความสวยงามและความเรียบหรูของอาหาร          จึงปรุงอาหารด้วยน้ำตาลทราย เพื่อแสดงให้เห็นถึงฐานะและชนชั้นที่สามารถทานอาหารเหล่านี้ได้ นอกจากนี้  ขนมครกแบบไม่จิ้มน้ำตาลทรายก็ยังมีอีกประเภทหนึ่งคือ ขนมเก่าแก่ของชาวมอญ ซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่ที่      ชุมชนมอญ ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีเพียงแห่งเดียว วิธีการทำก็มีความน่าสนใจเนื่องจากใช้ข้าวเหนียวดิบ นำไปแช่น้ำจนชุ่มจากนั้นนำมาหยอดเป็นแผ่นบาง ๆ ในเบ้าขนมครก ใส่ไส้เป็นมะพร้าวทึนทึกขูด น้ำตาลทรายและงาคั่วเคล้าให้เข้ากัน (‘ขนมครก’ ขนมไทยโบราณสุดอร่อย, 2567)

นอกจากนี้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังพบขนมที่คล้ายคลึงกับขนมครกได้ในหลาย ๆ ประเทศ อย่างในลาวเรียก ขนมคก ในพม่าชื่อ โมก หลีน-มะย้า ซึ่งเวลาจะกินก็โรยหน้าด้วยน้ำตาลแดง และในอินโดนีเซียเรียก ขนมเซอราบี ที่เสิร์ฟพร้อมน้ำเชื่อมมะพร้าว (รวมเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับ “ขนมครก”, 2567)

สิ่งที่ชาวเน็ตเถียงกันมาทั้งหมดนั้นเป็นผลมาจากความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความแตกต่าง         ของการทานขนมครกในแต่ละภูมิภาค ซึ่งความแตกต่างนั้นมีอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมด้านอาหาร วิถีชีวิต        รวมไปถึงลักษณะภูมิประเทศของแต่ละภาคนั้น ๆ

แต่ในขณะที่ชาวเน็ตเสียงแตกเป็นสองฝั่ง ทั้งทีมจิ้มน้ำตาลทรายและทีมไม่จิ้มน้ำตาลทราย                ขนมครกของไทยก็ได้เป็นหนึ่งในขนมตระกูลแพนเค้กที่ดีที่สุด และคว้าอันดับ 4 ของโลกมาครอง ถือเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งถูกจัดอันดับโดยเว็บไซต์ด้านอาหารชื่อดังระดับโลกอย่าง “Tasteatlas” เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 โดยอันดับ 1 ตกเป็นของ เครป จากประเทศฝรั่งเศส และรองลงมาคือ แพนเค้กหวาน           จากประเทศเยอรมนี อันดับ 3 คือ เครปจีน จากประเทศจีน ด้วยการจัดอันดับนี้จึงทำให้ขนมครกเป็นกระแส         ในประเทศไทยมากกว่าเดิม (ขนมครกไทย คว้าอันดับ 4 ขนมตระกูลแพนเค้กที่ดีที่สุด, 2567) เห็นได้จาก    รายการตลาดข่าวของช่อง Workpoint ได้มีการสัมภาษณ์ทางฝั่งของพ่อค้าแม่ขายอย่างร้านขนมครกชื่อดัง        ในจังหวัดขอนแก่น และร้านขนมครกในจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวถึงเรื่องที่ขนมครกได้รับรางวัลแพนเค้กที่ดีที่สุดอันดับ 4 ของโลกว่า รู้สึกดีใจและภาคภูมิใจในขนมไทยที่สามารถคว้าใจคนต่างชาติได้ จากเดิมที่ขายดีอยู่แล้ว      ก็ขายดียิ่งขึ้นไปอีก จนในบางช่วงต้องตั้งเตารอเพราะกลัวทำไม่ทันกันเลยทีเดียว จากที่คนขายกล่าวมานั้นจึงทำให้เห็นถึงโอกาสที่ดีสำหรับการผลักดันขนมครกเป็น Soft power ด้านอาหารของไทย เนื่องจากอาหารไทยของเรา  มีศักยภาพอย่างมาก การันตีได้จากรางวัลระดับโลกมากมาย

อย่างกระแสของมิลลิ แรปเปอร์สาวที่ได้ขึ้นแสดงเทศกาลดนตรีโลก Coachella และในระหว่างการแสดงได้หยิบข้าวเหนียวมะม่วงมารับประทานบนเวที ทำให้ช่วงนั้นข้าวเหนียวมะม่วงถึงขั้นขาดตลาดกันเลยทีเดียว   และอีกหนึ่งเหตุการณ์ซึ่งก็คือ ลูกชิ้นยืนกิน ที่เป็นกระแสหลังจากลิซ่า Blackpink เอ่ยถึงอาหารโปรดของเธอ   ผ่านรายการวู้ดดี้โชว์ ทำให้หลายคนแห่กันไปตามรอยจนร้านลูกชิ้นขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จากทั้งหมดที่กล่าวมา   จะเห็นได้ว่าขนมครกนั้นมีแนวโน้มสามารถเป็น Soft power ของไทยได้อย่างแน่นอน

จะดีกว่ามั้ยถ้าเราเปลี่ยนจากการเถียงกันเรื่องจิ้มไม่จิ้ม เป็นหันมาทำความเข้าใจความแตกต่าง           ทางวัฒนธรรมของภูมิภาคต่าง ๆ ในประเทศของเรา และร่วมมือกันผลักดันอาหารไทยให้เป็น Soft power     เพื่อนำเสนอความเป็นไทยสู่สายตาของชาวโลก สร้างจุดขายให้กับประเทศและสร้างโอกาสในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้นต่อไป


บรรณานุกรม

กล้วยไม้ชายเล. (2563). หนมครกโบราณ. เข้าถึงได้จาก Postjung: https://board.postjung.com/1225996

คำ ผกา. (2560). น้ำตาล. เข้าถึงได้จาก The momentum: https://themomentum.co/momentum-opinion-history-of-sugar-thai/

คมชัดลึก. (2567). ขนมครก. เข้าถึงได้จาก Komchadluek: https://www.komchadluek.net/news/society/568784

Onetotea92. (2567). รวมเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับขนมครก. เข้าถึงได้จาก Trueid: https://food.trueid.net/detail/VnrqpdeeVl9B

Workpoint. (2567). ขนมครกขายดีติดอันดับโลก. เข้าถึงได้จาก ข่าวเวิร์คพอยท์ 23 : https://www.facebook.com/NewsWorkpoint/videos/340990085583632/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v

ประชาชาติธุรกิจ. (2567). ขนมครกไทย คว้าอันดับ4 . เข้าถึงได้จาก ประชาชาติธุรกิจ: https://www.prachachat.net/breaking-news/news-1499143

อมรินทร์ทีวี. (2566). ถกสนั่นโซเชียล ขนมครกต้องจิ้มน้ำตาลไหม. Youtube.

วงใน. (2564). ทำไมอาหารใต้ถึงเผ็ด. Youtube.

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
4
Love รักเลย
0
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0
Writings

Original Character: เรื่องราวตัวละครต้นฉบับของ 9 ผู้สร้างสรรค์

เรื่องและภาพ:  วรัชยา สุริยะพันธุ์  ในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เหล่า ‘สายผลิต’ ซึ่งเป็นศัพท์สแลงที่ใช้เรียกกลุ่มนักเขียน นักวาดและนักทำงานฝีมืออิสระต่างตั้งตารอมาออกบูธในงาน ‘Comic Avenue’ อีเวนต์เกี่ยวกับหนังสือการ์ตูนและอนิเมะที่เปิดพื้นที่ให้กลุ่มนักวาดและนักทำงานฝีมือซื้อขายผลงานและพบปะกลุ่มศิลปินด้วยกันเอง รวมทั้งแฟนคลับที่ติดตามพวกเขาผ่านโซเชียลมีเดีย หรือกับลูกค้าจรที่เดินผ่านมาและสะดุดตาผลงานของพวกเขาจนสนใจซื้อสินค้าของผู้ออกบูธกลับบ้านไปด้วย หนึ่งในสีสันที่ทำให้งานนี้แตกต่างจากงานอื่นคือการปรากฏตัวของกลุ่มตัวละครที่เรียกว่า ‘Original Character’ หรือตัวละครต้นฉบับของเหล่าศิลปินที่ได้รับการสร้างสรรค์ตั้งแต่รูปร่างหน้าตา ประวัติของตัวละครไปจนถึงโลกที่ตัวละครอาศัยอยู่ หลายครั้งตัวละครเหล่านั้นถูกนำไปผลิตเป็นสินค้ามากมายเพื่อวางขายในงานเช่น Comic Avenue แม้บางครั้งจะไม่ได้รายได้มากก็ตาม  Varasarn Press จะพาไปพบกับเรื่องราวจากปลายปากกาศิลปิน ...

Writings

ในเมื่อไม่มีอะไรเป็นต้นฉบับอีกต่อไป เรายังต้องเคารพต้นฉบับอยู่ไหม?

เขียน: ปานชีวา ถนอมวงศ์ ภาพประกอบ: ภัชราพรรณ ภูเงิน “ไม่มีอะไรเป็นต้นฉบับที่แท้จริงหรอก จงขโมยจากอะไรก็ตามที่สะท้อนถึงแรงบันดาลใจ หรือจุดประกายจินตนาการของคุณ และเลือกขโมยแค่จากสิ่งที่สื่อสารกับจิตวิญญาณอย่างตรงไปตรงมา ถ้าคุณทำตามนี้ ผลงาน (และการขโมย) ของคุณก็จะเป็นของแท้ ความจริงแท้เป็นสิ่งที่ล้ำค่า ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ไม่มีจริง ...

Writings

‘ปล่อยวาง’ พูดง่าย แต่ทำยาก?: การปล่อยวางกับสังคมในยุคปัจจุบันจากมุมมองของนักวิชาการ

เขียน: แพรพิไล เนตรงาม ภาพ: ภัชราพรรณ ภูเงิน เคยรู้สึกเหนื่อยไหมที่ต้องพยายามทำหรือควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามที่ใจต้องการ? ในสังคมที่เร่งรีบและมีการแข่งขันสูง คนเราอาจเคยพบเจอความสัมพันธ์ที่ไม่สมหวัง ไม่ผ่านสัมภาษณ์งาน มีหน้าที่ที่ต้องดูแลคนในครอบครัว หรือแม้แต่ความผิดที่เคยก่อยังคงวนเวียนอยู่ในใจไม่จางหาย เราคาดหวัง เราโกรธ เราโลภ ...

Writings

Queen of Arts and Crafts พระพันปี ผู้ฟื้นฟูศิลปะไทย

เขียน: กองบรรณาธิการวารสารเพรส ภาพประกอบ: สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนนานับประการ และหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นและเป็นที่จดจำอย่างมากคือพระราชปณิธานในการฟื้นฟูศิลปะและวัฒนธรรมไทย จนได้รับการยกย่องให้เป็น ‘Queen of Arts and ...

Writings

จากศูนย์สู่เซียน(?): จะเป็นอย่างไรเมื่อธรรมศาสตร์สอนพระเครื่อง

เขียน: วรัชยา สุริยะพันธุ์ ภาพประกอบ: ภัชราพรรณ ภูเงิน   จากกรณีถกเถียงของสองเซียนพระเครื่องชื่อดัง บอย ท่าพระจันทร์ และ โอ๊ต บางเเพ เรื่องมาตรฐานการพิจารณาพระเครื่องจริง-ปลอมของ เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ปี 2508 ปลุกกระแสให้วงการพระเครื่องกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง มีกลุ่มผู้สนใจพระเครื่องรุ่นใหม่ที่ต้องการหาความรู้ก่อนเข้าวงการเป็นจำนวนมาก เห็นได้จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับพระเครื่องในกลุ่มเฟซบุ๊ก ผู้ชื่นชอบพระเครื่องและเพจเซียนพระ สถาบันเสริมศึกษาฯ หรือ TU NEXT แหล่งรวมหลักสูตรออนไลน์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ...

Writings

ศิลปิน VS AI : ศิลปินผู้สร้างดนตรีจะทำอย่างไร เมื่อ AI (อาจ) แต่งเพลงสื่อสารทางใจแทนมนุษย์ด้วยกันได้

เรื่องและภาพประกอบ: เปรมชนก พฤกษ์พัฒนรักษ์ วันนี้ วันที่ 25 ตุลาคม เป็นวันศิลปินนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเชิดชูศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานผ่านศิลปะทุกแขนงทั่วโลก ทว่าในปัจจุบันทุกๆ วงการ ไม่เว้นวงการศิลปะทางดนตรี กลับถูกปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วงชิงพื้นที่การประกอบอาชีพ ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save