NewsWritings

ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ชี้คดีตากใบขาดอายุความส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ 

เรื่อง : ศิรประภา จารุจิตร

ภาพประกอบ : ณัฐธิดา นิติเกษตรสุนทร

ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ชี้คดีตากใบขาดอายุความส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เพราะประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐ

ด้านที่ปรึกษากม. มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม เสนอรัฐฯ ต้องนำกรณีตากใบมาถอดบทเรียน แนะทบทวนแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาเรื่องอายุความ และจัดตั้งคณะกรรมการชำระสะสางคดีตากใบ  เพื่อหาข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์มากขึ้ัน

จากกรณี คดีตากใบที่ญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตากใบ 48 คน ได้รวมตัวกันยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้ง 9 คน ในวันที่ 25 เม.ย. ซึ่งศาลจังหวัดนราธิวาส ได้รับฟ้องในวันที่ 23 ส.ค. ทั้งหมด 7 คน เนื่องจากอีก 2 คน มีการยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ซึ่งทางตำรวจไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อนที่คดีจะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค. ได้นั้น

ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ให้สัมภาษณ์ว่า การที่คดีความตากใบหมดอายุความส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ความไว้ใจ และความศรัทธาของคนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อกระบวนการยุติธรรมของรัฐบาล รวมถึงด้านความปลอดภัยในพื้นที่ ซึ่งมีผลมาจากการที่เหตุการณ์ตากใบไม่ได้รับความเป็นธรรม นำไปสู่ความมั่นคงของประเทศที่อาจลดลงได้ 

ศรีสมภพ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้อาจทำให้เกิดการก่อความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งเป็นการตอบโต้เชิงสัญลักษณ์ที่ผู้ก่อเหตุไม่ได้มุ่งให้เกิดความรุนแรงลุกลามบานปลาย แต่เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อรัฐ โดยผลกระทบส่วนมากมักเกิดกับสถานที่หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนชาวบ้านอาจไม่ได้รับผลโดยตรง เพราะโดยปกติผู้ก่อเหตุความไม่สงบมักหลีกเลี่ยงไม่โจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือน

“ถ้ารัฐบาลปัจจุบันพยายามเปิดพื้นที่ทางการเมืองให้มีการพูดคุยและสรุปบทเรียน ก็จะสามารถลดความรู้สึกขุ่นเคืองลงได้ในระดับหนึ่ง ส่วนแนวโน้มที่จะปฏิเสธรัฐโดยสิ้นเชิง จนออกไปร่วมสู้กับฝ่ายขบวนการที่ก่อความไม่สงบก็อาจจะไม่ถึงขั้นนั้นแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับท่าทีของรัฐฯ” ศรีสมภพกล่าวและว่า เพราะรัฐได้มีการพูดคุยกับขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติ (ฺBRN)อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เหตุการณ์ความไม่สงบลดลงใน 3 จังหวัดลดลงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เหตุที่เกิดในปัจจุบันส่วนมากเป็นการแสดงความไม่พอใจต่อรัฐ เช่น เหตุการณ์ตากใบ

อาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ที่ปรึกษากฎหมายจากมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมที่ช่วยเหลือชาวบ้านในการดำเนินคดี ให้สัมภาษณ์ว่า เนื่องจากคดีตากใบขาดอายุความ จึงไม่สามารถทำอะไรได้ในทางกฎหมาย โจทย์สำคัญที่ท้าทายสำหรับรัฐบาลคือ หลังจากนี้จะทำอย่างไรให้ประชาชนกลับมาเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของรัฐ จึงเสนอให้นำกรณีตากใบมาเป็นบทเรียน เพื่อทบทวนกฎหมายอาญาเรื่องอายุความ ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรงโดยรัฐ 

อาดิลัน กล่าวว่า การบังคับใช้อายุความปกติภายใต้การบังคับใช้กฎหมายความมั่นคง อาจเป็นเหตุทำให้ที่ผ่านมาประชาชนไม่กล้ายื่นฟ้องในคดีตากใบ เนื่องจากพวกเขาไม่อยู่ในสถานะที่จะใช้สิทธิขั้นพื้นฐานในการเรียกร้องความยุติธรรมได้ เพราะพวกเขาอยู่ภายใต้กฎหมายความมั่นคงที่เจ้าหน้าที่รัฐมีสิทธิในการจับกุม โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการศาลเหมือนในสถานการณ์ปกติ 

อาดิลัน กล่าวว่า รัฐบาลควรจะต้องรีบประกาศเจตจำนงว่าจะทบทวนแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาในเรื่องของอายุความ และจัดตั้งคณะกรรมการชำระสะสางเหตุการณ์ตากใบ เพราะข้อเท็จจริงจากข้อมูลชุดเก่าอาจจะคลาดเคลื่อนหรือไม่สมบูรณ์ จึงต้องการให้ตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงจากทุกภาคส่วน โดยให้ผู้เสียหาย ผู้กระทำความผิด หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล และจัดทำรายงานฉบับใหม่ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่รอบด้าน ครบถ้วน และสมบูรณ์มากขึ้นเป็นการชดเชยคดีที่หมดอายุความไป

“สิ่งหนึ่งที่เราพยายามเรียกร้องคือเราต้องเอาคดีตากใบนี้มาเป็นบทเรียน และทำให้เห็นถึงความกล้าหาญของครอบครัวผู้สูญเสียที่ลุกขึ้นสู้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม อย่าให้เขามีความรู้สึกว่าเขาสู้แล้วแต่เขาก็ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐ เพราะสิ่งที่เขาทำนั้นไม่ได้สูญเปล่า” อาดิลันกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ มีการบังคับใช้ ‘กฎหมายพิเศษ’ หรือ ‘กฎหมายความมั่นคง ที่แตกต่างจากพื้นที่อื่นในประเทศไทย ทั้งสิ้น 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) , พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 และกฎอัยการศึก หรือ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 เพื่อป้องกัน ควบคุม และปราบปรามสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี และ จ.ยะลา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2457 ซึ่งกฎหมายพิเศษนี้มีข้อถกเถียงระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐในการบังคับใช้กฎหมาย ​​เพราะ พ.ร.บ.กฎอัยการศึกได้มีการให้อำนาจฝ่ายทหารในการตรวจค้น กักตัว บุคคลที่สงสัยว่าอาจก่อให้เกิดความไม่สงบไว้สอบถามได้ไม่เกิน 7 วัน โดยไม่ต้องขออำนาจศาล และไม่ต้องมีหมายศาลในการควบคุมตัว สถานที่ในการควบคุมตัวขึ้นอยู่กับการกำหนดของทหาร และไม่มีการปล่อยตัวชั่วคราว

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
0
Love รักเลย
0
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0

More in:News

News

กองกิจฯ มธ.ขอความร่วมมือนศ.งดใช้บริการร้านเหล้าเสี่ยงผิดกฎหมาย ฝั่งสรรพสามิตและตำรวจ ตีความต่าง ปมอำนาจผู้กำหนดระยะห่างที่เหมาะสม

เขียน: ศิวะ พุ่มอรุณ กองกิจการนักศึกษา มธ.ขอความร่วมมือนักศึกษาไม่สนับสนุนร้านเหล้าที่เสี่ยงผิดกฎหมาย หลังพบบางร้านมีจุดที่ห่างจากรั้วมหาวิทยาลัยไม่ถึง 10 เมตร และมีการแสดงดนตรีสดทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบสถานบันเทิง ด้านสภ.คลองหลวงและกรมสรรพสามิตพื้นที่ปทุมธานี ตีความต่างเรื่องผู้มีอำนาจกำหนดระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างร้านเหล้าและมหาวิทยาลัย  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2558 ซึ่งใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ...

News

กรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิฯ อมธ.ลาออก ปมขัดแย้งนายกฯ

เขียน: อชิรญา ปินะสา กรรมการฝ่ายพิทักษ์สิทธิ อมธ.แถลงลาออก เหตุโดนจำกัดความเห็นในการทำงานและผู้นำมีความคิดแคบ ฝ่ายนายกอมธ.แจง ปัญหาคือทัศนคติในการทำงานไม่ตรงกันและขาดการพูดคุย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา อินท์ธารี อธิเจริญลักษณ์ ...

News

FAIR เตรียมยื่นแก้กม.ยาเสพติดให้ผู้ใช้ยาไม่ผิดอาญา

เขียน: ธีรภัทร กมล และศิวะ พุ่มอรุณ  มูลนิธิเพื่อสิทธิความหลากหลาย เตรียมยื่นเสนอแก้กฎหมายยาเสพติดให้ผู้ใช้ยาไม่มีความผิดทางอาญา เพราะผู้ใช้ยาไม่ใช่อาชญากร พร้อมเสนอ Harm Reduction เป็นบริการทางเลือก หวังลดอคติจากคนในสังคม  เมื่อวันที่  13 ก.ย. ที่ ...

News

ผนังอิฐหน้า SC3 ถล่ม คาดวัสดุเสื่อมสภาพ วิศวกรยืนยันไม่กระทบโครงสร้างหลัก

เขียน: เปรมชนก พฤกษ์พัฒนรักษ์ ผนังอิฐหน้าอาคาร SC3 ถล่ม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เจ้าหน้าที่คาดวัสดุเสื่อมสภาพและพายุลมแรงเป็นเหตุ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ วิศวกรยืนยันโครงสร้างหลักของอาคารปลอดภัยและอยู่ระหว่างวางแผนซ่อมแซม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.12 น. วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เกิดเหตุผนังอิฐตกแต่งถล่มลงมาบริเวณทางเข้าอาคารเรียนรวมสังคมศาสตร์ 3 (SC3) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากจุดดังกล่าวไม่มีนักศึกษาหรือเจ้าหน้าที่อยู่ในพื้นที่ขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภายในอาคารกล่าวว่า ได้ยินเสียงดังเป็นวัตถุตกลงมา ก่อนจะพบว่าแผงอิฐที่ติดผนังตรงทางเข้าก่อนถึงลิฟต์ร่วงลงมา พนักงานจึงได้รีบนำเชือกมากั้นพื้นที่ภายในเวลาประมาณ 20 นาทีหลังเกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัย พนักงานอีกคนหนึ่งที่ใช้พื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุกล่าวว่า ผนังในจุดดังกล่าวเคยมีรอยร้าวมาแล้วก่อนหน้านี้ และเป็นจุดที่ 4 ที่พบรอยร้าวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บางจุดเคยมีน็อตยึดไว้ แต่ก็เริ่มเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะหลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อต้นปีที่ผ่านมาที่ห้อง M-20 ชั้น M  ภูวกร ธีระกาญจน์ วิศวกรโยธาปฏิบัติการ กองบริหารศูนย์รังสิต กล่าวว่าจุดที่ถล่มนั้นเป็นเพียงผนังตกแต่ง ไม่ใช่โครงสร้างหลักของอาคาร ตัวอิฐไม่ได้ยึดติดกับโครงสร้างโดยตรง แต่มีเหล็กและน้ำยาเจาะเสียบทำหน้าที่ยึดไว้ ซึ่งวัสดุดังกล่าวมีคุณสมบัติเหมือนกาวและมีแนวโน้มว่าเสื่อมสภาพจากความชื้นและอายุการใช้งาน ประกอบกับช่วงเกิดเหตุมีพายุฝนและลมแรง จึงอาจทำให้ผนังที่แยกชั้นจากโครงสร้างหลักนั้นร่วงลงมา  ภูวกรกล่าวว่า อาคาร SC3 เพิ่งตรวจรับเมื่อเดือนตุลาคม ...

News

1663 เสนอสปส. เพิ่มสวัสดิการหนุนหญิงท้อง

เขียน: ศิวะ พุ่มอรุณ และสุชานันท์ สหวงศ์เจริญ ภาพประกอบ: ฐิดาพร พิมพ์สีโคตร สายด่วน 1663 เสนอสปส. เพิ่มงบกว่า 6,000 ล้านบาท ชดเชยรายได้ช่วงตั้งครรภ์ให้ผู้ประกันตนม.33 พร้อมจ่าย ...

News

นักวิชาการรัฐศาสตร์มธ.ฟัน รธน.ใหม่อย่างต่ำ 2 ปี อาจสะดุดเสียงสว. ชี้ควรกำหนดคำถามประชามติให้ดี หากไม่อยากให้เป็นโมฆะ

เขียน: กวินทัต สวัสดิ์นพรัตน์ อาจารย์รัฐศาสตร์มธ. ชี้ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่อาจใช้เวลาจัดทำอย่างต่ำ 2 ปี แม้มีการเลือกตั้งสสร.โดยตรง เหตุเพราะอาจติดขัดในขั้นตอนของการเห็นชอบหลักการจากสว. แนะคำถามประชามติสำคัญ หากตั้งไม่ดี คนส่วนใหญ่ไม่ออกมาใช้สิทธิ ประชามตินั้นอาจกลายเป็นโมฆะ จากกรณีที่กลุ่ม ‘Con for All’ (กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ) ได้จัดกิจกรรม ‘ทวงคืนอำนาจประชาชน ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save