เรื่องและภาพ : ณัฐธิดา นิติเกษตรสุนทร
ภาพประกอบ : ทยาภา เจียรวาปี
ในวันที่อ่อนล้าจากการไปถ่ายงานที่ทรงวาดในช่วงฤดูฝน เป็นเวลาดึกมากแล้ว ฉันหิ้วท้องกิ่วนั่งรถไฟฟ้ากลับไปหาของกินที่สยามเซนเตอร์ หลังจากที่ฉันและเพื่อนอิ่มหมีพีมันก็ได้เวลากลับ แต่ระหว่างทางฉันได้พบกับแมวเหมียวนับสิบตัว มีทั้งขนาดเล็กจิ๋วและโตเต็มวัย กำลังโซ้ยอาหารเม็ดและเนื้อสัตว์ที่มีคนวางไว้บนถาด
นั่นทำให้ฉันได้มีโอกาสเจอกับ ‘ป้าดา’ ผู้ที่เป็นมากกว่าคนให้อาหารแมว
หลังจากวันนั้นฉันก็ได้ไปหาป้าดาอีกครั้งฉันเห็นคุณป้าเดินหิ้วถุงผ้าพะรุงพะรังเต็มสองมือในทุกๆ ครั้งที่ฉันเจอ ในกระเป๋าเต็มไปด้วยอาหารเม็ดสำหรับแมว อาหารเปียก 1 กระป๋อง และอกไก่ที่ถูกต้มมาอย่างดี
.
ป้าดา นางฟ้าของแมวจร
“เนี่ย ไม่มีใครทำอย่างป้าหรอกที่ต้องมานั่งฉีกไก่ให้แมวแต่ละถาดๆ อาหารที่ให้ก็ไม่ใช่เศษอาหารทั่วไป” ป้าดาพูดขณะกำลังจัดเรียงอาหารในถาดที่ทำมาจากฝากล่องรองเท้าที่ถูกทิ้ง
ป้าดาอายุ 72 ปี เล่าให้ฟังว่าเคยขายเสื้อผ้าอยู่ที่สยาม แต่ปัจจุบันไม่ได้ขายแล้วเนื่องจากพิษเศรษฐกิจ ตอนนี้ทำสบู่และยาสระผมขายทางออนไลน์เพื่อนำไปเป็นค่าอาหารแมว โดยมีบ้านอยู่ที่ย่านบางพลัดซึ่งค่อนข้างไกลจากสยาม
คุณป้ามาได้เฉพาะตอนดึกๆ หลังจากทำงานเสร็จคือตอนสองทุ่ม ซึ่งกว่าจะได้กลับบ้านก็เกือบห้าทุ่มแล้ว เพราะใช้เวลานานในการจัดเตรียมของและยังต้องนำอาหารไปให้แมวอีกหลายจุด จากนั้นก็ต้องรีบกลับให้ทันรถเมล์รอบสุดท้าย
“บางทีป้าก็ตกรถเมล์เพราะต้องเดินไปเอาของหลายที่ในสยาม เลยต้องนั่งแท็กซี่กลับ เสียดายมาก ซื้ออาหารให้แมวได้อีกตั้งหลายมื้อ”
ป้าดาให้อาหารแมวมาตั้งแต่ปี 2015 นับเป็นระยะเวลาเกือบ 10 ปี “ก็สงสารแมว เราผูกพัน จริงๆ แต่ก่อนเค้าอยู่ทั่วสยามเลย ตอนนี้โดนไล่มาอยู่บนสะพานแทน” สะพานที่ว่าคือสะพานลอยทางเชื่อมไปชั้น 3 ของสยามเซนเตอร์ ซึ่งมีแมวอยู่ทั้งบนสะพานลอยและตรงบันไดระหว่างทางขึ้นสะพาน
คุณป้าต้องยื่นอาหารเข้าไปให้แมวที่ติดอยู่ในตะแกรง “มันมาคลอดลูกในนี้ จะให้ออกมาก็ไม่ได้เดี๋ยวมันตีกันกับพวกข้างนอก” คุณป้าบอกและเดินขึ้นไปให้อาหารแมวที่อยู่บนสะพานลอย
ป้าดาเล่าให้ฉันฟังว่าไม่กี่วันก่อน คุณป้าวางอกไก่ที่ต้มทิ้งไว้และเดินไปเอาตับย่างจากคุณป้าอีกซอย พอกลับมาถุงไก่ก็ถูกขโมยไปเสียแล้ว “ไม่รู้ทำไมต้องมาขโมย คนหากินเองได้ แต่แมวหากินเองไม่ได้ ป้าอยากให้เขา (แมว) ได้กินอาหารดีๆ วันละมื้อก็ยังดี”
หลังจากนั้นคุณป้าก็กลับมาจัดถาดอาหารแมวอีกครั้ง และพาฉันไปที่ซอยหนึ่งของสยามสแควร์ ในนั้นมีตึกแถวร้างติดกันหลายตึก คุณป้าดันประตูรั้วเหล็กฝืดๆ ขึ้นโดยที่ไม่ต้องให้ฉันช่วย ขณะที่อีกมือก็ยังถือถาดอาหารแมวที่ทับซ้อนกัน
ภายในตึกที่มืดสนิทมีเพียงแสงจากไฟฉายของคุณป้า คุณป้าเดินขึ้นบันไดเพื่อไปให้อาหารแมวที่ชั้นสองของตึกร้าง “ปกติป้ามาคนเดียว กลัวอยู่ว่าถ้าเป็นลมล้มพับไปจะทำยังไง”
“มันก็ไม่ใช่หน้าที่หรอก แต่ความสงสารน่ะสิ ถ้าไม่ให้เขา (แมว) เราก็รู้สึกเป็นทุกข์”
คุณป้าเล่าว่าคุณป้าเดินตามหาแมวจนเจอว่ามันอยู่ในตึกร้าง จึงตามมาให้อาหาร โดยไปขอกุญแจตึกมาจากผู้ดูแลคนเก่า
.
มีใครเคยว่าคุณป้าบ้างไหมคะ?
แม้ว่าบริเวณที่คุณป้าให้อาหารแมวจะเป็นพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่คนส่วนใหญ่เดินผ่าน แต่ก็ไม่ได้สร้างความรบกวนแต่อย่างใด
“ทางจุฬาฯ เขาก็ไม่ได้ว่าเรา เพราะเราทำเรียบร้อย ทำเสร็จป้าก็ทำความสะอาดให้เค้า ไม่ได้ทิ้งเศษขยะไว้”
จากนั้นคุณป้าก็พาฉันเดินไปยังที่หมายสุดท้ายคุณป้าเสียบตับย่างทีละชิ้นไว้ที่ปลายไม้ยาวแหลมยื่นขึ้นไปให้แมวที่อยู่ข้างบนตรงตะแกรงอยู่ 4-5 ครั้งจนตับหมด จากนั้นจึงวางถาดอาหารให้แมวตรงพื้น
.
มีใครเคยช่วยเหลือคุณป้าบ้างไหมคะ?
“มีคนช่วยเหลือให้ตับย่างทุกวัน แต่อกไก่ป้าซื้อมาเองจากโลตัสเอามาต้มที่บ้านแล้วก็แบกมา”
คุณป้าบอกว่ามีคนช่วยค่าอาหารนิดๆ หน่อยๆ บางคนก็เอาแมวไปเลี้ยง “มีคนนึงช่วยค่าอาหารกระป๋องเดือนละ 1 ลัง และให้ค่าไก่ต้มเดือนละ 500 บาท อีกคนเป็นน้องเภสัช คนนี้ดีมากเลยนะ ช่วยมาจะ 10 ปีแล้ว ให้อาหารเดือนละกระสอบหนัก 20 กิโลฯ แต่นอกนั้นเราก็ต้องหาเอง” นอกจากนี้มีคนช่วยรับทำหมันแมวราคาถูก แต่คุณป้ายังไม่มีเงินเพียงพอ เพราะลำพังแค่ค่าใช้จ่ายที่เสียไปกับค่าอาหารก็หมดแล้ว
ทางด้านจุฬาฯ เคยมาช่วยทำหมันแมว “จุฬาฯ เคยมาช่วยครั้งนึง แต่ก็แค่ครั้งเดียวและนานมากแล้ว” คุณป้าบอกว่าเคยคุยกับจุฬาฯ เรื่องทำหมันอีกรอบ ทางจุฬาฯ บอกว่าทำให้ได้แต่ต้องนำแมวไปเอง “เราแก่แล้วจะไปจับไหวได้ยังไงมีตั้งหลายตัว เอาไปไม่หมดหรอก”
.
ที่จุฬาฯ เคยช่วยครั้งนึงแล้วทำไมแมวยังไม่หมดไปอีก?
คุณป้าบอกว่าแมวลดลงไปเยอะ มีทั้งล้มหายตายจากบ้าง คนรับไปเลี้ยงบ้าง แต่ก็มีมาใหม่อีกเรื่อยๆ เพราะไม่ได้มีการติดตามทำหมันแมวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีแมวที่ตอนนั้นไม่ได้ทำหมันเพราะเป็นลูกแมวอีกด้วย
แม้จะมี ‘ชมรมจรจัด’ หรือชมรมสวัสดิภาพสัตว์ของนิสิตสัตวแพทย์จุฬาฯ ที่คุณป้าเคยขอให้ทางชมรมช่วยเอาแมวที่ติดตะแกรงอยู่ชั้นบนออก ทางชมรมก็ให้ความช่วยเหลืออย่างดี “ป้าไม่ได้รบกวนเพราะเขามีงานยุ่ง ถ้าไม่ได้ขอความช่วยเหลือก็จะไม่ได้มาเกี่ยวพัน” ซึ่งในการขอความช่วยเหลือก็มีค่าใช้จ่ายตามมา “จริงๆ เขาบอกว่าไม่คิดเงิน แต่เราก็เกรงใจ มันเป็นน้ำใจที่เขามาช่วยเหลือเราก็ต้องตอบแทน”
สุดท้ายนี้คุณป้าต้องการความช่วยเหลืออย่างไรบ้าง?
“ป้าทำคนเดียวไม่ไหว”
ป้าดาบอกว่าอาจจะทำปีหน้าเป็นปีสุดท้าย เพราะปัญหาสุขภาพและอายุที่มากขึ้น
“อยากให้ช่วยค่าทำหมันก่อน แล้วก็ช่วยหาบ้านให้เขา” คุณป้าบอกว่าอยากให้แมวทั้งหลายมีชีวิตที่ดีมีบ้านพร้อมเลี้ยงดู