เขียนและภาพ : ศิรประภา ศรีดาจันทร์
Haikyuu (ハイキュー!!) หรือ ไฮคิว!! คู่ตบฟ้าประทาน เป็นการ์ตูนเกี่ยวกับกีฬาวอลเลย์บอลนักเรียนม.ปลายในญี่ปุ่น ผลงานของอาจารย์ฟุรุดาเตะ ฮารุอิจิ ถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร Weekly Shonen Jump ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2555 (ปัจจุบันฉบับมังงะจบเป็นที่เรียบร้อย) ต่อมาถูกสร้างเป็นอนิเมะซีซั่นแรกออกฉายในเดือนเมษายน ปี 2557 และในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ปี 2567 ไฮคิวกำลังจะฉายเดอะมูฟวี่ (ถูกแบ่งฉายเป็น 2 ภาค) หลังจากอนิเมะฉายมาแล้ว 4 ซีซั่นและเรื่องกำลังดำเนินถึงโค้งสุดท้ายของการแข่งวอลเลย์บอลม.ปลายรายการ Spring Tournament หรือ Haru no Koukou Baree เรียกย่อ ๆ ว่า ‘ฮารุโค’ ในเดอะมูฟวี่ภาคแรก Gekijouban Haikyuu!! Gomi Sutejou No Kessen หรือ ไฮคิว!! เดอะมูฟวี่ “ศึกตัดสินแห่งกองขยะ”
ตัวอย่าง Haikyuu!! The Movie
กำเนิดศึกแห่งกองขยะ
การเจอกันระหว่าง ‘อีกา’ กับ ‘แมว’ หรือ โรงเรียนคาราสึโนะและเนโกมะนั้นมีมาตั้งแต่สมัยอดีตโค้ชคาราสุโนะ อุไค อิคเคย์ และโค้ชเนโกมะอย่าง เนโกมาตะ ยาสึฟุชิ อยู่ ม.ต้นปี 2 ทั้งสองมักเจอกันในการซ้อมแข่งระหว่างโรงเรียนหรือการแข่งรอบคัดเลือกจังหวัด กระทั่งโค้ชเนโกมาตะย้ายจากโรงเรียนเดิมไปโรงเรียนเนโกมะที่โตเกียว ทำให้ทั้งสองไม่เจอกันอีกเลย จนในตอนม.ปลายปี 2 อดีตโค้ชอุไคได้เข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ระดับประเทศและได้พบกับโค้ชเนโกมาตะอีกครั้ง แต่ก็น่าเสียดายที่ทั้งโรงเรียนคาราสุโนะและโรงเรียนเนโกมะไม่ได้ไปต่อ ทำให้ไม่ได้เจอกัน
“สักวันหนึ่ง ฉันจะต้องชนะนายได้แน่…” อดีตโค้ชอุไคพูดกับโค้ชเนโกมาตะ
“…ฉันขอรับคำท้า” โค้ชเนโกมาตะรับคำก่อนหันหลังเดินจากไป
จากการให้คำมั่นสัญญาในครั้งนี้ ทั้งสองก็ไม่ได้ไปยืนในเวทีระดับประเทศอีกเลย หลังจากพวกเขาได้กลับไปเป็นโค้ชให้กับโรงเรียนเก่าก็มีการนัดซ้อมแข่งกันในทุก ๆ ปี พร้อมกับคำสัญญาที่ว่า “ปีนี้ได้เจอกันที่ระดับประเทศแน่” แต่ก็ไม่เคยมีโอกาสได้แข่งกันแมตช์ทางอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งพวกเขาถอนตัว
การกลับมาเจอกันอีกครั้ง
5 ปีต่อมา ในตอนที่ทีมคาราสุโนะกำลังฟื้นฟูทีมกลับมาอีกครั้ง พร้อมสองตัวละครเอกอย่าง ฮินาตะ โชโย เด็กหนุ่มผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นอย่างผู้เล่นเบอร์ 10 ของคาราสุโนะ ฉายา ‘ยักษ์ใหญ่ตัวจิ๋ว’ และคู่หูปี 1 เซ็ตเตอร์อัจฉริยะ ฉายา ‘ราชาเจ้าคอร์ต’ คาเงยามะ โทบิโอะ คาราสุโนะพยายามหาทีมต่างโรงเรียน เพื่อมาซ้อมแข่งก่อนการไปเข้าร่วมการแข่งขันอินเตอร์ไฮและให้สมาชิกในทีมที่มีทั้งเก่าและใหม่ได้ฝึกซ้อมและเล่นเข้าขากันได้มากขึ้น จนกระทั่งอาจารย์ ‘ทาเคดะ อิทเท็ตสึ’ อาจารย์ประจำชมรมวอลเลย์บอลติดต่อไปหาโค้ชเนโกมาตะขอให้ทีมจากเนโกมะมาเป็นทีมซ้อมแข่งและได้การตอบรับอย่างดีจากโค้ชเนโกมาตะ
ช่วงการซ้อมวิ่งของทีม ฮินาตะที่หลงทางระหว่างกำลังวิ่งได้พบกับ ‘โคสึเมะ เคนมะ’ เซ็ตเตอร์ตัวจริงจากโรงเรียนเนโกมะ ผู้ที่ไม่ได้ชื่นชอบการเล่นกีฬาสักเท่าไหร่และรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เก่งกาจมากนัก ที่มาเล่นวอลเลย์บอลเพราะเพื่อนชวนมาเล่นเท่านั้น ฮินาตะตื่นเต้นเป็นอย่างมากในการได้พูดคุยกับเด็กจากโรงเรียนอื่น แต่ยังไม่รู้ว่าเคนมะนั้นคือสมาชิกของทีมที่กำลังจะต้องซ้อมแข่งกับตัวเองหลังจากนี้
“ทีมโรงเรียนนายแข็งแกร่งไหม?”
“เมื่อก่อนก็แข็งแกร่ง แล้วฝีมือตกไปช่วงหนึ่ง”
“แต่ช่วงนี้…คิดว่าแข็งแกร่งล่ะ
หลังจากการซ้อมแข่งที่ค่อนข้างสูสี ผลการแข่งขันออกมาว่าเนโกมะสามารถเอาชนะคาราสุโนะไปได้ ถึงแม้คาราสุโนะจะเจ็บใจที่แพ้การซ้อมแข่งในครั้งนี้ แต่ทำให้รู้ว่าทีมของตัวเองยังพัฒนาได้อีกไกลจากการแข่งขันและคำแนะนำในช่วงแลกเปลี่ยนกันระหว่างทั้งสองทีม
ก่อนจะแยกจากกันฮินาตะเข้ามาพูดคุยและถามไถ่เคนมะอีกครั้งถึงความรู้สึกที่ทีมของเคนมะชนะในการแข่งครั้งนี้ ซึ่งคำตอบที่ได้คือเคนมะไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษจากการชนะครั้งนี้ ทำให้ฮินาตะไม่พอใจและให้คำสัญญาไว้ว่า
“คราวหน้า…เราจะทำให้นายสิ้นหวังให้ได้ พวกเราจะต้องชนะ แล้วทำให้นายพูดออกมาให้ได้ว่า น่าเสียได้จังเลย ไม่สนุกเลย มากกว่าไม่รู้สึกอะไรเลย”
“อืม งั้น…ฉันจะรอนะ”
จากการได้พบเจอกันครั้งนี้ได้ทำให้ทั้งคาราสุโนะและเนโกมะเป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งที่ดีต่อกัน ติดต่อกันอยู่เสมอเพื่อแชร์ทั้งเรื่องราวที่ทั้งสองทีมได้พบเจอ รวมถึงพูดคุยถึงการแข่งระหว่างทางก่อนที่ทั้งคู่จะได้มาเจอกันอีกครั้ง
ตั้งตารอ
เส้นทางการแข่งขันเพื่อเป็นตัวแทนจังหวัดไปแข่งในฮารุโคนั้นไม่ใช่ง่าย ๆ โดยเฉพาะฝั่งคาราสุโนะในจังหวัดมิยางิที่ต้องผ่านทีมแข็งแกร่งอย่างโรงเรียนอาโอบะโจไซ ซึ่งเคยเจอกันมาก่อนในรอบการแข่งขันรายการอินเตอร์ไฮ แล้วคาราสุโนะได้พ่ายไปทำให้ไม่ได้ไปต่อ และโรงเรียนขึ้นชื่ออันดับ 1 ในจังหวัดอย่าง ชิราโทริซาวะ ที่มีนักกีฬาเก่งอยู่มากมาย ขึ้นชื่อสุดเป็นผู้เล่นอย่างกัปตันทีม อุชิจิมะ วากาโทชิ ที่นอกจากจะเล่นเก่งแล้วยังเคยเข้าร่วมเป็นตัวแทนทีมชาติญี่ปุ่นรุ่น U-19 ด้วย เกมการแข่งขันไม่ว่าจะแข่งกับอาโอบะโจไซที่สูสีอย่างมาก หรือการแข่งกับชิราโทริซาวะที่กินไปหนึ่งซีซั่นเต็ม ๆ กว่าจะกลายเป็นตัวแทนระดับจังหวัดมีให้ได้ลุ้นและให้ความตื่นเต้นในการรับชมเป็นอย่างมาก
ส่วนทางด้านเนโกมะเองก็มีให้ต้องลุ้นเช่นกัน หลังจากพ่ายให้กับฟุคุโรดานิ ต้องมาลุ้นชิงอันดับ 3 และต้องชนะแมตช์นี้เท่านั้น เพื่อเข้าเป็นหนึ่งใน 3 ทีมตัวแทนจากโตเกียว จากการแข่งขันอันดุเดือดระหว่างเนโกมะกับ ‘โนเฮบิ’ เนโกมะก็ชนะผ่านเข้ามาเป็นตัวแทนเจ้าภาพได้ในที่สุด คืนนั้นเองเคนมะก็ได้ส่งข้อความหาฮินาตะทันทีถึงการได้ไปสู่ระดับประเทศของเนโกมะ
ดินแดนแห่งสัญญา
กว่าจะได้เดินทางมาเจอกันระหว่างทั้งสองทีม ทางฝั่งคาราสุโนะต้องเจอกับขาโหดประจำการแข่งขันระดับประเทศอย่าง ‘อินาริซากิ’ ที่มีคู่แฝดเลื่องชื่อ ‘แฝดมิยะ’ อยู่ด้วย นอกจากนี้หนึ่งในแฝดมิยะยังเป็นนักกีฬาที่ได้เข้าร่วมค่ายฝึกนักกีฬาเยาวชนระดับประเทศ ส่วนด้านเนโกมะก็ต้องเจอกับทีมที่ตัวเองแพ้ทางด้านการเล่นอย่าง ‘ซารุคาวะ’ แต่ทั้งสองทีมก็แข่งกันอย่างสุดกำลัง เพื่อที่จะได้เจอกันในแมตช์ถัดไป
จากการซ้อมแข่งในวันนั้น สู่การเจออีกครั้งในระดับประเทศที่ต้องฝ่าฟันกับการแข่งขันสุดโหด เจอคู่แข่งสุดหิน
โค้ชอุไค เคย์ชิน (โค้ชคนปัจจุบันของคาราสุโนะ) ผู้เป็นหลานชายแท้ ๆ ของอดีตโค้ชอุไค อิคเคย์ ได้ชวนคุณปู่มาดูการแข่งขันนี้ด้วย เพราะเขารู้ว่า ‘ศึกแห่งกองชยะ’ นี้มีความหมายต่อปู่ของเขามากขนาดไหน แต่อดีตโค้ชอุไคดันป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลก่อน ถึงอย่างนั้นในวันแข่งขันก็ยังนั่งติดตามการแข่งผ่านถ่ายทอดสดทางทีวี
“ชื่อของฉันอาจจะไม่ได้อยู่ในงานแข่ง แต่ลูกศิษย์ของฉันก็อยู่ในสนามและสายเลือดของฉันก็อยู่ที่นั่นด้วย ไม่มีอะไรมาคัดค้านหรอก”
โค้ชอุไคก็ได้แต่หวังว่าการแข่งขันในครั้งนี้จะทำให้ปู่ของเขาได้สนุกจากก้นบึ้งของหัวใจ
สำหรับผู้เขียนที่เป็นแฟนไฮคิวและตั้งตารอมูฟวี่ภาคนี้มานานมาก อยากแนะนำว่าห้ามพลาดกับ ‘ศึกแห่งกองขยะ’ เด็ดขาด ต้องบอกว่าอาจารย์ฟุรุดาเตะปูเส้นเรื่องสำหรับแมตช์นี้มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยโค้ชของทีมจนถึงเด็ก ๆ รุ่นปัจจุบัน และมันกำลังถูกสร้างจากภาพนิ่งในมังงะเป็นอนิเมะที่มีทั้งภาพเคลื่อนไหว เสียงพากย์ และเสียงดนตรีต่าง ๆ ที่จะเพิ่มอรรถรสในการดูและการลุ้นไปกับแมตช์นี้มากยิ่งขึ้น สามารถร่วมลุ้นแบบก้นไม่ติดเบาะได้กับ ศึกที่ไม่มีครั้งที่ 2 ใน ไฮคิว!! เดอะมูฟวี่ “ศึกตัดสินแห่งกองขยะ” วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ปี 2567