Art & CultureArticlesSocietyWritings

บรรณ (บัน) ลือโลก

เรื่อง : อารีย์วรรณ อมรเดชเทวินทร์

ภาพประกอบ : สิทธิเดช สายพัทลุง

“บรรณ (บัน) ลือโลก”
เสียงอื้ออึงถึงปัญหาจากวงการหนังสือที่น้อยคนนักจะได้ยิน

คำนำ

บันลือ ก. เปล่งเสียงดังก้อง เช่น บันลือสีหนาท.

บรรณ น. หนังสือ (ส. ปรฺณ; ป. ปณฺณ).

บรรณโลก (แบบ) น. วงการหนังสือ.

บรรณ (บัน) ลือโลก ซีรีส์งานเขียนที่จะนำเสนอภาพปัญหาของวงการหนังสือ ผ่านคำบอกเล่าของเหล่าผู้คนในแวดวงดังกล่าว เพื่อค้นหาคำตอบว่าทำไมวงการหนังสือไทยถึงไม่ไปไหนเสียที

บทนำ

ในการตัดสินใจซื้อหนังสือสักเล่ม ชื่อหนังสือมักจะเป็นสิ่งแรกที่สะดุดตาฉัน และชื่ออย่าง ‘จินตนาการไม่รู้จบ’ ก็ทำให้ฉันจำต้องหยุดชะงักอยู่หน้าชั้นวางหนังสืออย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ อีกทั้งยังดูเหมือนว่าเจ้างูสีขาวดำสองตัวบนหน้าปกกำลังร้องตะโกนเรียกชื่อของฉันอย่างไรอย่างนั้น

จินตนาการของฉันก็ช่างไม่รู้จบเสียจริง…

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดอันแปลกประหลาดแล้ว ฉันจึงอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปหยิบหนังสือเล่มดังกล่าวลงมาดูใกล้ๆ ก่อนจะพลิกไปอ่านคำโปรยบนปกหลัง

“มีประตูไปสู่อาณาจักรแห่งจินตนาการมากมายหลายบานนัก เจ้าหนู ยังมีหนังสือวิเศษอื่นๆ อีกมากมายเหลือเกิน คนส่วนใหญ่อ่านผ่านไปโดยไม่สังเกตเห็น มันขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนอ่านหนังสือเล่มนั้นต่างหาก”

นายโคเรแอนเดอร์ เจ้าของร้านขายหนังสือ คาร์ล คอมราด โคเรแอนเดอร์

กล่าวกับบาสเตียน บัลธาซาร์ บูกซ์

เพียงแค่คำโปรยปกหลังก็สามารถเอาชนะใจคนอ่านอย่างฉันได้อยู่หมัดเสียแล้ว ฉันยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้นและยินดี ราวกับเพิ่งได้รับตั๋วเดินทางสู่โลกใบใหม่ไปสู่อาณาจักรจินตนาการอันไร้ขอบเขต 

ทว่าเมื่อสายตาเลื่อนลงมาถึงเลขท้ายสามตัวบนหลังปกแล้ว รอยยิ้มของฉันก็ค่อยๆ เลือนหายไป

445 บาท… ค่าผ่านทางของประตูวิเศษบานนี้แพงเอาเรื่องเหมือนกันนะ

ฉันหายใจเข้าออกช้าๆ ใช้เวลาคิดพิจารณาตัดสินใจว่าการเดินทางสู่ดินแดนแห่งนี้มีค่ามากพอแก่การหยิบธนบัตรสีม่วงในกระเป๋ามาจ่ายหรือไม่

เอาเถอะ ก็แค่การนำกระดาษแผ่นบางๆ สีม่วง มาแลกเปลี่ยนกับกระดาษปึกหนาๆ มันจะยากเย็นสักเท่าไรกันเชียว ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็คุ้มค่า ฉันตอกย้ำความคิดของตัวเองอย่างหนักแน่นก่อนจะหยิบเงินขึ้นมาจ่ายด้วยสีหน้าเหยเก แม้ว่าเบื้องลึกภายในจิตใจจะได้รับการสนองความสุขสมอยู่ก็ตาม

ช่างเป็นความสุขบนความเจ็บปวดที่แสนสวยงามเสียเหลือเกิน

ฉันเชื่อว่า คนที่อ่านหนังสือโดยส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นนักอ่านตัวยงหรือนักอ่านทั่วไป เราต่างต้องเผชิญกับสถานการณ์นี้ด้วยกัน และถึงแม้จะกล่าวว่า การจ่ายเงินซื้อหนังสือ ก็ไม่ต่างจากการนำกระดาษแผ่นไปแลกกระดาษปึก แต่ถ้าคนอ่านไม่รู้ว่าหนังสือนั้นสามารถมอบคุณค่าอะไรกลับคืนมาได้บ้าง การจะนำกระดาษแผ่นบางๆ ที่มีมูลค่าแน่ชัดบนโลกทุนนิยมไปแลกมา ก็คงเป็นเรื่องยากต่อการตัดสินใจ 

ในหลายๆ ครั้ง ฉันเองก็ต้องยอมทำใจบอกลาเหล่าบานประตูวิเศษที่รอคอยอยู่ตรงหน้า เพียงเพราะฉันไม่มีเงินมากพอจะซื้อตั๋วผ่านทางได้ และดูเหมือนว่าโอกาสที่จะได้ก้าวข้ามธรณีประตูไปพบกับโลกใบใหม่ๆ ก็ลดน้อยลงไปทุกทีแล้ว

ใครก็รู้ว่าหนังสือราคาแพงขึ้น แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าคนอ่านก็เป็นส่วนหนึ่งของ ‘วงจรอุบาทว์ทางราคา’ ที่ส่งผลให้หนังสือแพงขึ้นด้วยเช่นกัน 

มั่วหรือเปล่า มันเป็นไปได้ด้วยหรือที่ผู้ได้รับผลกระทบอย่างคนอ่าน จะเข้าไปเป็นหนึ่งในฟันเฟืองของวงจรนี้ได้ 

หากใครยังไม่เชื่อ ลองมาหาคำตอบผ่านการซื้อหนังสือของฉันดีกว่า

ย้อนกลับไปตอนที่ฉันยืนตัดสินใจอยู่หน้าชั้นวางหนังสือ ถ้าในตอนนั้นฉันยอมตัดใจไม่ซื้อหนังสือเล่มดังกล่าว ยอมโบกมือบอกลาประตูวิเศษที่จะพาให้ฉันได้พบกับเพื่อนใหม่ยอดนักอ่านอย่าง บาสเตียน บัลธาซาร์ บูกซ์ พร้อมทั้งตัดโอกาสที่ตัวเองจะได้ท่องโลกกว้าง ณ อาณาจักรจินตนาการไปอย่างน่าเสียดาย ภาพเหตุการณ์คงกลับตาลปัตรกลายเป็นดังนี้ 

ภาพของฉันกำลังยืนถอนหายใจอยู่ในร้านหนังสือ ใช้เวลาคิดพิจารณาตัดสินใจว่า การเดินทางสู่ดินแดนแห่งนี้มีค่ามากพอแก่การหยิบธนบัตรสีม่วงในกระเป๋ามาจ่ายหรือไม่

เอาเถอะ เงิน 500 บาทเอาไปซื้อข้าวกินได้ตั้งหลายมื้อ ถึงอย่างไรอิ่มท้องก็สำคัญกว่าอิ่มใจ ฉันตอกย้ำความคิดของตัวเองอย่างหนักแน่นก่อนจะวางหนังสือเรื่องจินตนาการไม่รู้จบกลับลงบนชั้นวางด้วยสีหน้าหม่นหมอง แม้ว่าเบื้องลึกภายในสมองจะบอกว่าฉันทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วก็ตาม

จังหวะนั้นแหละ… 

จังหวะที่ฉันวางหนังสือลงบนชั้นวาง จังหวะที่ฉันหันหลังให้ประตูวิเศษ มันเป็นจังหวะเดียวกับที่ฉันก้าวเท้าเข้าไปอยู่ในวังวนอุบาทว์ของราคาหนังสือแล้ว 

การที่คนอ่านยอมปล่อยมือจากหนังสือเล่มที่อยากได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เปรียบเสมือนแรงสั่นสะเทือนที่กระทบต่อสำนักพิมพ์ผู้ผลิตหนังสือเล่มดังกล่าวขึ้นมาโดยตรง เพราะนั่นหมายความว่า…

หนังสือของเขาขายไม่ออก… 

ความจริงที่ไม่มีเจ้าของสำนักพิมพ์คนใดอยากได้ยิน 

หากหนังสือเรื่องดังกล่าวขายไม่ออก แสดงว่าโอกาสของการทำกำไรก็น้อยลงเรื่อยๆ หรือบางทีอาจถึงขั้นขาดทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักพิมพ์ขนาดเล็กที่ไม่มีเงินทุนหมุนเวียนมากนัก การขายหนังสือไม่ออกสักเรื่องหนึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากการมีโรคร้าย ซึ่งถ้าหากไม่ได้รับการรักษาด้วย ‘การขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า’ จากหนังสือปกใหม่หรือหนังสือออกใหม่เล่มต่อไป ก็จะทำให้บาดแผลนั้นลุกลามอย่างไร้จุดสิ้นสุด 

แต่ในทางกลับกัน ถ้าหนังสือปกใหม่ของสำนักพิมพ์ทำยอดขายได้มากเพียงพอ ทางสำนักพิมพ์ก็จะสามารถนำรายได้และกำไรจากการขายหนังสือปกใหม่นั้นมา ‘โปะ’ ยอดติดลบของหนังสือเล่มเก่าที่ขายไม่ออกได้

ขายปกเดิมไม่ออก ขาดทุน ต้องพึ่งพาปกใหม่

ปกใหม่ขายดี ได้ไปต่อ

ปกใหม่ขายไม่ได้ ขาดทุนต่อ

อย่างไรก็ตาม การจะออกหนังสือปกใหม่นั้นไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด เพราะเมื่อทางสำนักพิมพ์มีรอยแผลจากความล้มเหลวในการขายหนังสือปกเดิมอยู่ พวกเขาต้องหาหนทางแก้ไขไม่ให้เกิดรอยซ้ำเดิม โดยวิธีหนึ่งที่อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดก็คือการลดจำนวนการผลิตหนังสือปกใหม่ลง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการขายหนังสือไม่หมดอีกครั้ง 

ขายได้น้อย ก็ผลิตน้อย 

ดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดี ทว่าการตัดสินใจเช่นนี้ของทางสำนักพิมพ์ก็ส่งผลให้ราคาหนังสือต่อเล่มมีราคาสูงขึ้นตามกลไกของราคาค่าจัดพิมพ์ ที่จำนวนเล่มในการสั่งพิมพ์แปรผกผันต่อราคาการจัดพิมพ์

ยิ่งพิมพ์น้อย ราคาต่อเล่มจะยิ่งสูงขึ้น

ดังนั้น เมื่อราคาต่อเล่มสูงขึ้น ทางสำนักพิมพ์ก็จำเป็นต้องตั้งราคาขายหนังสือสูงขึ้นตามต้นทุนด้วย 

เมื่อราคาในการผลิตต่อเล่มสูง ราคาขายจะยิ่งแพง

เมื่อราคาแพง คนอ่านก็ไม่ซื้อ

และเมื่อคนอ่านยอมตัดใจไม่ซื้อหนังสือเล่มที่ตัวเองชื่นชอบด้วยเหตุผลว่าราคาหนังสือแพงนั้นเปรียบเสมือนการสร้างบาดแผลให้กับสำนักพิมพ์… อีกครั้ง

แล้ววงจรนี้ก็จะหมุนเวียนต่อไปอย่างไม่รู้จบ

อันที่จริงแล้ว ปัญหาวงจรราคาหนังสือนี้เป็นเพียงปัญหาบนบานประตูเท่านั้น เพราะเมื่อใดที่เราก้าวเท้าข้ามประตูบานนี้เข้าไปด้านใน ดินแดนมหัศจรรย์ที่รออยู่อาจเป็นเพียงอาณาจักรรกร้างว่างเปล่าก็เป็นได้

พบกับปัญหาแรกของวงการหนังสือได้ในวันที่ 18 ตุลาคม

เจอกันวัน ‘โลกหน้า’

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
4
Love รักเลย
3
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0
Writings

ภาษารุนแรงในเพลงร็อก: ศิลปะ การต่อต้าน หรือแค่คำหยาบ

เรื่อง: ณฐนนท์ สายรัศมี ภาพประกอบ: สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ หากดนตรีคือกระจกสะท้อนสังคม เพลงร็อกก็คงเป็นกระจกที่แตกเป็นเสี่ยงๆ บาดคม ท้าทาย และไม่เคยเลือกแสดงเพียงด้านที่งดงาม  ภายใต้เสียงกีตาร์อันกระหึ่ม เสียงกลองที่ดุดัน และน้ำเสียงของนักร้องที่มักเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ เกลียด หรือผิดหวัง ...

Writings

มากกว่าแค่ลวดลาย รอยสักที่บอกเล่าเรื่องราว อัตลักษณ์ และวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไป

เรื่อง : ฐิดาพร พิมพ์สีโคตร ภาพประกอบ : สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ จากภาพลักษณ์ที่เคยถูกมองว่าเป็นเพียงสัญลักษณ์ของกลุ่มคนบางกลุ่ม ปัจจุบัน ‘รอยสัก’ ได้กลายปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่พบเห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นบนร่างกายของนักแสดงชื่อดัง นักกีฬา ศิลปิน ...

Writings

Graffiti ศิลปะแห่งการต่อสู้ไม่รู้จบ

เรื่องและภาพ : สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ เพราะไม่ว่าจะต้องสู้กับใคร ศิลปะจะคงอยู่ข้างผู้คนเสมอ… ภาพวาดที่มีมากกว่าความสวยงาม และแฝงไว้ด้วยความคิดอย่างเต็มเปี่ยมจึงสามารถพาผู้ชมย้อนกลับไปมองไปปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมต่างๆ ได้ทุกขณะ  ดังนั้น เมื่อกำแพงกลายเป็นแคนวาส สีสันฉูดฉาดที่พ่นลงไปเป็นตัวแทนการแสดงออกทางความคิด กราฟิตี้ (Graffiti) ศิลปะที่คนส่วนใหญ่มองว่าขบถ ...

Writings

จดหมายถึงบ้านใหม่

เรื่องและภาพประกอบ: สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ ที่อยู่จัดส่ง บ้านใหม่ ถึง บรรพบุรุษ 30 มีนาคม 2568        นาฬิกาบอกเวลาตี 3 ได้เวลาตื่นเช้ามาช่วยหม่าม้าเตรียมของเพื่อไปเยี่ยมเหล่ากง (ทวดชาย) ...

Lifestyle

ปาจื่อ: เปิดรหัสลับแห่งโชคชะตาด้วยศาสตร์จีนโบราณ

เรื่อง: ณฐนนท์ สายรัศมี ภาพประกอบ: สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ เคยรู้สึกไหมว่าชีวิตของคุณถูกกำหนดไว้แล้ว? ทำไมบางคนเกิดมาพร้อมความโชคดี ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่บางคนต้องดิ้นรนอย่างหนัก แผ่นดินก็ไหวพร้อมกัน แต่ห้องเราพังห้องเดียว เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบุคลิก นิสัย ...

Art & Culture

วิปลาส เมื่อความเชื่อนำไปสู่โศกนาฏกรรม

เรื่อง : ฐิดาพร พิมพ์สีโคตร และ สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ ภาพประกอบ : สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ “แม่ทำหนูทำไม อย่าทำหนูเลย” เสียงร่ำไห้ของเด็กหญิงดังสะท้านในความมืดมิด…นี่คือเสียงจากละครเวที ‘วิปลาส ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save