LifestyleWritings

จะจดหมายรัก หรือ DM ถ้าเขาชอบ เดี๋ยวเขาก็ตอบเอง

เรื่อง : ปิยะวรรณ นาคะสิงห์

เข้าสู่เทศกาลแห่งความรัก หรือ “วันวาเลนไทน์” ใน วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่เวียนมาบรรจบอีกครั้งในทุก ๆ ปี วันธรรมดาที่แสนพิเศษ ของทีมคนมีคู่ หรืออาจจะเป็น วันขม ๆ อีกวันของทีมคนโสด มุมมองที่แตกต่างกันของแต่ละทีมทำให้วันวาเลนไทน์นั้นพิเศษขึ้นอย่างน่าประหลาด เพราะจะมีสักกี่วันใน 1 ปี ที่จะมีทั้งคนอยากให้ถึงเร็ว ๆ กับคนที่อยากให้รีบจบวันเร็ว ๆ ไปพร้อม ๆ กัน

ตกลงแล้ว “วันวาเลนไทน์” เป็นวันอะไรกันแน่ ? เราต้องโฟกัสที่อะไร ? รำลึกถึงนักบุญวาเลนไทน์ที่เสียสละชีวิตเพื่อความรักของคนในกรุงโรมเมื่อ 1,500 ปีก่อน หรือเป็นอีกวันที่ฝ่ายการตลาดของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะใช้คำว่า วาเลนไทน์ มากระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายใต้อุดมการณ์สวย ๆ ที่สนับสนุนให้ผู้บริโภคลุกขึ้นมาซื้อของให้คนที่รักกันแน่

อย่างไรก็ตามวันวาเลนไทน์นั้นมีความสำคัญในการเป็นวันที่ทำให้ทุกคนรำลึกที่ ความรัก ไม่ว่ารูปแบบใด อย่างน้อยก็มีหนึ่งวัน จาก 365 วัน ที่ทำให้เรารู้สึกถึงความสำคัญในการรักและถูกรัก แม้แต่คนโสดก็ยังมีคนรักในรูปแบบอื่น ทั้งเพื่อน ครอบครัว หรือแม้แต่การรักตัวเอง ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่คนโสดจะต้องน้อยใจที่ไม่มีคนรักในช่วงเทศกาลแห่งความรัก เพราะกว่าคนมีคู่ จะมีใครสักคนให้มาแสดงความรักในวันพิเศษแบบนี้ก็ จีบ มาแทบตายเหมือนกัน

กว่าจะพบเจอใครสักคน ที่เราต้องรวบรวมความกล้าเข้าไปจีบ อาจจะต้องเป็นใครสักคนที่น่ารักจนเราปล่อยผ่านไปไม่ได้ อาจจะเป็นเจ้าของรอยยิ้มที่เราตกหลุมตั้งแต่แรกเห็น หรือเพียงใครสักคนที่เราเผลอรู้จักตนตัวจนอยากเข้าไปลงทุนจีบเพื่อเข้าไปส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา

นิยามของคนที่น่าทำความรู้จักนั้นต่างไปในแต่ละบุคคล แต่สุดท้ายจุดจบ คือ การรวบรวมความกล้าเข้าไปจีบคนคนนั้นของคุณให้สำเร็จ ทว่าการจีบมันยาก บางคนท้อถึงขนาดไม่ยอมเป็นฝ่ายจีบก่อนด้วยซ้ำ นั่นหมายความว่าคุณอาจจะปล่อยให้คนคนนั้นของคุณผ่านไป แต่สำหรับคุณแม่มะเหมี่ยว จะไม่ยอมให้คุณพ่อกุดจี่ ผ่านไปอย่างแน่นอน

โพสต์ดังกล่าวในแอปพลิเคชั่น X โดยบัญชี @mlt_cc พูดถึงที่มาความรักของคุณพ่อคุณแม่จากจดหมายรัก ซึ่งถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์จากการรีทวิตมากกว่าสองหมื่นครั้ง เรื่องราวความรักของคุณพ่อกุดจี่ คุณแม่มะเหมี่ยวจึงถูกนำมาพูดถึงในวันนี้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และพาผู้อ่านย้อนเวลาไปถึงช่วงชีวิตหนึ่งของคู่รักที่จีบกันแบบไร้อินเทอร์เน็ต

ย้อนไปในช่วงปี พ.ศ. 2543 การจีบการในรูปแบบออนไลน์คงเป็นไปไม่ได้ อย่างมาก อาจจะมีโทรศัพท์บ้าน หรือเพจเจอร์ แต่ก็ยังคงยากลำบากอยู่มาก “จดหมายรัก” จึงเป็นสื่อกลางให้คนรุ่นคุณพ่อคุณแม่ หรือ Gen X ใช้ในการทำความรู้จัก หรือจีบกัน

คุณแม่มะเหมี่ยว วัย 46 ผู้เป็นนักอ่านและแฟนคลับตัวยงของนักเขียนและนักดนตรีอย่างคุณพ่อกุดจี่ หรือ พรชัย แสนยะมูล วัย 54 ปี มีความรักที่เริ่มต้นด้วยการอ่าน ก่อนพัฒนาจนมี ‘ต้นฉบับ(ชื่อลูกสาว) ซึ่งเกิดขึ้นจากความรักอันอบอุ่นของทั้งคู่

“ปีนั้นมีงานหนังสือที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ (พ.ศ. 2543)  ไปงานหนังสือกับพี่สาว เดิน ๆ แล้วได้ยินประกาศเสียงตามสายว่าพี่กุดจี่จะอยู่บนเวทีเวลานี้ ก็ดึงพี่สาวไปเลย ไปนั่งฟัง และพี่เขาก็อยู่บนเวที จุดนั้นคือการได้เจอพี่เขา…พี่กุดจี่ถามว่า ใครเป็นแฟนหนังสือของเขาให้ยกมือ ก็เลยยกมือขึ้นเลย และฟังจนจบ อยากได้ลายเซ็น เลยให้เขาเซ็นโปสการ์ดให้”

โปสการ์ดใบแรกในวันที่ทั้งคู่พบกัน

“วันต่อมาก็ไปอีก ไปหาซื้อหนังสือ จนไปเจอบูธหนึ่งที่ขายหนังสือพี่กุดจี่ ก็เดินไปถามขอที่อยู่พี่กุดจี่เพื่อเขียนจดหมายไปให้กำลังใจเขา เขียนจดหมายไปว่าเราเป็นแฟนหนังสือเขานะ เป็นกำลังใจให้เขา ประมาณนี้ค่ะ”

คุณแม่มะเหมี่ยวเล่าด้วยรอยยิ้มพร้อมตอบอย่างจริงใจว่า เริ่มต้นเขียนจดหมายด้วยความชื่นชมและส่งมอบกำลังใจให้ในฐานะแฟนหนังสือ แต่จดหมายให้กำลังใจค่อย ๆ กลายเป็นจดหมายรักหลังจากเริ่มรู้หัวใจตนเอง

คุณพ่อกุดจี่เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวชีวิตในช่วงเวลาเดียวกันว่า หลังจากที่ตนอกหักจากรักครั้งก่อน ก็ได้ย้ายมาเปิดร้านกาแฟและขายหนังสือใกล้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี โดยขณะที่หัวใจกำลังฟื้นฟูจากบาดแผลครั้งเก่า และมีหนังสือที่ขายดีระดับประเทศจนมีจดหมายมากมายจากแฟนคลับส่งถึงบ้าน…
ภายในจำนวนที่มากมาย สุดท้ายเหลือเพียงจดหมายที่มาจากเธอ

“วันนั้นไปขึ้นเวทีที่คุณมะเหมี่ยวพูดถึง และก็เล่นดนตรีไป อ่านบทกวีไป ยิงมุกขำ ๆ ไป จนได้ถามว่าใครเป็นแฟนหนังสือพี่กุดจี่ยกมือขึ้น แล้วพอเจอเธอก็รู้สึกเกิดแผ่นดินไหวในหัวใจ ไม่เคยเกิดอาการแบบนี้ นั่งรถทัวร์กลับโคราช คุยกับนักดนตรีว่าทำไมไม่ขอเบอร์น้องเขาไว้ จนกระทั่งผ่านไปอาทิตย์หนึ่งได้รับจดหมาย ตีลังการอบสระเลย คือเราคิดถึงเขาอยู่ แล้วพอได้รับจดหมายก็เลยติดต่อกลับไป ได้คุยกัน ส่งจดหมายหากัน ระหว่างนั้นเขียนบทกวีถึงเขาไป 4 บท แผ่นดินไหวในหัวใจมันกระเพื่อมมากขึ้น ๆ ประมาณหนึ่งเดือน โทรศัพท์ไปถามเลย ชวนเลย ‘เป็นแฟนกันไหม’ และเขาก็ตอบตกลงแบบไม่ลังเล เพราะใจตรงกัน”

หลังจากฟังเรื่องราวอบอุ่นหัวใจของการจีบกันเมื่อ 25 ปี ที่แล้ว เมื่อมองกลับมาที่ปัจจุบัน ไม่เพียงแค่เวลาที่เปลี่ยนไป แต่ทุกอย่างพัฒนาขึ้นตามกาลเวลาและวิวัฒนาการ แม้กระทั่งวิธีทำความรู้จักก่อนจะเป็นคู่รักของหนุ่มสาวสมัยนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

นิตยสาร Time พูดถึงแอปพลิชัน Social Media ยอดนิยมของ Gen z อย่าง Instagram ว่า เป็นพื้นที่ที่ Gen Z ใช้จีบกัน สำเร็จมากที่สุด เทียบกับ Dating Apps หรือ แอปพลิเคชันหาคู่ Instagram คือพื้นที่ที่ใช้กันอย่างกว้างขวางกว่ามาก หลายคนย้ายจากการใช้แอปพลิเคชันหาคู่ มาใช้ Instagram ในการทำความรู้จักคนใหม่ ๆ มากขึ้นด้วย Feature ที่ทางแอปพลิเคชันพัฒนาขึ้นต่อเนื่องยิ่งช่วยสงเสริมให้ผู้ใช้งานเข้าใกล้กันและมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันมากขึ้น เช่น Direct Message (DM) ที่สามารถพูดคุยกันได้ง่าย ๆ ภายในแอปฯ โดยมีผู้ใช้งาน DM ต่อเดือนมากกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น เด็ก Gen Z สามารถ DM หากันได้ง่ายขึ้น ผ่านการตอบกลับ Instagram Story ที่ผู้ใช้งานสามารถลงรูปภาพที่จะปรากฎในแอปฯ เพียง 24 ชั่วโมง จึงมักจะเป็นโมเมนท์สั้น ๆ หรือเรื่องราวที่ผู้ใช้งานสนใจ ณ เวลานั้น การตอบกลับ Instagram Story จึงเป็นการเริ่มต้นบทสนทนาจากสิ่งที่เขาสนใจ และสามารถพูดคุยกันได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

คุณพ่อกุดจี่และคุณแม่มะเหมี่ยวคิดว่า คู่รักสมัยนี้จีบกันอย่างไร ?

“คิดว่าเป็น IG (Instagram)” คุณแม่มะเหมี่ยวตอบ ก่อนคุณพ่อกุดจี่จะเพิ่มเติม

“น่าจะ Facebook บ้าง Line บ้าง ซึ่งมันก็เต็มไปด้วยมิจฉาชีพ เต็มไปด้วยคนไม่ตรงหน้าปก …วันก่อนไปที่หนองคาย ได้คุยกับน้องคนหนึ่ง เขาก็เล่าว่าคนสมัยนี้มีแอปฯหาคู่ มี แอปฯสำหรับ LGBTQ ด้วย มีระบุหมดเลย ไม่เคยรู้มาก่อน ก็แปลกใจอยู่เล็กน้อย แต่ไม่ได้ตระหนก เพราะเป็นไปด้วยยุคสมัย”

คิดว่าจีบแบบ Gen Z ยากหรือง่ายกว่าของยุคก่อน

“ยุคก่อนไม่ได้ยาก แต่ก็ไม่ได้ง่าย เพียงแต่มันต้องใช้ระยะเวลา กว่าจะติดต่อกันได้ ไม่จดหมายก็โทรศัพท์ หรือโทรศัพท์หยอดตู้ …ถามว่ายากไหม มันก็ยากประมาณหนึ่ง แต่มันก็ไม่ยากเกินความสามารถ ถามว่ายุคนี้ง่ายไหม ก็เหมือนง่ายนะ แต่ว่าในความง่ายนั้นมันมีความยากมาก เพราะว่าอย่างของเรายังมีระยะเวลาคิด กว่าจะได้รับจดหมาย แต่ในสมัยนี้ติดต่อกันง่ายก็จริง แต่เราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฝ่ายตรงข้าม รูปที่ส่งมา เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน ในขณะที่เราติดต่อกันง่ายมากขึ้นค่ะ เราก็มองอีกมุมหนึ่งว่า เขาไปติดต่อคนอื่นด้วยไหม? อันนี้มันยากมาก”

ด้านของคุณพ่อกุดจี่มองว่า “มากกว่าเครื่องมือสื่อสาร มากกว่ายุคสมัยจาก Slow love มาเป็น Fast love สมัยนี้ไม่รู้ว่าจะเจอคนที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวในหัวใจได้ไหม เพราะมันเต็มไปด้วย ‘คลื่น’ ในรูปแบบมิจฉาชีพ อีกทั้งความเร็ว คลื่นพวกนี้มาแทรกจนไม่รู้จะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในหัวใจได้ไหม…”

สุดท้ายเพื่อจะตอบได้ว่าแบบไหนยากกว่า คุณพ่อกุดจี่และคุณแม่มะเหมี่ยวจึงพิสูจน์ด้วยการทดลองเป็นวัยรุ่น Gen Z ที่จีบกันผ่าน Instagram ด้วยวิธีตอบกลับ Instagram Story โดย คุณแม่มะเหมี่ยวเป็นฝ่ายลงรูปภาพ และคุณพ่อกุดจี่จะเป็นคนตอบกลับ ขณะพูดคุยกัน ทั้งคู่ก็ยิ่งสัมผัสถึงความยากมากกว่าเดิม เพราะกว่าจะเข้าใจคอนเซปต์ของ Instagram Story ก็ต้องทำความรู้จักอยู่พอสมควร

เมื่อคุณแม่มะเหมี่ยวก็ได้ลงรูปภาพที่บ่งบอกตัวตน และความรู้สึกของคุณแม่ ด้วยภาพนี้

คุณพ่อกุดจี่นึกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับ Instagram story ของคุณแม่มะเหมี่ยวด้วยข้อความที่สร้างรอยยิ้มให้ทั้งคู่ทันทีที่อ่าน

จากแอปพลิเคชันสำหรับเปิดเผยไลฟ์สไตล์ผ่านการโพสต์รูปตัวเองหรือรูปสิ่งที่สนใจ กลายเป็นแอปพลิเคชันที่แสดงความเป็นตัวตนได้อย่างชัดเจน เราสามารถรับรู้ความชอบส่วนตัวผ่านการดูบัญชีที่อีกฝ่ายติดตาม หรือโพสต์ที่อีกฝ่ายแชร์ จึงทำให้ Gen Z มี Community ที่ชัดเจน ใน Instagram จำแนกตามสิ่งที่สนใจ และพูดคุยเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับคนที่ชอบอะไรคล้าย ๆ กันได้
แต่สำหรับ พี่ไทม์ แล้ว สิ่งที่เขาชอบตอนนี้ ก็น่าจะเป็น น้องเอมมี่

Screenshot

ท่ามกลางความเห็นจากชาวเน็ตผู้ประสบภัย #รับปริญญามธ ที่ถูกพูดถึงในสังคมออนไลน์ ด้วยปัญหาอันเกิดขึ้นจาก งานรับปริญญา ปีการศึกษา 2567 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ที่ผ่านไปไม่นานมานี้ ในช่วงเวลาเดียวกัน คู่ของ พี่ไทม์และเอมมี่ กลับสร้างรอยยิ้มให้กับชาวเน็ตจากคอนเทนต์ ‘คู่รักในงานรับปริญญา’ ที่โพสต์ลงแอปพลิคชัน TikTok
ซึ่งนอกจากจะได้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวของบัณฑิตแล้ว ยังทำให้เห็นว่า #รับปริญญามธ ก็ยังมีเรื่องราวน่ารักอยู่ด้วย

พี่ไทม์ ศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นที่ได้รู้จักกับ เอมมี่ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ผ่าน Instagram
“เอมมี่ทำงานมหาวิทยาลัยให้กับรุ่นพี่คนนึงที่รู้จัก เราก็เลยเห็นเขาใน Instagram บ่อย ตอนแรกเรารู้สึกว่าเขาน่ารัก แต่พอเห็นบ่อยๆรู้ตัวอีกทีก็หลงรักเด็กคนนี้ซะแล้ว”

เอมมี่เล่าให้ฟังเพิ่มเติม “เริ่มต้นจากการที่ลงรูปโปรโมทให้งานมหาวิทยาลัย พอเขาเห็น เขาก็กดไลค์ แล้วก็กดฟอล (follow) มา ก็เข้าไปดูว่าเป็นใคร ต้องฟอลกลับไหม ซึ่ง Instagram ของแฟนก็มี mutual ที่เป็นคนรู้จักอยู่ 3-4 คน ยอดฟอลก็สูงมาก แต่ยังไม่ได้ฟอลกลับ สักพักจนผ่านมาอาทิตย์หนึ่งวันนั้นวันเกิดแม่ ก็ถ่ายรูปอาหารลงเวลาบ่าย ๆ สักห้าทุ่มแฟนก็ reply มาว่า ‘น่ากินจัง’ แอบไม่รู้ว่าจะตอบอะไร ก็เริ่มคุย จากวันละประโยค สองประโยค”

 

            ใครเริ่มจีบก่อน ?

“เราจีบก่อน ก็เริ่ม DM ไป แล้วก็มีถ่ายรูปทะเลส่งให้เขาเป็นกำลังใจ” พี่ไทม์ตอบก่อน ตามด้วยรายละเอียดจากเอมมี่

“ตอนนั้นแฟน elective อยู่ที่ศรีราชา เขาก็ถ่ายทะเลมาให้ดู ถ่ายมาฝาก ส่วนตัวชอบทะเลอยู่แล้ว ก็เขินนิดนึง พอผ่านไปก็ elective ครบพอดีแล้วกลับมารังสิต ก็นัดทานข้าว แต่เอมมี่ไม่ว่างเพราะติดมีซ้อมกิจกรรมของมหาวิทยาลัย เขาถามว่างานวันไหนจะมาเชียร์ … วันที่เจอกันวันแรกเขาซื้อดอกกุหลาบสีขาว 13 ดอกมาให้ ตกใจมากเพราะเอมมี่ชอบดอกกุหลาบสีขาวมาก แล้วสีที่ชอบที่สุดก็คือสีขาว ดอกไม้ช่อนั้นเลย perfect มาก”

Instagram มีผลกับคู่เรามาแค่ไหน ?

“คู่เราเริ่มต้นมาจากตรงนี้แหละ” พี่ไทม์ตอบ ก่อนเอมมี่จะเสริม

“ช่วงแรก ใช้ Instagram สักพักหนึ่ง ไม่รู้ว่าเป็นมุกเขาหรือเปล่า บอกว่า Instagram ชอบค้างก็เลยขอไลน์”

คิดว่าการจีบกันทุกวันนี้ ยากหรือง่ายกว่ายุคก่อนหน้า ?

“ส่วนตัวเอมมี่คิดว่ายุคนี้ง่ายขึ้น รู้ว่าการมีแอปพลิเคชั่นไม่ว่าจะแอปพลิเคชั่นไหนก็ตามมันทำให้เราคุยกันง่ายขึ้น แล้วก็เร็วขึ้น ซึ่งมันมีข้อดีข้อเสียต่างกันนะ เสน่ห์มันต่างกัน แบบอย่างยุคเก่า เขียนจดหมายก็อาจจะได้คุยกัน กว่าจะรอ จะนัดเจอ มันนาน ก็เลยจะตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เจอ ได้เปิดจดหมาย เพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะเขียนอะไร ขึ้นอยู่กับความชอบแล้วก็ยุคสมัยนะ แบบนั้นก็เหมาะกับ ณ ตอนนั้น ตอนนี้มีแอปพลิเคชั่น ก็ทำให้ใกล้ชิดมากขึ้น ไม่ใช่แค่การคุย แต่รู้สึกว่าการมีแอปพลิเคชั่นที่มันระบุตัวตน ที่เห็นไลฟ์สไตล์ เห็นการลงรูป มันทำให้เรารู้จักคนคนนั้นได้ดียิ่งขึ้น แล้วเรามีอะไรก็ติดต่อได้เลยทันที แต่ข้อเสียก็มี เบสิคมากก็คือ การที่เราคุยกันง่าย คุยกันมากเกินไป ก็อาจทำให้ความรักมันมา ๆ ไป ๆ เลิกกันง่าย”

พี่ไทม์เสริม “ปัจจุบันง่ายกว่าเยอะมาก เดี๋ยวนี้โทรศัพท์เครื่องเดียวทำได้หมดทุกอย่าง คิดถึงก็ส่งข้อความหรือโทรหาได้เลย แต่จดหมายต้องมานั่งลุ้นว่าเขาได้รับไหม ตอบกลับมาหรือยัง ส่งผิดบ้านหรือเปล่า คนเปิดจดหมายจะเป็นเขาหรือพ่อแม่”

ก่อนจะสรุปว่าแบบไหนยากกว่า หรือง่ายกว่ากัน เราได้ให้ทั้งพี่ไทม์และเอมมี่ได้ลองอ่านจดหมายรักฉบับจริงที่คุณพ่อกุดจี่และคุณแม่มะเหมี่ยวเขียนถึงกัน ก่อนจะลองเขียนจดหมายหากันครั้งแรก

จดหมายจากพี่ไทม์ถึงเอมมี่

จดหมายจากเอมมี่ถึงพี่ไทม์

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย สิ่งใหม่เกิดขึ้นทุกวัน สิ่งที่มีอยู่ก็เกิดการพัฒนาไปพร้อมกับอนาคตที่ไม่หยุดนิ่ง หรือบางอย่างที่หล่นหายไปพร้อมกับช่วงเวลาที่เลยผ่าน แต่สิ่งที่คงอยู่กับมนุษย์มาในทุกยุคก็คือ ความรัก
ในยุคที่ไม่มีสัญญานมือถือ ความรักสามารถผลิบานได้ด้วยกระดาษและปลายปากกา และในยุคแห่งเทคโนโลยีที่แอปพลิเคชันจะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงผู้คนได้มากมาย แต่สุดท้ายเราก็จะเจอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้เราเข้าใจคำว่ารัก         ดังนั้น หากเราเจอคนที่ทำให้นึกถึงทุกครั้งที่ฟังเพลงรัก หรือคนที่เป็นดั่งความหมายของหนังรักที่คุณกำลังอินแล้ว ก็อย่าปล่อยให้เขาผ่านไป จะจีบด้วยจดหมายรักหรือ ทักไปใน DM ถ้าโชคเข้าข้าง สุดท้ายเขาก็จะตอบกลับอย่างแน่นอน

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
3
Love รักเลย
0
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0

More in:Lifestyle

Lifestyle

อนาคตอยู่ในมือใคร

เรื่องและภาพประกอบ: ณฐนนท์ สายรัศมี เพราะกลัวว่าทางเลือกที่เลือกเองจะผิดไปเพราะสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเพราะอยากรู้ว่าชีวิตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรเพราะทนไม่ได้ที่จะไม่รู้ว่าปัญหาที่เผชิญอยู่จะจบลงแบบไหนและที่สำคัญ เพราะวุ่นวายกับคำถามว่าประสบความสำเร็จไหม ในโลกที่ทุกคนดูเหมือนจะทำทุกอย่างสำเร็จได้ง่ายๆเจนเนอเรชัน ‘เรา’ ซึ่งคุ้นเคยกับการประกาศตัวว่า ‘ไม่มีศาสนา’ และตั้งคำถามกับอะไรที่ ‘งมงาย’ เสมอจึงกลับกลายเป็นเจนที่พุ่งหาที่พึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการหยิบไพ่ดูดวง ลองเปิดแอปทำนาย หรือสวดมนต์ขอพร ...

Lifestyle

5 เพลงฮิตติดหู ที่สายมูต้องฟัง

เรื่อง : ฐิดาพร พิมพ์สีโคตร ภาพประกอบ : สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ รู้ไหมว่าเพลงเพราะๆ ที่ทุกคนฟังอยู่ อาจมีเรื่อง ‘มู’ ซ่อนอยู่เช่นกัน  วันนี้ผู้เขียนจะพาทุกคนไปเปิดเพลย์ลิสต์ 5 ...

Lifestyle

แฟชั่น + ความเชื่อ : เสื้อผ้าสีมงคลมาจากไหน

เรื่อง : เปรมชนก พฤกษ์พัฒนรักษ์ ภาพประกอบ : สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ เสื้อสีมงคลประจำวัน, สีผมมงคล, เล็บเจลสีมงคลตามวันเกิด หรือแม้แต่ชุดชั้นในสีมงคลกำลังที่นิยมต่อเนื่องกันมาในช่วงหลายปีหลังนี้ หลายคนเลือกใช้สีเหล่านี้เพื่อเสริมความมั่นใจผ่านแฟชั่น ผู้เขียนเองก็ใช้สีมงคลในวันสำคัญเพื่อเรียกขวัญกำลังใจเหมือนกัน แต่ก็แอบมีคำถามในใจว่า ...

Lifestyle

ปาจื่อ: เปิดรหัสลับแห่งโชคชะตาด้วยศาสตร์จีนโบราณ

เรื่อง: ณฐนนท์ สายรัศมี ภาพประกอบ: สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ เคยรู้สึกไหมว่าชีวิตของคุณถูกกำหนดไว้แล้ว? ทำไมบางคนเกิดมาพร้อมความโชคดี ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่บางคนต้องดิ้นรนอย่างหนัก แผ่นดินก็ไหวพร้อมกัน แต่ห้องเราพังห้องเดียว เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบุคลิก นิสัย ...

Lifestyle

เหตุผลของคนไม่มู

เรื่อง: อชิรญา ปินะสา ภาพประกอบ: สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ “เดี๋ยวย่าให้พ่อปู่คอยปกปักรักษาให้รอดพ้นจากเรื่องร้าย ๆ ภัยอันตรายนะลูก” คำพูดจากย่าในวันที่ฉันต้องจากบ้านมาไกลเพื่อมาเรียนต่อ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ย่าขอให้พ่อปู่คุ้มครองหรือช่วยเหลือ เพราะกระทั่งในวันที่ฉันต้องสอบขอทุนเพื่อเรียนต่อ ย่าก็ยังคงบอกกับฉันว่า “เดี๋ยวจะขอให้พ่อปู่ช่วย” ฉันโตมากับย่าที่เชื่อในสิ่งลี้ลับ เชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็นและพิสูจน์ไม่ได้ ...

Lifestyle

ไม่ยากถ้าอยากเลี้ยงกุมารทอง

เรื่อง: ภัชราพรรณ ภูเงิน ภาพประกอบ: สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ ไม่ต้องสิ้นเปลืองเวลาอุ้มท้อง ไม่ต้องสำรองค่ารักษาพยาบาล ‘กุมารทอง’ ทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับคนไทยไม่อยากมีลูก ในยุคที่ราคาทองพุ่งสูงปรี๊ดทะลุ 50,000 บาท จะซื้อติดตัวเอาไว้สักเส้นยังต้องคิดแล้วคิดอีก ใครที่ฝันจะแต่งงานสร้างครอบครัว อาจต้องพับเก็บไปก่อน เพราะแค่เลี้ยงตัวเองให้รอดก็แทบสิ้นลม ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save