News

1663 เสนอสปส. เพิ่มสวัสดิการหนุนหญิงท้อง

เขียน: ศิวะ พุ่มอรุณ และสุชานันท์ สหวงศ์เจริญ

ภาพประกอบ: ฐิดาพร พิมพ์สีโคตร

สายด่วน 1663 เสนอสปส. เพิ่มงบกว่า 6,000 ล้านบาท ชดเชยรายได้ช่วงตั้งครรภ์ให้ผู้ประกันตนม.33 พร้อมจ่าย 15,000 บาท เป็นค่าส่งเสริมคุณภาพชีวิตหลังคลอดแก่หญิงตั้งครรภ์ สร้างความมั่นคงให้ผู้ประกันตนและรองรับการเกิดอย่างมีคุณภาพ ยันไม่กระทบภาระกองทุน

จากกรณีสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล รายงานว่าประเทศไทยมีอัตราการเกิดในปี 2567 ต่ำกว่า 5 แสนคนเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี  ไม่เป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาอนามัยเจริญพันธ์แห่งชาติ ฉบับที่ 2 เพื่อส่งเสริมการเกิดและการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพนั้น เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต สมวงศ์ อุไรวัฒนา ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ ซึ่งให้บริการสายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม 1663 กล่าวว่า สายด่วนฯ และเครือข่ายคนทำงานด้านอนามัยเจริญพันธ์ได้ยื่นข้อเสนอการตั้งท้องอย่างมีคุณภาพของผู้ประกันตนในมาตรา 33 หรือลูกจ้างในสถานประกอบการเอกชน ต่อคณะกรรมการฝ่ายลูกจ้าง สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เพื่อผลักดันสิทธิประโยชน์ด้านการคลอดของหญิงตั้งครรภ์ในระบบฯ

สมวงศ์ให้สัมภาษณ์ว่า มูลนิธิได้ยื่นข้อเสนอต่อสปส. 3 ข้อดังนี้ 1.การฝากท้องและการคลอดเป็นสิทธิประโยชน์และสิทธิการรักษา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ 2.ชดเชยรายได้ให้กับลูกจ้างหญิงตั้งครรภ์เดือนละ 3,000 บาท เริ่มต้นจากเดือนที่ฝากครรภ์ครั้งแรกและสิ้นสุดเมื่อคลอด เพื่อชดเชยการเสียโอกาสในการทำงานล่วงเวลา (OT) และสนับสนุนให้ผู้หญิงเข้ารับการฝากครรภ์คุณภาพ 3.ค่าคลอดเหมาจ่าย 15,000 บาท ให้เปลี่ยนเป็นค่าส่งเสริมคุณภาพชีวิตหลังคลอด โดยทุกข้อเสนอไม่จำกัดจำนวนครั้งที่ตั้งครรภ์หรือคลอด และหากข้อเสนอนี้ผ่าน สปส.จะใช้งบประมาณเพิ่มเติมราว 6,410.87 ล้านบาทต่อปี

สมวงศ์กล่าวต่อว่า หลังจากการเข้าไปคุยกับคณะกรรมการฝ่ายลูกจ้าง สปส.มีข้อกังวลเกี่ยวกับระเบียบทางราชการ และรายจ่ายถาวรที่เพิ่มขึ้นมาอาจเป็นอันตรายต่อกองทุนในอนาคตได้ เนื่องจากมีเงินในกองทุนน้อยลง แต่ตามข้อมูลปี 2567 สปส.เก็บเงินเข้ากองทุนจากผู้ประกันตนและนายจ้างได้ถึง 2.4 แสนล้านบาท การนำเงินมาเยียวยา ชดเชย และส่งเสริมผู้หญิงให้ตรงกับคุณประโยชน์ของประเทศถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่มากและคุ้ม

“สำนักงานประกันสังคมเป็นกองทุนที่ใหญ่สุดในประเทศไทย แต่กลับหวั่นกระทบเงินทุนหากมีการเพิ่มสิทธิประกันสังคม ฝ่ายการเมืองจึงควรเข้ามากำหนดมาตรการ แต่ยอดค้างจ่ายของรัฐบาลต่อกองทุนประกันสังคมจำนวน 5.6 หมื่นล้านบาทในปี 2567 เป็นการสะท้อนการไม่ให้ความสำคัญของรัฐบาล จึงเห็นว่าควรมีการเก็บเงินประกันสังคมมากขึ้น” สมวงศ์กล่าวและว่า การเก็บเงินจำนวนร้อยละ 5 ของเงินเดือนผู้ประกันตน และไม่เกิน 750 บาทต่อคนต่อเดือน ในปัจจุบัน ควรเปลี่ยนอัตราการเก็บเงินประกันเป็นรูปแบบก้าวหน้าตามอัตราเงินเดือน กำหนดสัดส่วนให้ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือนมากกว่าจ่ายมากกว่า โดยอาจขึ้นในหน่วยทศนิยม เช่น ร้อยละ 5.1 ร้อยละ 5.2 หรือร้อยละ 5.3 ตามฐานเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น เพื่อความเป็นธรรมและมีเงินเข้าหมุนเวียนภายในกองทุนอย่างเพียงพอ

สมวงศ์กล่าวว่า สาเหตุที่จำเป็นต้องผลักดันข้อเสนอดังกล่าวเพราะผู้ประกันตนส่วนใหญ่อยู่ในวัยแรงงาน เป็นวัยที่ให้กำเนิดประชากร ใหม่ได้มากที่สุด แต่ข้อมูลค่าจ้างเดือนมิถุนายน 2567 สำนักเงินสมทบ สปส. ร้อยละ 65.18 ของผู้ประกันตน มีรายได้ประจำเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท และร้อยละ 21.45 ของผู้ประกันตน มีรายได้ประจำเดือนอยู่ที่ 9,000–11,000 บาท ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด สปส.จึงต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกันตนเพื่อส่งเสริมเรื่องการเกิด

สมวงศ์กล่าวว่า จากข้อมูลปี 2567 ของสายด่วนฯ มีผู้โทรมาปรึกษาเรื่องท้องไม่พร้อมทั้งสิ้น 50,429 คน และร้อยละ 95.8 ตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ โดยสาเหตุที่ทำให้ท้องไม่พร้อมมากที่สุดคือ ปัญหาด้านเศรษฐกิจร้อยละ 52.9 และระบุว่าการท้องเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ร้อยละ 24

สมวงศ์กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลอัตราการเกิดในไทย ปีนี้มีเกณฑ์ต่ำกว่าปีที่แล้วที่มีจำนวน 461,421 คน ในขณะที่เป้าหมายคือไม่ต่ำกว่าปีละ 7 แสนคน และมีโอกาสเป็นไปตามคาดการณ์ที่ว่าประเทศไทยจะเหลือประชากร 30 ล้านคนในอีก 50-60 ปีข้างหน้า เพราะฉะนั้นแม้จะมีอัตราการเกิดที่ต่ำแต่ก็ควรเป็นไปอย่างมีคุณภาพ เช่น การฝากครรภ์อย่างน้อย 8 ครั้ง ตามการแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) เนื่องจากจะช่วยลดการตายของแม่ได้ถึง 7 เท่า

สมวงศ์กล่าวว่า จากการสำรวจของสายด่วนฯ การฝากครรภ์กับโรงพยาบาลรัฐที่ถูกที่สุดในบริเวณกรุงเทพฯ ราคา 300 บาทต่อครั้ง แต่ไม่รวมการอัลตราซาวน์ หากต้องการตรวจสอบเพิ่มเติมต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มถึง 400-500 บาท ส่วนการคลอดธรรมชาติที่ถูกที่สุดภายใต้เงื่อนไขเดียวกันอยู่ที่ 9,000 บาท และการผ่าคลอดในกรณีเด็กหรือมารดามีปัญหาอยู่ที่ 20,000-30,000 บาท ขึ้นไป ในขณะที่สปส.ให้เบิกจ่ายค่าฝากครรภ์จำนวน 5 ครั้ง ไม่เกิน 1,500 บาท และเหมาจ่ายค่าทำคลอดอยู่ที่ 15,000 บาท โดยต้องสำรองจ่าย ส่งผลให้ผู้ตั้งครรภ์บางรายไม่มีเงินสำรองจ่าย และเงินชดเชยที่ได้รับไม่เพียงพอ หากต้องการตั้งครรภ์ ฝากครรภ์ และคลอดอย่างมีคุณภาพ

สมวงศ์กล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายสูงสุดคือการนำผู้หญิงทุกคนรวมถึงกลุ่มคนที่ไม่อยู่ในระบบอย่างแม่ค้าหรือผู้ประกอบอิสระมาอยู่ในระบบ เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนมีสวัสดิการสังคมรองรับเวลาตั้งครรภ์และคลอด โดยข้อเสนอนี้อาจเป็นต้นแบบที่จะนำไปสู่การกำหนดรัฐสวัสดิการสำหรับผู้หญิงทั่วประเทศในอนาคต และเมื่อถามว่าข้อเสนอที่ว่าจะช่วยเพิ่มอัตราการเกิดได้อย่างไรบ้าง สมวงศ์กล่าวว่า ข้อเสนอนี้จะมีส่วนช่วยให้กลุ่มคนท้องที่ยังลังเลว่าจะทำแท้งหรือไม่ ตัดสินใจมีลูกได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อแหล่งข่าวภายในสปส.เมื่อวันที่ 16 กันยายน เพื่อสอบถามความคิดเห็นต่อข้อเสนอดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับจนถึงเวลาที่เผยแพร่

 สิทธิเดิมข้อเสนอใหม่
เงินชดเชยจ่ายร้อยละ 50 จากฐานเงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาทคงเดิม
การฝากครรภ์ ฝากครรภ์ 5 ครั้งจ่ายไม่เกิน 1,500 บาทฟรี และให้เงินชดเชยรายได้เดือนละ 3,000 บาทตั้งแต่เดือนแรกที่ฝากครรภ์และสิ้นสุดเมื่อคลอด
 การคลอด เหมาจ่าย 15,000 บาท (สำรองจ่าย)ฟรี และให้เงินค่าส่งเสริมคุณภาพชีวิตจำนวน 15,000 บาท

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
0
Love รักเลย
0
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0

More in:News

News

ที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ชี้ ไทยยังไม่มีกฎหมายกำกับสื่อสตรีมมิง  แม้มีแผนแม่บทแต่ไม่นำเข้าที่ประชุมกสทช.

เรื่อง : พรวิภา หิรัญพฤกษ์ และ วรพร รุ่งวัฒนโสภณ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ชี้ ไทยไม่มีการกำกับดูแล OTT เพราะร่างแผนแม่บทไม่ถูกนำเข้าที่ประชุมกสทช. กระทบสื่อทีวี-ผู้บริโภค จากกรณีเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ...

News

ศาลตัดสิน คุก 2 ปี ‘พิรงรอง’ หลัง ทรูไอดี ฟ้อง กสทช.

เรื่อง : ยลพักตร์ ขุนทอง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำพิพากษา ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. พิรงรอง รามสูต ...

News

ทีมผลิตคลิปงานแรกพบเพื่อนใหม่ มธ. เผยยังได้ค่าจ้างไม่ครบ ด้านอมธ. แจงจ่ายช้าเพราะกำลังพิจารณาสาเหตุของค่าใช้จ่ายที่เกินงบ

เรื่องและภาพประกอบ : ทยาภา เจียรวาปี กลุ่มนักศึกษาคณะวารสารศาสตร์ฯ ทีมผลิตคลิปประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัย เผยได้รับค่าจ้างผลิตคลิปประชาสัมพันธ์งาน TU universe: Merging of the galaxies ไม่ครบ ทางผู้อำนวยการกองถ่ายคาด ...

News

ภาคประชาชนชี้ รัฐควรปรับปรุง ‘ร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP 2024)’ เพราะอาจดันค่าไฟสูงขึ้น เหตุตั้งกำลังผลิตเกินจำเป็น

เรื่อง : ณัฐกานต์ บุตรคาม ภาพประกอบ : จุฑาภัทร ทิวทอง “โครงการมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรมในประเทศไทย” ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาชนที่รณรงค์เรื่องพลังงาน ชี้ภาครัฐควรปรับปรุงร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP 2024)  เนื่องจากกำหนดกำลังผลิตไฟฟ้าเกินความจำเป็น ซึ่งจะทำให้ค่าไฟสูงขึ้น ...

News

ผอ. กองนโยบายภาษีชี้หนี้ครัวเรือนไทย เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมบริโภคนิยม ประชาชนใช้จ่ายเกินตัว แนะรัฐฯ ปฏิรูประบบการศึกษาสร้างทักษะติดตัว

เรื่อง : ณัฐธิดา นิติเกษตรสุนทร ภาพประกอบ : ทยาภา เจียรวาปี ผอ. กองนโยบายภาษีชี้หนี้ครัวเรือนไทยเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมบริโภคนิยมและค่านิยมในสังคม  ทำให้ประชาชนใช้จ่ายเกินตัว แนะรัฐฯ ปฏิรูปโครงสร้างตั้งแต่ระบบการศึกษาเพื่อสร้างทักษะติดตัวประชาชน เพราะดิจิทัลวอลเล็ตไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว เมื่อวันที่ ...

News

รมช.คลัง เดินหน้าแจกเงินหมื่นเฟส 3 เป็นดิจิทัลวอลเล็ต ยันกระตุ้นการใช้จ่ายได้มากกว่าเงินสด 

เรื่อง : วรพร รุ่งวัฒนโสภณ ภาพประกอบ : ทยาภา เจียรวาปี รมช.คลัง เดินหน้าแจกเงินหมื่นเฟส 3 เป็นดิจิทัลวอลเล็ต ยืนยันกระตุ้นการใช้จ่ายได้มากกว่าเงินสด เหตุตั้งเงื่อนไขการใช้เงินได้และต้องการให้ประชาชนเปิดรับเทคโนโลยี  เมื่อวันที่ ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save