เรื่อง : สิทธิเดช สายพัทลุง
ผมวางจอยเครื่องเกม PlayStation ลงบนพื้นก่อนที่จะชูมือขึ้นด้วยความดีใจ ด้วยระบบของเกม ‘Final Fantasy VII’ ที่ทำให้ต้องจดจ่ออยู่กับการคิดและตัดสินใจอยู่ตลอดเวลา ผมเลยรู้สึกว่าการต่อสู้กับบอสตัวนี้ใช้เวลานานและสูญเสียพลังงานไปมากเหลือเกิน
ในขณะที่กำลังตื้นตันใจกับความสำเร็จของตัวเอง จอทีวีหนาเตอะที่วางอยู่ข้างหน้าก็ค่อยๆ ลดเสียงเพลงประจำตัวของบอสที่เพิ่งชนะลง ซึ่งผมก็หวังว่าสิ่งที่ขึ้นตามมาจากหน้าจอทีวีสีดำคงจะเป็นฉากจบของเกมแน่…แต่มันดันไม่ใช่แบบนั้น ดนตรีที่ลดเสียงลงถูกแทนที่ด้วยเสียงซ่าที่ค่อนข้างแสบแก้วหู ก่อนที่จะขึ้นเพลงต่อไป พร้อมกับรูปโฉมใหม่ของบอส ‘เทวทูตปีกเดียว เซฟิลอส’ (Safer Sephiroth The One-Winged Angel)
มันไม่ใช่ความกลัวที่เกิดจากรูปลักษณ์ภายนอก แต่เป็นเพราะเสียงเพลงประจำตัวของบอส และคงเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เพลงทำให้ผมรู้สึกแบบนี้ได้ เสียงกลองที่ตีด้วยความเร็วเหมือนกำลังกดดันเรา เสียงอันแหลมคมของเครื่องเป่าที่ทิ่มแทงเข้ามาในจิตใจ และเสียงขับร้องประสานระหว่างชายกับหญิงเป็นภาษาละติน ทั้งหมดล้วนทำให้บอสตัวนี้ยิ่งใหญ่สมกับเป็นบอสสุดท้ายของเกม
นั่นเป็นเหตุการณ์แรกในชีวิตที่ทำให้ผมรู้สึก ‘กลัว’ อะไรสักอย่างจากเกม แต่มันก็สร้างความรู้สึกหลงใหลต่อเสียงดนตรีของผมให้เกิดขึ้นเช่นกัน จนผมได้รู้จักกับผู้ที่สร้างดนตรีนี้ขึ้นมา และรับรู้ได้เลยว่าเขาคือสุดยอดนักประพันธ์จริงๆ ชื่อของเขาคือ ‘โนบุโอะ อุเอมัตสึ’ (Nobuo Uematsu) นักประพันธ์ปีศาจผู้เป็นเงาเบื้องหลังให้ซีรีส์เกมสุดยิ่งใหญ่อย่าง ‘Final Fantasy’
จากมือคีย์บอร์ดสู่ผู้ประพันธ์เพลงประกอบเกมชื่อดัง
โนบุโอะ อุเอมัตสึ เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 1959 เขารู้สึกหลงใหลในดนตรีตั้งแต่อายุ 12 ปี จนได้มาทำอาชีพเป็นมือคีย์บอร์ดให้กับวงดนตรีสมัครเล่น แต่ไม่ประสบความสำเร็จจนต้องพักงานเล่นดนตรีและไปทำงานร้านเช่าเทปเพลงแทน
จนวันหนึ่งเพื่อนของเขาได้ชักชวนให้เข้ามาทำงานกับทางบริษัทเกมอย่าง ‘Square’ ในฐานะนักประพันธ์เพลงประกอบเกม และเขาก็ได้ประพันธ์เพลงประกอบให้กับหลากหลายเกม จนกระทั่งเขาได้ถูกเลือกให้มาเป็นผู้ประพันธ์เพลงประกอบให้กับซีรีส์เกมดังอย่าง ‘Final Fantasy’
เสียงดนตรีที่ผู้เล่น ‘Final Fantasy’ ทุกคนต้องจดจำ
ในเกม ‘Final Fantasy’ นั้น จะมีระบบที่เรียกว่า ‘ระบบเลเวล’ ซึ่งจะต้องสะสม ‘ค่าประสบการณ์’ จากการต่อสู้กับมอนสเตอร์ภายในเกมเพื่อเพิ่มเลเวลให้ตัวละครของเราแข็งแกร่งขึ้น และในจุดที่ตัวละครของเราเลเวลเพิ่มขึ้น ก็จะมีเพลงประกอบนี้ขึ้นมา
‘Fanfare’ เป็นหนึ่งในผลงานที่อุเอมัตสึสร้างขึ้นมาในการทำ Final Fantasy ภาคแรก ด้วยจำนวนตัวโน้ตที่ถูกใช้เพียงน้อยนิด รวมถึงการวางลำดับให้ติดหูผู้ฟังได้ง่าย ส่งผลให้ Fanfare เป็นหนึ่งในผลงานที่กลายเป็นภาพจำของซีรีส์ Final Fantasy ไปโดยปริยาย
อีกผลงานที่น่าสนใจคือบทเพลงประกอบอย่าง ‘The Prelude’ ซึ่งเป็นงานที่ถูกเล่ากันว่า อุเอมัตสึประพันธ์สิ่งนี้ขึ้นมาภายในระยะเวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น และแม้จะเป็นเพียงแค่การไล่เสียงของตัวโน้ตขึ้น-ลงไปมา แต่การปรับจูนเสียงให้มีความแหลมและทุ้มสลับกันไปอย่างลงตัวนั้น ทำให้เพลงประกอบนี้กลายเป็นเพลง Title ที่ทุกคนจำได้มากที่สุดในซีรีส์ของ ‘Final Fantasy’
ผู้ทำให้ ‘เทวทูตปีกเดียว’ กลายเป็นร่างที่สมบูรณ์
ผลงานที่พีคที่สุดในการทำงานเป็นนักประพันธ์เพลงประกอบเกมของอุเอมัตสึ คือผลงานที่ทำให้กับ ‘Final Fantasy VII’ เกมภาคหลักลำดับที่ 7 ของซีรีส์ กับเพลงประกอบของบอสสุดท้ายอย่าง ‘Sephiroth’ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘The Rite of Spring’ ของ Igor Stravinsky คีตกวีชาวรัสเซีย ซึ่งมีบทเพลงโด่งดังอย่าง ‘The Firebird’ และ ‘Petrushka’
อุเอมัตสึผสมผสานดนตรีคลาสสิกและร็อคแอนด์โรลในช่วงปี 1960-1970 เข้าด้วยกัน พร้อมกับการแต่งเนื้อร้องที่อ้างอิงมาจากบทเพลงอย่าง ‘Carmina Burana’ ของ Carl Orff จนเกิดเป็น ‘One-Winged Angel’ ซึ่งถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้การต่อสู้กับบอสสุดท้ายของเกมเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่และครบรสที่สุด
แม้จะเป็นปีศาจ แต่ก็ไม่อาจต้านทานเวลาได้
แม้อุเอมัตสึจะเป็นนักประพันธ์เพลงประกอบเกมที่เก่งขนาดไหน แต่ด้วยอายุก็ทำให้เขาไม่สามารถประพันธ์เพลงประกอบทั้งหมดของเกมได้ไหว (งานล่าสุดอย่าง ‘Fantasian’ เขาประพันธ์เพลงประกอบไปทั้งสิ้น 77 เพลง)
ล่าสุดก่อนการแสดงดนตรีออร์เคสตรา ‘Merregnon : Heart of Ice’ ซึ่งเป็นงานที่เจ้าตัวรับหน้าที่เป็นผู้ประพันธ์เพลง ตัวของอุเอมัตสึให้สัมภาษณ์ว่า “ผมคิดว่าผมคงไม่มีแรงกายและแรงใจในการทำมันอีกแล้ว” โดยงานล่าสุดที่อุเอมัตสึได้ประพันธ์เพลงประกอบทั้งหมดของเกม คือเกมอย่าง ‘Fantasian’ เมื่อปี 2021
เขาสัญญาว่าจะยังคงทำเพลงประกอบที่เป็นเพลงหลักของเกมนั้นๆ ต่อไป แต่จะให้เวลากับงาน Merregnon : Heart of Ice กับวงดนตรีของเขาอย่าง Uematsu Nobuo conTIKI มากขึ้น
บทบาทผู้ประพันธ์เพลงของอุเอมัตสึนั้นเป็นบทบาทที่สำคัญ ซึ่งสะท้อนจากงานที่เขาได้รังสรรค์ออกมา แม้ว่าผู้เล่นหลายคนอาจไม่รู้สึกถึงความสำคัญของเสียงดนตรีประกอบมากนัก แต่หากไม่มีเสียงดนตรีประกอบ เราอาจจะไม่รู้สึกอินหรือรู้สึกเข้าถึงอารมณ์ที่เกมนั้นจะสื่อออกมาเลยก็ได้
เนื่องในวันที่ 21 มีนาคม ตรงกับวันเกิดของอุเอมัตสึพอดี ทางผู้เขียนก็หวังว่าอุเอมัตสึในวัย 65 ปี จะมีความสุขกับการประพันธ์ดนตรี และยังคงรังสรรค์เพลงที่จรรโลงใจแก่เหล่าผู้เล่นเกมทั้งหลายต่อไปในอนาคต
อ้างอิง
เปิดประวัติ Final Fantasy ปัจฉิมา แฟนตาซี | Game History [First Half]. (3 ธันวาคม 2566).
Gamer Inside. สืบค้นจาก https://youtu.be/ckMeT1vhLXc?si=HxMehlMvwngQGFkN
Final Fantasy Composer Nobuo Uematsu Doesn’t See Himself Doing a Full Game Soundtrack
Again. (27 กุมภาพันธ์ 2567). gamingbolt. สืบค้นจาก https://gamingbolt.com/final-fantasy-composer-nobuo-uematsu-doesnt-see-himself-doing-a-full-game-soundtrack-again
Nobuo Uematsu Composer ดนตรีประกอบเกมผู้ร่วมสร้างโลกให้กับ Final Fantasy.
(15 มิถุนายน 2566). Very cat sound. สืบค้นจาก https://verycatsound.com/blog-nobuo-uematsu-life/