ArticlesLifestyleWritings

7 ตัวละคร 7 อุดมการณ์ ที่จะนำไปสู่ 1 ผลลัพธ์ ใน Arcane SS2

เรื่อง : สิทธิเดช สายพัทลุง

ภาพประกอบ : จุฑาภัทร ทิวทอง

Spoiler Alert : งานชิ้นนี้มีการสปอยล์เนื้อหาของ Arcane Season 1

‘อาร์เคน (Arcane)’ คือแอนิเมชันซีรีส์ที่ออกฉายเมื่อปีค.ศ. 2021 ด้วยฝีไม้ลายมือของทีมสร้างจากดินแดนน้ำหอมอย่าง ‘Fortiche’ โดยนำเนื้อเรื่องจากเกม ‘League of Legend’ มาดัดแปลงให้กลายเป็นแอนิเมชัน ซึ่งแน่นอนว่าได้รับการสนับสนุนจากเจ้าของผลงานเกมอย่าง ‘Riot Games’ 

เรื่องราวในซีรีส์พูดถึงเมืองสองเมืองที่มีความบาดหมางต่อกันซึ่งเกิดจากความไม่ลงรอยทางอำนาจและการถูกกดขี่ นำไปสู่ความขัดแย้งที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกคนภายในเมือง โดยจะดำเนินเรื่องด้วยตัวละครมากหน้าหลายตา แต่ตัวละครหลักๆ ที่สำคัญคงหนีไม่พ้นตัวละครหลักทั้ง 7 นั่นคือ เจสซ์ ทาลิส (Jayce Talis), วิคเตอร์ (Viktor), ไฮเมอร์ดิงเจอร์ (Heimerdinger), ซินจ์ (Singed), เคทลิน คิรัมแมน (Caitlyn Kiramman), วาย (Vi) และ จิงซ์ (Jinx) 

ทั้ง 7 คนมีพื้นเพต่างกัน นำไปสู่อุดมการณ์และเป้าหมายต่างกัน และนั่นคือตัวแปรที่จะนำพาเมืองทั้งสองนี้ไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่อาจเลี่ยงได้ วันนี้ Varasarn Press เลยอยากพาทุกคนมาย้อนดูเรื่องราวและความต้องการของตัวละครทั้ง 7 คน ก่อนเราจะกลับไปมันกันต่อใน Arcane Season 2 ที่กำลังจะออกฉายภายในอีกไม่กี่วันนี้

เมืองแห่งความก้าวหน้ากับนครแห่งเหล็กและแก้ว

แผ่นดิน ‘รูนเทอร์รา (Runeterra)’ ดินแดนที่มีความเหนือจินตนาการทั้งเวทมนตร์ ภูต วิญญาณ ไปจนถึงสิ่งมีชีวิตโบราณจากต่างมิติ ทั้งหมดล้วนกระจัดกระจายกันไปตามแต่ละเมืองและส่วนใหญ่แยกขาดจากกันทั้งหมด ยกเว้นสองเมืองที่แทบเรียกได้ว่าเป็นฟ้ากับเหวของกันและกันอย่าง ‘พิลท์โอเวอร์ (Piltover)’ และ ‘นครใต้พิภพ (Undercity)’

ภาพประกอบจาก : https://theriotmmo.com/resources/media/regions-of-runeterra/piltover-images/

Piltover มีอีกชื่อคือ ‘เมืองแห่งความก้าวหน้า (City of Progress)’ ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบกลางแผ่นดิน Runeterra ส่งผลให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองแห่งการค้าขายและเทคโนโลยีไปโดยปริยาย อีกทั้งเมืองนี้ยังขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์และเครื่องจักรกลต่างๆ หากให้เทียบกับโลกแห่งความเป็นจริงก็เปรียบเสมือนยุโรปในช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) โดยขับเคลื่อนเมืองด้วยระบบสภาสูงที่จะคัดคนหรือตระกูลที่มีอำนาจภายในเมืองมาเป็นผู้บริหาร

ภาพประกอบจาก :
https://theriotmmo.com/resources/media/regions-of-runeterra/zaun-images/#google_vignette

Undercity หรือ ‘นครแห่งเหล็กและแก้ว (City of Iron and Glass)’ คือเมืองที่อยู่ใต้ดินซึ่งอยู่ใต้ Piltover แบบพอดิบพอดี แต่ภาพลักษณ์ของเมืองช่างต่างจากข้างบนราวฟ้ากับนรก ไม่ว่าจะสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมจากผลกระทบของเมืองชั้นบน อาชญากรรมที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนน และการไร้ซึ่งปากเสียงใดๆ ของผู้คนเนื่องจากคนที่ตัดสินใจไม่ใช่คนจากนครใต้พิภพ แต่กลับเป็นเหล่าชนชั้นสูงจากเมืองข้างบนที่ไม่รับรู้ปัญหาต่างๆ ข้างใต้นี้ (หรืออาจจะรู้แต่ทำเป็นไม่สนใจมัน)

ความเหลื่อมล้ำที่ชัดเจนนำไปสู่ความต้องการอิสรภาพจนเกิดการปะทะกันในที่สุด โดยแกนนำของการปฏิวัติครั้งนี้คือ ‘แวนเดอร์ (Vander)’ และคู่หูของเขา ‘ซิลโก (Silco)’ ทั้งคู่มีความต้องการที่จะปลดแอกนครใต้พิภพให้หลุดพ้นจากอำนาจของเมืองชั้นบน และสถาปนาให้กลายเป็นเมืองใหม่ในชื่อของ ‘ซอน (Zaun)’

ทว่าการปะทะกันบนสะพานแห่งความก้าวหน้า (Bridge of Progress) ครั้งนั้นสร้างความสูญเสียให้กับผู้คนจากทั้งสองฝ่ายอย่างมหาศาล มันทำให้ Vander ตัดสินใจละทิ้งเส้นทางความรุนแรงและเลือกเส้นทางที่สันติกว่านี้ ต่างกับ Silco ผู้ยังคงเชื่อมั่นในการใช้ความรุนแรงจนนำไปสู่ความบาดหมางของทั้งสองคน และแตกหักกันในที่สุด

แวนเดอร์ (Vander)
ภาพประกอบจาก : https://www.mobachampion.com/arcane/vander/

Vander ที่เลือกทางสันติได้รับเลี้ยงเด็กกำพร้าจากการปะทะกันครั้งนั้นให้มาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันกับตน และร่วมเจรจาหาทางออกกับหนึ่งใน ‘ผู้ตรวจการ (Enforcer)’ เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองชั้นบน จนเกือบจะนำเรื่องการแยกเมืองนี้ขึ้นไปสู่สภาสูงได้สำเร็จ แต่ก็ดันถูกขัดขวางโดยอดีตเพื่อนรักอย่าง Silco เสียก่อน

ก้อนหินสีน้ำเงินปริศนา
ภาพประกอบจาก : https://www.mobachampion.com/arcane/jinx/

ในระหว่างที่เมืองชั้นล่างมีการต่อสู้กันเองของสองขั้วอำนาจ เหล่าเด็กที่ Vander รับมาเลี้ยงนั้นก็ได้แอบขึ้นไปเมืองชั้นบนเพื่อเข้าไปขโมยของ และได้พบกับก้อนหินสีน้ำเงินปริศนาที่น่าจะมีมูลค่าสูง แต่ในขณะที่กำลังออกมานั้นก็ได้มีก้อนหินลูกหนึ่งตกกระแทกลงสู่พื้น จนมันนำไปสู่การระเบิดตึกให้เป็นรูขนาดใหญ่

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดใน Arcane

Jayce Talis เด็กหนุ่มแห่งความก้าวหน้า
ผู้ผันตัวไปเป็นนักการเมือง

ภาพประกอบจาก : https://www.leagueoflegends.com/th-th/champions/jayce/

‘เจสซ์ ทาลิส (Jayce Talis)’ เป็นเด็กหนุ่มจาก Piltover และเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยประจำเมือง เขามีความสามารถในการสร้างสิ่งประดิษฐ์จักรกลต่างๆ จนเป็นที่น่าจับตามอง 

ในขณะเดียวกัน เขานั้นก็หมกมุ่นอยู่ในสิ่งต้องห้ามของเมืองอย่าง ‘เวทมนตร์ (Arcane)’ และได้แอบทำการทดลองอย่างลับๆ ภายในห้องของตน

จนกระทั่งห้องของเขาถูก ‘โจร’ เข้ามาขโมยของและทำให้ห้องทดลองระเบิด ส่งผลให้การทดลองเวทมนตร์ของเขาไปถึงหูของศาสตราจารย์ ‘ไฮเมอร์ดิงเจอร์ (Heimerdinger)’ อาจารย์ผู้เป็นเผ่าพันธุ์พิเศษและหนึ่งในสมาชิกสภาของเมือง และนำไปสู่การสั่งทำลายสิ่งของทั้งหมดที่ Jayce สร้างขึ้นมา พร้อมกับเตรียมไล่เขาออกจากการเป็นนักศึกษา

Jayce ที่หมดหนทางกำลังจะจบชีวิตของตัวเองภายในห้องทดลองของเขา แต่ก็ถูกขัดขวางโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ‘วิคเตอร์ (Viktor)’ เสียก่อน ทำให้ทั้งสองกลายมาเป็นคู่หูกันและร่วมกันปรับแต่งก้อนหินสีน้ำเงินให้เสถียรมากขึ้น โดยหวังว่าสิ่งประดิษฐ์นี้จะทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น 

Jayce และ Viktor ตอนที่สร้าง ‘เฮ็กซ์เทค’ (Hextech) สำเร็จ
ภาพประกอบจาก : https://aniblogtracker.com/post.php?id=51514

จนได้ ‘เฮ็กซ์เทค (Hextech)’ เม็ดแหล่งพลังงานขนาดจิ๋วที่จะทำให้เมือง Piltover ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการค้นพบครั้งนี้ ส่งผลให้ Jayce ไม่ถูกขับไล่ อีกทั้งยังกลายเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงและสมาชิกสภาของเมืองแห่งความก้าวหน้าไปโดยปริยาย

Jayce ที่ต้องถือทั้งบทนักวิทยาศาสตร์และนักการเมือง ขณะเดียวกันเหตุการณ์การปะทะกับเมืองชั้นล่างที่เริ่มรุนแรงมากขึ้น ทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายตัวเองและนำ Hextech ไปสร้างอาวุธเพื่อต่อกรกับการปะทะกันครั้งนี้ ส่งผลให้เขากับ Viktor เกิดปากเสียงกันในที่สุด

“เราเป็นนักวิทยาศาสตร์ไม่ใช่ทหาร”

“แต่พวกเรามีความรู้ที่จะเอามาใช้เพื่อปกป้องตัวเองนะ”

“เราตกลงกันแล้วว่าจะสร้าง Hextech ขึ้นมาเพื่อ ‘พัฒนา’ ชีวิต ไม่ใช่เอามันไปคร่าชีวิตใคร”

“พวกเราอาจไม่เหลือทางเลือกแล้วก็ได้”

“มันมีทางเลือกอยู่เสมอนั่นแหละ”

บทสนทนาระหว่าง Jayce และ Viktor ในห้องทดลองก่อนที่จะตัดสินใจสร้างอาวุธขึ้นมา

อุดมการณ์ของ Jayce ที่มีต่อวิทยาศาสตร์และเวทมนตร์นั้นแปรเปลี่ยนไปตามหน้าที่และบทบาทของเขา จากเด็กหนุ่มนักประดิษฐ์ผู้ต้องการสร้างสิ่งที่จะเปลี่ยนโลกไปในทางที่ดี กลับต้องนำมันมาใช้เพื่อการสงครามแทนเสียอย่างนั้น

เราคงต้องมารอดูกันต่อไปว่า Jayce จะเดินไปในทิศทางไหนในอนาคตกันแน่…

Viktor เด็กหนุ่มผู้มีฝันไกล
แต่ชีวิตกลับสั้นเกินไปที่จะเอื้อมถึงฝัน

ภาพประกอบจาก :
https://esports.gg/news/league-of-legends/how-arcane-made-riot-rework-viktor-in-league-of-legends/

หาก Jayce คือตัวแทนของแสงสว่างที่ชักนำเมือง Piltover ไปสู่ทิศทางใหม่ Viktor ก็เป็นเหมือนเงาที่ทำให้อีกคนเจิดจรัสได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

‘วิคเตอร์ (Viktor)’ เป็นเด็กจากนครใต้พิภพต่างจากคู่หูของเขา โดยเขาได้ไต่เต้าขึ้นมาจนกลายเป็นนักเรียนทุนแห่งมหาวิทยาลัยประจำเมือง ก่อนที่จะฉายแววการเป็นนักวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์จนได้กลายเป็นผู้ช่วยของศาสตราจารย์ Heimerdinger ในที่สุด

ภาพประกอบจาก :
https://esports.gg/news/league-of-legends/how-arcane-made-riot-rework-viktor-in-league-of-legends/

ปมปัญหาของ Viktor นั้นคืออายุขัยของเขา เขามีภาวะเดินเหินลำบากและต้องใช้ไม่เท้าค้ำช่วยมาตั้งแต่เด็ก แต่ยิ่งโตขึ้น อาการป่วยนี้ก็ยิ่งกัดกินตัวเขาจากภายในมากยิ่งขึ้น และความหวังเดียวของเขาที่จะรักษาสิ่งเหล่านี้ก็คือ Hextech

ด้วยสภาวะความขัดแย้งและสงครามที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงการหายไปของ Hextech และการก่อจราจลด้วยฝีมือของเด็กสาวผมฟ้า ‘จิงซ์ (Jinx)’ ทำให้การวิจัย Hextech ทั้งหมดต้องหยุดชะงักลง Viktor จึงทำการวิจัยต่อโดยที่ไม่ขอความช่วยเหลือจากคู่หูของเขา ที่ตอนนี้กำลังหมกมุ่นอยู่กับการเมืองจนลืมจุดประสงค์แรกเริ่มของทั้งคู่ไป

ภาพประกอบจาก : https://shipping.fandom.com/wiki/JayVik

เขาได้สร้างสิ่งที่เรียกว่าเฮ็กซ์คอร์ (Hex Core) ขึ้นมาได้สำเร็จ แต่มันยังไม่เสถียรมากพอที่จะเอามาใช้กับตัวของเขาเอง เขาจึงได้ไปขอความช่วยเหลือจากซินจ์ (Singed) ที่นครใต้พิภพ ก่อนที่จะมามีปากเสียงกับ Jayce เนื่องจากตอนนี้มีคำสั่งปิดกั้นพื้นที่ระหว่างเมืองทั้งสองอยู่

 “นายเป็นคนสั่งให้ทำแบบนี้เหรอ? ทำไม?”

“พวกคนข้างล่างนั่นพยายามจะทำลายพวกเรา
แล้วนายเล่าลงไปทำอะไรข้างล่าง”

“ฉันก็ลงไปถามเพื่อนเกี่ยวกับความลังเลของพวกเรา
ฉันบอกแล้วไงว่าฉันรู้จักคนที่จะช่วยเราได้”

“แต่นายไม่ได้บอกนี่ว่าเขาเป็นคนจากเมืองชั้นล่าง”

“แล้วมันต่างกันตรงไหน”

“เพราะพวกเขามันเป็นตัวอันตราย!!”

“…ฉันก็เป็นคนของเมืองชั้นล่างเหมือนกัน”

บทสนทนาระหว่าง Jayce กับ Viktor ที่แสดงถึงความแตกหักภายในใจของความต่างเรื่องพื้นเพของทั้งสอง

ภาพประกอบจาก :
https://elsannej.tumblr.com/post/672209376131612672/and-how-they-used-camera-angles-to-showcase

ความบาดหมางนั้นทำให้ทั้งคู่ออกห่างจากกันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่สุดท้าย Viktor ก็ได้สร้าง Hex Core และนำมาใช้กับตัวเองได้สำเร็จ จนเขามีร่างกายที่ไม่ต่างอะไรกับคนทั่วไป… หรืออาจจะเป็นร่างกายที่แข็งแกร่งกว่านั้น

ด้วยข้อจำกัดของร่างกาย อุดมการณ์ที่แข็งแรงที่สุดของ Viktor จึงเป็นเรื่อง ‘ชีวิตที่ดี’ เขาหมกมุ่นอยู่กับการสร้างสิ่งที่จะทำให้การใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น ทั้งแขนกลสำหรับงานประดิษฐ์ ถุงมือเหล็กสำหรับงานเหมือง (ที่สุดท้ายก็ถูกเปลี่ยนไปเป็นอาวุธด้วยฝีมือของ Jayce) รวมไปถึง Hex Core ที่ทำให้เขากลายเป็นคนปกติได้

และตอนนี้อุดมการณ์นั้นยังคงไม่สั่นคลอนแม้แต่น้อย

Heimerdinger เมื่อความอมตะที่ไม่ต้องการ
กลายเป็นโซ่ตรวนที่ทำให้ก้าวเดินช้าเกินไป

ภาพประกอบจาก : https://www.pinterest.com/pin/815010863824656840/

‘ศาสตราจารย์ไฮเมอร์ดิงเจอร์ (Heimerdinger)’ เป็นสิ่งมีชีวิตพิเศษที่เรียกกันว่าโยเดิล (Yordle) คือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กรูปร่างคล้ายสัตว์ ส่วนใหญ่จะอยู่ในป่าและมีอายุขัยสูงถึง 300 ปีเป็นอย่างต่ำ โดยในเนื้อเรื่องของ Arcane ตัว Heimerdinger ก็มีอายุเข้าเลข 307 เข้าไปแล้ว

ด้วยอายุที่มากกว่า 300 ปี มันทำให้ตัวเขานั้นรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกมาอย่างยาวนานและเข้มข้น โดยเฉพาะความอันตรายของเวทมนตร์ (Arcane) สิ่งที่สามารถทำลายเมืองให้ล่มสลายได้ภายในเวลาไม่นาน ทำให้ตัวเขานั้นคัดค้านเรื่องการทดลองของ Jayce ที่จะสร้างเวทมนตร์ขึ้นมา

ภาพประกอบจาก : https://www.mobachampion.com/arcane/viktor/

ทว่าด้วยความสำเร็จของทั้ง Jayce และ Viktor มันทำให้เขาไม่มีทางเลือกที่จะยอมรับว่าทั้งสองสามารถทำให้ Hextech เกิดขึ้นได้ แต่เพื่อความปลอดภัย เขาก็ได้เสนอแก่ทั้งสองว่าสิ่งนี้จำเป็นจะต้องมีการวิจัยเพื่อความปลอดภัยอย่างน้อยก็อีกประมาณ 10 ปี ซึ่งสำหรับ Jayce อาจไม่เท่าไร แต่สำหรับ Viktor เขาไม่มีทางอยู่ถึงวันนั้นแน่นอน

“ยังไงก็ตามแต่ นี่คือการนำเสนอของพวกเราครับ”

“มันน่าอัศจรรย์ใจจริงๆ พวกนายคงจะภูมิใจกับมันมากแน่ๆ แต่มันยังคงมีอีกหลายจุดที่ต้องแก้ไข แต่การวิจัยแบบค่อยเป็นค่อยไปสักทศวรรษนึงคงทำให้มันพร้อมใช้งานมากขึ้นแน่นอน”

“ทศวรรษนึงเหรอครับ?”

“ไม่ต้องห่วงไปเด็กน้อย เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเหมือนกับการกะพริบตานั่นแหละ”

“ด้วยความเคารพครับศาสตราจารย์ เราสามารถที่จะพัฒนาชีวิตคนด้วย Hextech ได้ตั้งแต่ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ”

“อะไรแบบนี้มันต้องใช้เวลานะ Viktor การเอาพลังระดับนี้ไปใส่ในมือทุกคนมันอันตรายเกินไป ทำต่อไปนั่นแหละ
เพราะฉันมั่นใจว่าเราจะหาทางติดตั้งระบบความปลอดภัยเพื่อกันการใช้งานแบบไม่ถูกต้องได้แน่นอน”

บทสนทนาที่ทำให้เห็นว่า Heimerdinger นั้นให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากขนาดไหน
รวมถึงปัญหาเรื่องการมองระยะเวลาด้วย

แม้เขาจะมีปัญหาเรื่องการมองระยะเวลาที่ต่างกันระหว่างสิ่งมีชีวิตพิเศษแบบเขากับมนุษย์ธรรมดาอย่าง Viktor แต่ Heimerdinger ก็ยังคงรู้สึกเสียใจทุกครั้งที่มีคนใกล้ตัวของเขาจากไป โดยเฉพาะเหล่านักเรียนในการดูแลของเขา

Heimerdinger คุยกับ Viktor เรื่องชีวิตที่กำลังจะจบลงของเขา
ภาพประกอบจาก : https://www.reddit.com/r/arcane/comments/1dgft3a/s1_spoilers_did_jacye_and_victor_see_heimerdinger/

นายควรจะภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองสร้างมาตลอดนะ Viktor”

“สิ่งที่ผมร่วมสร้างมามันก็คงอยู่ได้ไม่นานหรอกครับ 

แม้กระทั่งในความทรงจำของคุณ”

“ฉันเห็นนักเรียนมาหลายคน… เป็นความจริงแสนเศร้าที่คนฉายแสงเจิดจ้าจะมอดไหม้อย่างรวดเร็ว”

ในทางกลับกัน ในช่วงที่ Viktor สร้าง Hex Core ขึ้นมาเพื่อหวังว่าจะใช้มันรักษาชีวิตของเขา Heimerdinger กลับเข้าไปคัดค้านแบบหัวชนฝามากกว่าครั้งไหนๆ เพราะสิ่งที่ Viktor กำลังสร้างขึ้นมานั้นมันอันตรายเกินไป และควรถูกทำลายทิ้งในทันที

สุดท้ายตัว Heimerdinger ก็ถูกเล่นแง่ทางการเมืองและต้องออกจากการเป็นสมาชิกสภาในที่สุด แต่การผจญภัยของเขายังไม่จบ เพราะในระหว่างที่เขากำลังเดินทางร่อนเร่อยู่นั้น เขาก็ได้พบกับนักประดิษฐ์จากเมืองชั้นล่างคนใหม่ ที่อาจนำแสงสว่างและการตระหนักรู้เรื่องของเวลามาสู่เขาได้อีกครั้งอย่าง เอคโค (Ekko)

Heimerdinger ที่เดินทางจนมาพบเข้ากับ Ekko
ภาพประกอบจาก : https://www.youtube.com/watch?v=mU47hHJnq8Y

ด้วยชีวิตที่ยืนยาวเกินไปและความเฉยชาจากการตายด้วยความแก่ Heimerdinger จึงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง เขาใช้เวลาไปกับการพัฒนาทุกสิ่งอย่างให้อยู่ในจุดที่จะ ‘ไม่มีความผิดพลาด’ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรืออะไรเกิดขึ้น แต่วิธีนี้ใช้ไม่ได้กับมนุษย์ธรรมดาที่ไม่สามารถคงอยู่ได้นานขนาดนั้น

สุดท้าย Heimerdinger จะเข้าใจความแตกต่างนี้ และปลดโซ่ตรวนของตัวเองได้หรือไม่…

Singed เพื่อความอมตะที่ใฝ่หา
แม้จะต้องแลกทุกอย่างก็พร้อมที่จะทำ

ภาพประกอบจาก : https://gillesroman.artstation.com/projects/KOrG1G

หาก Heimerdinger คือผู้ที่เกิดมาพร้อมความอมตะซึ่งเขาไม่ต้องการ Singed ก็คือคนที่ต้องพยายามเพื่อไขว่คว้าความอมตะนั้นมาให้ได้ แม้ว่าจะต้องแลกด้วยทุกอย่างก็ตาม

‘ซินจ์ (Singed)’ เคยเป็นผู้ช่วยของศาสตราจารย์ Heimerdinger ก่อนจะแยกทางเพื่อมาทำการวิจัยด้วยตัวเอง ด้วยความร่วมมือระหว่างเขากับ Silco ทั้งสองก็ได้สร้างสารที่จะทำให้สิ่งมีชีวิตชีวภาพต่างๆ กลายพันธุ์ขึ้นมาได้สำเร็จซึ่งมีชื่อว่า ‘ชิมเมอร์ (Shimmer)’

ภาพประกอบจาก : https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=MOmNWcPayE0

Shimmer คือสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน สามารถใช้งานได้หลากหลายโดยหากใช้ในปริมาณน้อย มันก็คือยาเสพติดชั้นดีซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มประชากรเมืองชั้นล่าง

นอกจากใช้ในฐานะยาเสพติดแล้ว มันยังคงสามารถใช้ในฐานะของยารักษาอาการบาดเจ็บรุนแรงถึงชีวิตได้ แต่หากถูกใช้งานในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้ผู้ใช้งานกลายพันธ์ุและสูญเสียสติสัมปชัญญะไปในที่สุด

ภาพประกอบจาก : https://esportspro.games/arcane-theories-shimmer/

ถึงแม้ Singed จะทำงานร่วมกับ Silco แต่เขาก็ยังมีงานวิจัยส่วนตัวกับสัตว์เลี้ยงของเขา ‘ริโอ (Rio)’ สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่ถูกสร้างขึ้นมา ในระหว่างนั้นเอง Singed ก็ได้พบและทำความรู้จักกับ Viktor ในวัยเด็ก

ด้วยสภาพร่างกายที่อ่อนแอของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ เขาจึงจำเป็นต้องต่อท่อเพื่อนำสาร Shimmer เข้าตัว Rio อยู่ตลอดเวลา ทำให้ Viktor ที่ทนเห็นสภาพนั้นไม่ไหวเลือกที่จะแยกทางกับ Singed ในที่สุด

“Rio จะมีชีวิตอยู่ต่อไป”

“นี่คุณทำสิ่งนี้เหรอ?”

“ฉันคิดว่านายจะเข้าใจเสียอีก …
…สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์จะ ‘ต้อง’ มีชีวิตอยู่ต่อไป”

บทสนทนาระหว่าง Viktor กับ Singed ถึงสภาพที่ไม่น่าดูของ Rio ก่อนที่ Viktor จะวิ่งหนีออกจากห้องทดลองไป

หลังจากนั้น ในระหว่างที่เขากำลังวิจัย Shimmer ในห้องทดลองของ Silco ก็ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่าง Silco และ Vander ภายนอกห้อง ทำให้เขาได้รับลูกหลงและส่งผลให้งานทดลองทั้งหมดถูกทำลายลง รวมถึงใบหน้าของเขาด้วย

Singed ที่รอดตายจากการระเบิดครั้งนั้นมาได้ จึงกลับมาทำงานวิจัยที่ห้องทดลองของตัวเองอีกครั้ง พร้อมกับดูแล Rio ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตแบบปกติได้อีกต่อไป แต่ในระหว่างที่เขาทำงานอยู่ Viktor ก็ได้กลับมาหาเขาอีกครั้งเพื่อขอความช่วยเหลือ

ภาพประกอบจาก : https://x.com/singedhang/status/1461970464306249729

“นั่นคือ Shimmer?”

“นี่คือสารทดลองตัวใหม่ มันจะทำให้สามารถรอดพ้น
จากการกลายพันธ์ุที่อันตรายได้”

“สิ่งนั้นใช้งานกับพืชได้มั้ย”

“นายไม่ได้มาที่นี่เพื่อพืชอยู่แล้วนี่ ใช่มั้ย?
ฉันดูออกนะ ภาพของคนที่กำลังจะตาย…
แต่ฉันคงต้องเตือนนายไว้หน่อย ถ้านายเลือกทางนี้ พวกเขาจะดูถูกนาย แต่เรายอมแลกทุกอย่างเพื่อความก้าวหน้าอยู่แล้วนี่
นั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงแยกทางกับ Heimer”

“Jayce จะต้องเข้าใจผมแน่”

“ก็อาจจะ”

บทสนทนาระหว่าง Viktor กับ Singed ก่อนที่ Viktor จะนำ Shimmer ไปใช้ในการสร้าง Hex Core ต่อในอนาคต

หลังจากนั้น Singed ก็ยังคงมีบทบาทอีกเล็กน้อยในการช่วยเหลือชีวิต ‘จิงซ์ (Jinx)’ เด็กสาวที่ Silco รับมาเลี้ยงและเปรียบดั่งลูกสาวของเขา ให้รอดพ้นจากอันตรายด้วยการฉีด Shimmer ตัวทดลองเข้าไปในตัวเธอ แต่มันก็ต้องแลกมากับสภาพจิตใจของ Jinx ที่ไม่คงที่ยิ่งกว่าเดิม

ภาพประกอบจาก : https://www.youtube.com/watch?v=-YQpas9P6xU

“ก่อนที่ฉันจะเริ่ม ฉันอยากจะทราบนิดหน่อย ว่านายพร้อมมั้ยที่จะเสียเธอ”

“เธอจะไม่ตายแน่หมอ เธอจะตายไม่ได้”

“ฉันเข้าใจนะ แต่นี่ก็เพื่อการคงสติของนายไว้…
เพราะฉันก็เคยมีลูกสาวเหมือนกัน”

บทสนทนาระหว่าง Singed กับ Silco ก่อนที่จะเริ่มฉีด Shimmer ให้กับ Jinx
ทำให้เรารู้ว่า Singed นั้นก็เคยมีลูกสาวเช่นเดียวกัน

จากเรื่องราวทั้งหมดใน Season 1 ทำให้เรารู้ว่าอุดมการณ์ของ Singed นั้นก็คือการตามหาความอมตะให้กับสิ่งมีชีวิต เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อมองหาทางรอดให้กับทุกสรรพสิ่ง แม้นั่นจะต้องแลกกับการทดลองสัตว์เลี้ยงแสนรักของเขาก็ตาม

ภาพประกอบจาก : https://www.reddit.com/r/loreofleague/comments/ 17a601x/singed_in_arcane_not_only_is_more_stable_than_his/

เหตุผลหลักก็คงหนีไม่พ้น ‘ลูกสาว’ ของเขาที่ตอนนี้ยังคงไม่ทราบชะตากรรมว่าเป็นอย่างไร เธอจะตายไปแล้ว หรืออยู่ในหลอดทดลองสักอันของ Singed และรอเวลาที่จะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง

และจนกว่าจะถึงตอนนั้น Singed จะหา Shimmer ที่พร้อมใช้กับลูกสาวของเขาได้หรือไม่…

Caitlyn Kiramman ผู้ผดุงความยุติธรรม
ที่เริ่มไม่เชื่อในความยุติธรรมของเมืองตัวเอง

ภาพประกอบจาก : https://nami.fish/skins/51028

‘เคทลิน คิรัมแมน (Caitlyn Kiramman)’ เป็นเด็กสาวที่เกิดมาในครอบครัวที่แทบจะเรียกได้ว่าร่ำรวยที่สุดของเมือง Piltover ด้วยการเลี้ยงดูแบบประคบประหงมเกินไปจากครอบครัว ทำให้เธอกังขาในความสำเร็จของตัวเองว่าเป็นเพราะความสามารถของเธอหรือเพราะความเงินหนาของครอบครัวเธอกันแน่

ภาพประกอบจาก : https://youtube.com/watch?v=KaV0mIeiBXc

“ครอบครัวหนูจ่ายคุณเพื่อให้หนูชนะรึเปล่า?”

“รางวัลเป็นของเธอสาวน้อย เธอเหมาะสมกับมัน”

“คุณยังไม่ตอบคำถามหนูเลย”

“ไม่ ครอบครัวเธอไม่ได้จ่ายฉัน ฉันแค่คิดว่าเธอเหมาะสมกับรางวัลนั่น
ฉันเป็นผู้ตรวจการ การที่ฉันถืออารุธนี้เพื่อปกป้องคนอื่น
นั่นก็เป็นถ้วยรางวัลสำหรับฉันแล้ว
แล้วเธอล่ะเจ้าหนู Kiramman เธอยิงปืนนั่นเพื่ออะไร?”

บทสนทนาระหว่าง Caitlyn และ ‘Grayson’ ผู้ตรวจการ ที่แข่งยิงปืนกับเธอ

จากการแข่งยิงปืนในครั้งนั้น ทำให้ Caitlyn เลือกที่จะเป็น ผู้ตรวจการ เพื่อพยายามยืนด้วยขาของตัวเองโดยไม่พึ่งครอบครัว แต่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ก็ยังไม่วายถูกคนในหน่วยเหยียดหยาม

“มาทำอะไรที่นี่ Kiramman? 

ไม่ใช่ว่ามีงานเลี้ยงค็อกเทลต้องไปหรอกเหรอ?”

หนึ่งในคำพูดประชดของเพื่อนร่วมงานที่พูดกับ Caitlyn

ทว่าเธอก็ยังคงพยายามทำหน้าที่ของเธออย่างเต็มที่ และเมื่อ Hextech ถูก Jinx ขโมยไป มันทำให้เธอได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ไปเอาคืนมา พร้อมกับจับกุมตัว Jinx มารับโทษ แต่ก่อนที่จะไป เธอต้องไปหาคนที่ชำนาญเกี่ยวกับเมืองชั้นล่างมาร่วมงานด้วย นั่นคือนักโทษ ‘ไวโอเล็ต (Violet)’ หรือ ‘วาย (Vi)’

ภาพประกอบจาก : https://www.oneesports.gg/anime/arcane-season-2-war-sex/

“มันต้องเป็นโลกแบบไหนกัน ฉันถึงต้องเชื่อใจคนแบบเธอเนี่ย?”

“คนแบบฉันเหรอ? Enforcer มันก็เหมือนกันหมด มันก็แค่ไอ้พวกอาชญากรที่ใส่เครื่องแบบเท่านั้นแหละ รู้อะไรมั้ย เธอไปหา Silco ด้วยตัวเองเถอะไป”

“ฉันทำแน่ ขอบคุณ”

“หึ เธอโดนเมืองชั้นล่างกินทั้งเป็นแน่”

บทสนทนาแรกระหว่าง Caitlyn และ Vi
ก่อนที่ทั้งคู่จะกลายเป็นคู่หู (และคู่รัก) กันในที่สุด

จากการร่วมเดินทางกันระหว่าง Caitlyn และ Vi ทำให้ตัวเธอเริ่มที่เปิดใจและเข้าใจคนจากเมืองชั้นล่างมากขึ้น เธอจึงได้รับรู้สิ่งที่แตกต่างจากการสั่งสอนของพ่อแม่ รวมถึงคำบอกกล่าวจากคนชั้นบน

แต่การเดินทางครั้งนี้ก็นำไปสู่โศกนาฏกรรมและการเสียชีวิตของ Silco จนได้ ทำให้ Jinx สูญสิ้นสติจนนำ Hextech ที่ขโมยมายิงไปที่ตึกรัฐสภาของ Piltover ในขณะที่สมาชิกสภาทั้งพ่อแม่ของ Caitlyn รวมถึง Jayce ที่กำลังหารือเรื่องการแบ่งแยกเมืองกันอยู่ จนส่งผลให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้น

ภาพประกอบจาก : https://www.mobachampion.com/arcane/caitlyn/

อุดมการณ์ของ Caitlyn นั้นคือการเชื่อในความยุติธรรมแบบหัวชนฝา แต่มันกลับเป็นเพียงสิ่งที่ถูกสอนมาเพียงด้านเดียวเท่านั้น เพราะเมื่อยิ่งถลำลึกลงไปในชีวิตผู้คนมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งไม่แน่ใจและตั้งคำถามกับ ‘ความยุติธรรม’ นั่นมากขึ้นเรื่อยๆ

สุดท้ายเธอจะสามารถหาคำตอบได้หรือไม่ว่าปืนไรเฟิลที่อยู่ภายในมือนั้น เธอยิงมันด้วยเหตุผลอะไรกันแน่…

Violet เด็กสาวจากเมืองชั้นล่างที่ต้องมาตามจับน้องสาวของตัวเอง

ภาพประกอบจาก : https://medium.com/@phynickz/arcane-review-iv-5-times-vi-was-a-basic-character-and-5-times-she-wasnt-bdce1f283234

‘ไวโอเล็ท (Violet)’ หรือ ‘วาย (Vi)’ คือหนึ่งในเด็กกำพร้าที่ถูกรับเลี้ยงโดย Vander จากการสูญเสียพ่อแม่ไปในเหตุการณ์การปะทะกันบนสะพานแห่งความก้าวหน้าเมื่อครั้งที่เธอยังเด็ก

Vi เป็นคนที่ฝึกฝนการชกต่อยตั้งแต่เด็ก ด้วยอุปนิสัยที่ห่ามและไม่กลัวสิ่งใด ทำให้เธอเป็นคนที่มักจะชักนำเพื่อนๆ ไปทำอะไรที่ไม่ควรทำ อย่างการบุกขึ้นไปเมืองชั้นบนเพื่อ ‘ขโมย’ ของมาขายจนเกิดการระเบิดขึ้น

ภาพประกอบจาก :
https://www.looper.com/1133163/arcane-fans-have-a-rather-dark-theory-about-powders-history-with-vi/

“ฉันจะไป พวกนายจะไปกันฉันมั้ย?”

“Vander เอาพวกเราตายแน่”

“ใช่ ถ้าเราทำแผนพังนะ เพราะงั้น… อย่าทำแผนพังก็พอ”

บทสนทนาระหว่าง Vi กับเพื่อนๆ ของเธอ ก่อนที่จะเริ่มเข้าไปขโมยของในห้องทดลองของ Jayce

จากการระเบิดครั้งนั้นทำให้พวกเธอถูกตามจับโดยผู้ตรวจการจนมาถึงเมืองชั้นล่าง แต่ด้วยการปกป้องจาก Vander ทำให้เขาถูกจับไปแทน Vi ทว่าในระหว่างที่ผู้ตรวจการจับกุมตัว Vander เขาก็ถูกลักพาตัวไปอีกทอดนึงซึ่งเป็นแผนการแผนการของ Silco

เหตุการณ์ปะทะกันครั้งสุดท้ายระหว่างพวกของ Silco และกลุ่มของ Vi ที่ต้องการจะช่วย Vander ออกมา กลับไม่เป็นไปตามที่วางไว้เนื่องจาก ‘พาวเดอร์ (Powder)’ ผู้เป็นน้องสาวของ Vi ได้แอบตามมาและทำแผนทั้งหมดพัง ส่งผลให้ Vander จำเป็นจะต้องกิน Shimmer เข้าไปจนกลายพันธ์ุและกลายเป็นคนที่ช่วยเหลือพวกเธอแทน

ภาพประกอบจาก : https://www.reddit.com/r/arcane/comments/qwehru/was_vi_hitting_powder_before_act_1_the_enemy/

Vi ที่ได้สติหลังจากการต่อสู้จบลงได้วิ่งไปต่อว่า Powder ที่กำลังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากเธอไม่ต้องการให้ Powder เข้ามาเสี่ยงอันตรายเช่นนี้ อีกทั้งการกระทำของ Powder ทำให้เพื่อนๆ ในกลุ่มของทั้งสองคน รวมถึงพ่อบุญธรรมอย่าง Vander ต้องตายจากไป

“Vi มันได้ผล ระเบิดลิงที่หนูสร้างมันได้ผล”

“นี่เธอเป็นคนทำมันเหรอ? ทำไมถึงทำแบบนั้น?”

“…หนูแค่อยากจะช่วยพวกพี่”

“ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าให้เธออยู่ให้ห่างจากที่นี่!”

“แล้วพี่ทิ้งหนูไว้ทำไม!”

“ก็เพราะเธอมันเป็นตัวซวย (Jinx) ไง ได้ยินไหม เธอมันตัวซวย!”

บทสนทนาสุดท้ายก่อนที่ Vi และ Powder จะไม่ได้เจอหน้ากันอีกเกือบ 7 ปี

Vi ยังคงรู้สึกผิดกับการตัดขาดความเป็นพี่น้องกับ Jinx แต่เธอได้ถูกหนึ่งในผู้ตรวจการจับตัวมาและนำมาขังคุกในเมืองชั้นบนไว้เป็นเวลากว่า 7 ปี หลังจากนั้นเธอจึงถูกปล่อยตัวออกมาเพื่อให้มาเป็นคู่หูในการสืบคดีของ Caitlyn โดยคนที่เธอจะต้องไปตามจับมาก็คือ Silco และน้องสาวของเธอที่ไม่ใช่ ‘Powder’ อีกต่อไป เพราะตอนนี้เธอกลายเป็น ‘Jinx’ ไปแล้ว

ภาพประกอบจาก : https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=__ip9p0XWZs

นอกจากการเป็นคู่หูของ Caitlyn แล้ว เธอยังต้องร่วมมือกับ Jayce ในการใช้ถุงมือแอตลาส (Atlas Gauntlets) อาวุธที่สร้างจาก Hextech มากำราบพวกของ Silco ซึ่งกำลังวางแผนจะบุกทำลาย Piltover จนถุงมือนั้นกลายเป็นอาวุธประจำตัวของเธอ

อุดมการณ์ของ Vi นั้นคือไม่มีสิ่งใดสำคัญไปมากกว่าครอบครัว แม้เธอจะโกรธที่ Powder ทำให้คนอื่นๆ ต้องตายจากการระเบิด แต่เธอก็ยังต้องการที่จะกลับไปเป็นครอบครัวเดียวกับ Powder อีกครั้งอยู่ดี เพราะ Vi ยังเชื่อว่า Powder นั้นยังอยู่ภายในตัวของ Jinx และเธอสามารถที่จะเปลี่ยนน้องสาวสุดที่รักของเธอให้กลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้งได้

ภาพประกอบจาก :
https://lady-griffin.tumblr.com/post/674222722452209664/hi-can-you-tell-me-what-vis-arc-and-what-is-the

ทว่าจากการปะทะกันครั้งสุดท้าย ระหว่าง Vi, Caitlyn, Jinx, และ Silco มันอาจจะเป็นการตอกฝาโลงไปแล้วว่าน้องสาวสุดที่รักของเธอ บัดนี้ได้กลายเป็นตัวซวยอย่างที่เธอเคยด่าเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

Jinx เด็กสาวเสียสติ ผู้ได้รับผลจากความขัดแย้งมากที่สุด

ภาพประกอบจาก : https://www.cinemablend.com/streaming-news/arcane-why-jinx-is-one-of-the-best-written-villains-on-tv-right-now

‘จิงซ์ (Jinx)’ หรือ ‘พาวเดอร์ (Powder)’ คือหนึ่งในเด็กกำพร้าที่ Vander รับเลี้ยงและเป็นน้องสาวแท้ๆ ของ Vi เธอมีความสามารถและพรสวรรค์ในการสร้างสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ตั้งแต่ยังเด็ก แต่ด้วยอายุที่น้อยกว่าคนอื่นๆ ทำให้ความสามารถของเธอไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร

เธอได้เข้าร่วมกับพี่ๆ ของเธอในการเข้าไปขโมยของในห้องทดลองของ Jayce แต่ด้วยความประมาทและซุกซนของเธอ ส่งผลให้ก้อนหินสีน้ำเงินซึ่งเป็น Hextech ที่ยังไม่สมบูรณ์ซึ่งอยู่ในห้องนั้นตกลงสู่พื้นและเกิดระเบิดขึ้น

ในเหตุการณ์ที่ Vander ถูก Silco ลักพาตัวไปนั้น Powder ถูก Vi สั่งให้อยู่ภายในห้องและห้ามตามพวกเขาไปเพื่อความปลอดภัย แต่ความรู้สึกผิดของเธอที่เป็นคนทำให้ Vander ถูกจับ เธอจึงฝ่าฝืนคำสั่งและตามไปช่วยเหลือทุกคน

Powder ได้นำ Hextech ตัวทดลองที่ขโมยมาได้บางส่วนใส่ลงไปในระเบิดลิงของเล่นที่เธอสร้างขึ้นมา และโยนเข้าไปในโกดังที่ทุกคนต่อสู้กันอยู่ โดยหวังว่ามันจะช่วยเหลือพี่ๆ ของเธอให้รอดออกมาได้

ภาพประกอบจาก : https://www.pinterest.com/pin/arcane–425027283594268930/

แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น เมื่อแรงระเบิดทำให้แผนทั้งหมดพังลง พี่สองคนถูกแรงระเบิดอัดกระแทกจนเสียชีวิต Vi ได้รับแรงระเบิดและกระเด็นไปชนเสาบริเวณนั้นทับจนขยับตัวไม่ได้ ทำให้ Vander ต้องยอมกลายพันธ์ุเพื่อมาแก้ไขปัญหาทั้งหมด ก่อนที่เขาจะกระโดดพา Vi ออกมา

Powder ถูกด่าทอจาก Vi พร้อมกับถูกตบหน้า เธอที่ยังคงเป็นเด็กอายุ 11 ขวบทำได้เพียงร้องไห้พร้อมกับตะโกนขอให้ Vi อย่าทิ้งเธอไปไหน แต่พี่สาวของเธอกลับเดินหนีออกไปทั้งอย่างนั้น ปล่อยให้ Powder ต้องนั่งร้องไห้จนกระทั่ง Silco มาพบเธอเข้า

ภาพประกอบจาก : https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=rHwLXZZgaKU

Silco เข้ากอดเธอพร้อมกับปลอบเธอให้หยุดร้อง ก่อนที่เขาจะพาเธอไปด้วยกัน เพราะเขาเข้าใจความรู้สึกของคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเป็นอย่างดี เพราะครั้งหนึ่ง Silco ก็เคยถูก Vander ทิ้งไว้ข้างหลังเหมือนกัน

Powder เติบโตขึ้นเกิดสภาวะจิตหลอนเนื่องจากความรู้สึกผิดต่อพี่ทั้งสองที่จากไป ในตอนนี้ เธอจึงมองเห็นภาพหลอนและมีสองบุคลิกภายในคนเดียว นั่นคือ Powder เด็กสาวนักประดิษฐ์ที่ยังคงคิดถึงพี่สาวของเธอ กับ Jinx ปีศาจผู้ต้องการจะทำลายทุกอย่างและมักจะขึ้นไปสร้างปัญหาที่เมืองชั้นบนอยู่บ่อยครั้ง

ภาพประกอบจาก : https://www.oneesports.gg/league-of-legends/arcane-quotes-memorable-anime/

เธออยู่ภายใต้การดูแลของ Silco มาตลอด ตั้งแต่ตอนที่แยกกับ Vi เมื่อครั้งยังเด็ก จนตอนนี้เธอเปรียบเสมือนลูกสาวคนหนึ่งของเขา ที่เขาสัญญากับเธออยู่เสมอว่าเขาจะไม่ทิ้งเธอไปอย่างแน่นอน

ทว่าจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญก็มาถึง เมื่อ Vi ปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งเพื่อมาตามหาเธอ เธอเกือบจะใจอ่อนและทำตามคำพูดของพี่สาว จนกระทั่งเธอเห็นว่ามีผู้ตรวจการ อย่าง Caitlyn ตามมาด้วย มันทำให้ Jinx ไม่เชื่อใจ Vi อีกต่อไป

“ฉันไม่รู้ ‘Marcus’ (หนึ่งในผู้ตรวจการที่ทำงานกับ Silco)
ไม่เคยบอกฉันว่านางอยู่ที่คุก Stillwater”

“แต่คุณรู้นี่ว่าเธอกลับมา คุณ ‘โกหก’ หนู”

“ฉันแค่ต้องการจะปกป้องเธอ”

“จากอะไร?”

“พี่สาวเธอกับผู้ตรวจการนั่นมาเพื่อเอา Hextech กลับไป
ไม่ได้มาตามหาเธอ…
เธอลืมไปแล้วเหรอว่าพี่สาวทิ้งเธอไปยังไง? ใครกันที่เจอเธอ?
และใครกันที่เป็นห่วงเธอ? ให้ที่พักกับเธอ ฉันคือครอบครัวของเธอ
และทุกคนมันหักหลังเรา”

บทสนทนาระหว่าง Jinx กับ Silco ในตอนที่เธอรู้ว่า Vi กลับมาที่เมืองชั้นล่าง

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง Silco ก็ได้รับสารจากเมืองชั้นบนว่าพวกเขาจะยอมทำข้อตกลงแยกเมืองตามที่ Silco และ Vander เคยต้องการ แต่จะต้องแลกมาด้วยการส่งตัว Jinx ไปให้เมืองชั้นบนดำเนินคดีตามกฎหมาย

ภาพประกอบจาก : https://www.youtube.com/watch?v=HrqfAk66j-A

Silco ที่กำลังคิดหนักถึงข้อตกลงนี้ได้บอกเรื่องราวให้กับ ‘เซวิก้า (Sevika)’ ลูกน้องผู้เป็นมือขวาของเขาให้จับตาดู Jinx เอาไว้จนกว่าเขาจะตัดสินใจได้ แต่แผนก็ต้องพังไม่เป็นท่าเพราะ Jinx ไหวตัวทันและเข้าใจว่า Silco ต้องการจะขายเธอให้กับเมืองชั้นบน

Jinx ที่ถูกคนที่เธอเชื่อใจทำร้ายถึงสองครั้งติดต่อกัน ทำให้เธอโกรธและจับตัวทั้งสามคน ได้แก่ Vi, Caitlyn และ Silco มาไว้รอบโต๊ะกินข้าว ก่อนที่จะให้ Vi ตัดสินใจว่าอยากให้เธอนั่งตรงไหน ระหว่างเก้าอี้ของ Jinx หรือ เก้าอี้ของ Powder

ระหว่างการถกเถียงกัน Caitlyn ก็ได้หลุดจากพันธนาการและแย่งปืนของ Jinx มา ก่อนที่จะถูกแย่งปืนกลับไปอีกครั้งและต่อสู้กันจน Caitlyn เสียเปรียบ ทว่า Jinx กลับสติหลุดเพราะถูกตะโกนใส่จากทั้ง Vi และ Silco ทำให้เธอคลุ้มคลั่งและเริ่มยิงปืนของเธอไปทั่วห้อง แต่คนที่ได้รับกระสุนกลับเป็น Silco เสียอย่างนั้น

ภาพประกอบจาก : https://www.youtube.com/watch?v=_K0kuPBd6Xo

“ไม่ ไม่ ไม่ หนูขอโทษ”

“ฉันไม่เคยคิดจะยกเธอให้กับพวกเขา ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็ตาม
เพราะงั้นอย่าร้องนะ เธอสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว”

บทสนทนาสุดท้ายระหว่าง Jinx และ Silco ก่อนที่เขาจะสิ้นใจไป

ความรู้สึกโศกเศร้ากัดกินจิตใจของ Jinx อีกครั้ง มันทำให้เธอเลือกที่จะจบทุกอย่างด้วยการนำ Hextech ที่เธอขโมยมาใส่เข้ากับปืนยิงจรวดที่ออกแบบมาใหม่ พร้อมกับเล็งมันไปที่ตึกรัฐสภาก่อนที่จะลั่นไกสุดท้ายออกไป…

ภาพประกอบจาก : https://www.looper.com/758599/the-most-pause-worthy-jinx-moment-in-netflixs-arcane/

อุดมการณ์ของ Jinx นั้นไม่ต่างอะไรกับ Vi เลย หากแต่อาการป่วยทางจิตใจทำให้เธอไม่สามารถยอมรับเรื่องราวต่างๆ ได้ มันทำให้เธอไม่เชื่อใจใครแม้กระทั่ง Silco คนที่เปรียบดั่งพ่อของเธอซึ่งสุดท้ายเขาก็ต้องจบชีวิตด้วยฝีมือของเธอเอง

ทุกสิ่งซัดสาดรวมกันจนทำให้ Jinx ไม่สามารถแบกรับมันได้อีก และสุดท้ายผลของความขัดแย้งที่เธอได้รับมาตลอดชีวิต กำลังจะนำไปสู่ความขัดแย้งครั้งใหม่ที่จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นแน่นอน

จากความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองทั้งสอง นำไปสู่ความขัดแย้งและการสูญเสียของประชากร และผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากการสูญเสียนั้นก็หวนกลับมาสร้างความขัดแย้งที่รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก

ภาพประกอบจาก : https://www.reddit.com/r/arcane/comments/1fqbx6u/s1_spoilers_which_fight_was_better_vi_and_jayce/

สุดท้ายแล้วอุดมการณ์และความต้องการของใครจะถูกเติมเต็มกันแน่ Vi จะได้น้องสาวที่เธอคิดถึงกลับมาหรือเปล่า Viktor จะได้กลับมาร่วมทำวิจัยกับคู่หูของเขาอย่าง Jayce จนสามารถรักษาอาการป่วยของตัวเองได้หรือไม่ หรือ Heimerdinger จะเข้าใจเรื่องความต่างของเวลาและกล้าได้กล้าเสียมากขึ้นไหม

ก็ต้องมารอดูกันต่อไปใน Arcane Season 2 ที่กำลังจะฉาย Act 2 ให้ได้ดูกันในวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ และมั่นใจได้เลยว่ามันจะต้องสนุกมากแน่นอน… แต่อย่าริอ่านลองเข้าไปเล่น League of Legend เชียว นอกจากคุณจะรู้สึกว่าชีวิตมันสงบสุขจนเกินไป

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
1
Love รักเลย
1
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0

More in:Articles

Articles

ลอยกระทงถึงไม่ได้อะไร แต่ฉันก็ยังอยากลอยอยู่ดี

เรื่องและภาพประกอบ : จุฑาภัทร ทิวทอง “วันเพ็ญเดือน 12 น้ำก็นองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันจริงวันลอยกระทง ลอย ลอยกระทง…” เพลงคุ้นหูที่เราได้ยินกันมาตั้งแต่จำความได้ จะทีวีหรือวิทยุทำนองก็เล่นซ้ำวนไปไม่อาจหลีกหนี ฉันจำได้เสมอเมื่อวันนี้เวียนมาถึง แม่ของฉันจะมีกิจวัตรที่เธอทำอยู่ทุกปี ...

Articles

GAY CHARACTERS, NOT GAY ACTORS : เมื่อ ‘ตัวละครเกย์’ ไม่จำเป็นต้องรับบทโดย ‘นักแสดงเกย์’

เขียน : วรพร รุ่งวัฒนโสภณ ภาพประกอบ : วรพร รุ่งวัฒนโสภณ สายตา จังหวะการพูด และการเคลื่อนไหวของเธอ บอกเป็นนัยว่าบทบาท ‘Bette Porter’ ใน ...

Articles

พรรคเล็กในสังเวียนใหญ่: ชวนรู้จักพรรค Third party ในศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ และโลกคู่ขนานหากไม่มี Democrats และ Republican

เรื่อง : ทยาภา เจียรวาปี ภาพประกอบ : วรพร รุ่งวัฒนโสภณ แน่นอนว่าการจัดการดูแลประเทศที่มีประชากรมากถึง 355 ล้านคน อย่าง ‘สหรัฐอเมริกา’ ภาครัฐจะต้องเข้าใจความต้องการและจัดสรรสวัสดิการที่เหมาะสมแก่ประชาชนทุกคน แต่ด้วยความที่มีประชากรจำนวนมาก ...

Articles

คนบุรีรัมย์มีรถเมล์แอร์นั่งแค่ปีละ 3 วัน : ตัวอย่างสัจธรรมของขนส่งสาธารณะต่างจังหวัด

เรื่องและภาพประกอบ : ชวิน ชองกูเลีย ทุกเดือนตุลาคมเป็นช่วงเวลาของการจัดงาน ‘MotoGP’ งานแข่งจักรยานยนต์ทางเรียบที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในสนามแข่งตั้งแต่ปี 2561 (ยกเว้นปี 2563 และ 2564 ที่งดเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19) โดยจัดที่สนามช้าง ...

Articles

เรื่องราวของผีที่มีมากกว่าความน่ากลัวโดย ‘Mike Flanagan’

เรื่องและภาพประกอบ : ปิยะพร สาวิสิทธิ์ กิจกรรมของชาวตะวันตกส่วนใหญ่ในช่วงเทศกาลฮาโลวีนก็คงหนีไม่พ้นการแต่งหน้าแต่งตัวเป็นผี ไปยืนเคาะประตูหน้าบ้านคนอื่น พร้อมตะโกนคำว่า Trick or Treat! เพื่อขอขนมหวานแสนอร่อย แต่นี่คือประเทศไทย ดินแดนแห่งเวทมนตร์ หากเดินไปเคาะประตูบ้านคนอื่นยามค่ำคืนก็คงจะได้ไปเล่นกับตำรวจ ไม่ก็เจ้าที่แทน ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ก็มีเพียงแค่การดูหนังมาราธอนจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น ...

Articles

Blackstar : คำร่ำลาจาก (เหล่า) มนุษย์ตาสองสีผู้มาจากต่างดาว

เรื่อง : สิทธิเดช สายพัทลุง ภาพประกอบ : ปิยะพร สาวิสิทธิ์ ‘ความตาย’ เป็นสิ่งที่เราจะต้องพบในสักวัน ทั้งของครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่ความตายของตัวเองที่กำลังคืบคลานเข้ามาหาทุกวินาที โดยเราไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามันจะมาถึงตัวของเราเมื่อไหร่ จนอาจกลายเป็นความหวาดกลัวที่ทำให้ไม่อยากจะใช้ชีวิตบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินแห่งนี้อีกต่อไป แต่ไม่ใช่กับชายคนหนึ่ง ชายผู้แม้ความตายจะมาเคาะประตูหน้าห้อง ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save