FeaturesWritings

ความฝันราคาแพง หรือเพราะค่าแรงราคาถูก? นักศึกษาชาติพันธุ์กับความฝันที่มีรายได้เป็น ‘อุปสรรค’

เรื่อง : ปิยะวรรณ นาคะสิงห์

ภาพ: ด๊ะดา

ข้อมูล : ด๊ะดา และ กรวรรณ เพ็ชรสุภา

25 กันยายน ของทุกปีถือเป็นวันสำคัญของคนช่างฝัน นั่นก็คือ ‘วันฝันโลก’ วันที่คนทั่วโลกไม่ว่าจะเพศใด วัยใด ได้ระลึกถึงอิสรภาพในการฝัน แม้บรรทัดฐานทางสังคมอาจกำหนดอิสรภาพของวิถีชีวิต แต่มันจะไม่สามารถก้าวล่วงไปกำหนดความฝันของคุณได้

ทุกคนล้วนมีความฝันหรือเป้าหมายบางอย่างที่ตั้งใจจะทำให้สำเร็จ การฝันไม่มีต้นทุน จะเกิดมาร่ำรวยหรือทุกข์ยาก ความฝันก็คือสิ่งที่ทุกคนสามารถมีได้ แต่ไม่ใช่ทุกความฝันที่จะประสบความสำเร็จ แม้ความฝันจะทำได้ฟรีๆ แต่การบรรลุถึงความใฝ่ฝันแน่นอนว่าจะต้องพบอุปสรรคหลากหลายที่ประเดประดังเข้ามาทดสอบคุณในรูปแบบของการพิสูจน์ หรือการท้าทาย บางคนอาจจะสู้ต่อได้หากยังมีกำลัง แต่กับบางคน เมื่ออุปสรรคในการทำตามความฝันคือเรื่องของ ‘ต้นทุนชีวิต’ ที่ไม่เท่ากัน หลายคนอาจถอดใจจากความฝันและกลับมาสู่โลกความเป็นจริง

บางคนที่ฝันไกลถึงการเที่ยวรอบโลก ถึงแม้จะสู้จนเต็มกำลังก็อาจทำได้เพียงไปเที่ยวในกรุงเทพฯ สักครั้ง จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าในบางครั้ง การทำตามความฝันมีมูลค่าที่ต้องจ่าย มูลค่าในที่นี้อาจจะเป็นความอดทน ความพยายาม หรือแม้กระทั่งมูลค่าของ ‘เงินตรา’ ที่เป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ถึงฝั่งฝัน

หนึ่งในคนช่างฝันที่มาพร้อมเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายความฝันในวันฝันโลก คือนักศึกษาชาติพันธุ์ที่มีความฝันไม่ต่างจากเราทุกคน… ‘ด๊ะดา’ คือชื่อภาษาปกากญอ ของนักศึกษาชาติพันธุ์ ชั้นปีที่ 3 ที่ใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมง เดินทางจากหมู่บ้านปกากญอ ที่ตั้งอยู่บริเวณภูเขาสูงในอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อมาเรียนในคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง

เจ้าตัวให้ข้อมูลว่า ด๊ะดา แปลว่า ลูกคนเล็ก เธอถูกเรียกด้วยชื่อนี้เพราะเธอคือลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัวที่มีลูก 6 คน ด๊ะดาเป็นลูกคนเล็กของบ้านที่กำลังสู้เพื่อความฝันอันยิ่งใหญ่ โดยมีการมาเรียนเป็นใบเบิกทางในการทำตามความฝันที่จะเข้ารับราชการ เพื่อความมั่นคงชีวิตของตัวเองและครอบครัว ทั้งยังมีพ่อแม่และพี่ๆ ทั้ง 5 คน กำลังสนับสนุนให้ลูกคนเล็กของบ้านได้ไปถึงฝั่งฝันอย่างเต็มกำลัง

เส้นทางจากหมู่บ้านปกากญอ ที่ใช้เดินทางเข้าสู่ตัวเมือง

ความฝันในวัยเด็กของด๊ะดาคืออะไร ?

“ตอนเด็กๆ เราอยากเป็นดารา เป็นนักแสดง เพราะเราชอบดูหนัง เรารู้สึกว่าถ้าเราได้ไปอยู่หน้าจอทีวีคงจะเป็นอะไรที่ดีมาก แต่ในความเป็นจริงมันอาจจะยากมากเลย”

อะไรที่ทำให้คิดว่ามันยาก?

มันไม่ใกล้ความเป็นจริงเลย เราว่าการจะเป็นได้มันต้องมีทั้งความสามารถ มีต้นทุนสนับสนุน มองผิวเผินมันอาจจะเป็นง่ายนะ แต่ถ้ามองลึกลงไปในความเป็นจริง ทุกอย่างมันก็ต้องขับเคลื่อนด้วยเงินทั้งนั้น ถ้าบุคลิกไม่ได้เราก็ต้องไปซื้อคอร์สเสริมสร้างบุคลิกภาพอะไรประมาณนี้ เหมือนถ้าเราขาดในส่วนไหนเราก็ต้องใช้เงินไปซื้อส่วนนั้นเพื่อให้เราได้ครบองค์ประกอบ”

“ตอนเด็กๆ เราไม่มีทีวีหรอกนะ ไปดูบ้านร้านขายของ มันแพงมาก มันเป็นไปได้ยากในการที่จะซื้อทีวีมาเป็นของตนเอง ตอนเราเด็กๆ ค่าแรงพ่อแม่ยังอยู่ที่ 150 – 200 บาท อยู่เลย”

แล้วในตอนนี้ด๊ะดามีความฝันที่อยากทำให้สำเร็จไหม?

“ตอนนี้ถ้าเป็นฝันก็คือเรียนให้จบ มีงานมีการที่มั่นคงสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ เราตั้งใจจะสอบ ก.พ. ให้ผ่านและสอบใบประกอบวิชาชีพ เรามองถึงการเป็นข้าราชการ”

ทำไมต้องข้าราชการ?

“เรามองว่าเป็นอาชีพที่มั่นคงนะ มีสวัสดิการที่สามารถดูแลครอบครัวได้ สิทธิ์รักษาพยาบาลพ่อแม่ฟรี เราไม่มั่นใจหรอกนะว่าจะทำฝันนี้สำเร็จไหมเพราะในปัจจุบันการแข่งขันมันสูงมากๆ เลย”

คิดว่ารายได้ มีผลต่อความฝันไหม?

“มีผลมากๆ เลยค่ะ มันเลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดว่าปัจจุบันเงินคือปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต เราอยู่ในประเทศที่เป็นระบบทุนนิยม การที่เราไม่มีเงิน จากค่าแรงที่ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพ เป็นปัญหาในการใช้ชีวิตอย่างมากเลยค่ะ”

“ตอนนี้ค่าแรงพ่อแม่ขยับเป็น 300 บาทแล้ว เอาจริงๆ มันไม่พอหรอกค่ะ เพราะว่างานนี้ไม่ได้มีตลอด แต่ที่อยู่ได้เราว่าเป็นเพราะว่ามันไม่ค่อยได้ใช้เงินด้วยอยู่บนนั้น (ชุมชนปกากญอ) …อาหารเราก็สามารถไปหาเอาตามลำห้วยหรือไปหาเอาตามป่า ก็มีอาหารให้กินตลอด ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้เงินเลยเพราะพืชผักก็ปลูกเอง แต่ที่มันจะต้องใช้เงินมันจะต้องใช้เงินในการเรียนหนังสือนี่แหละ ส่งลูกเรียน”

“ถ้าเราคิดอยากจะพัฒนาคุณภาพชีวิตของเรา หรือก้าวไปข้างหน้ามันก็ต้องยอมแลกกับการที่เราจะต้องหางานหรือ ว่าเราจะต้องมีเงินในการที่เราจะไปถึงความฝันหรือการก้าวหน้าในชีวิตมันก็อาจจะอยู่ลำบากขึ้นเพราะว่าเรามีความต้องการที่ใหญ่ขึ้น”

ภาพการปลูกข้าว แสดงถึงการสมบูรณ์ของอาหารในหมู่บ้านปกากญอ

การได้มาเรียนคือความฝันไหม แล้วทำไมถึงเรียนด้านสังคมสงเคราะห์?

“การได้มาเรียนคือความฝันของเราเหมือนกัน เป็นความฝันมากๆ เลยแหละ เพราะเราคิดว่าถ้าได้เรียนสูงมันจะเป็นใบเบิกทางให้เราได้มีทางเลือกในชีวิตมากขึ้น”

“เหตุผลที่เราเรียนคณะนี้ เพราะเป็นคณะที่ให้โอกาสและเป็นคณะที่ช่วยเหลือผู้คนให้ผู้คนสามารถดำเนินชีวิตต่อในสังคมได้ด้วยตัวเอง เราอยากเป็นโอกาสดีๆ ให้กับคนอื่น เป็นสะพานให้คนอื่นได้มีชีวิตดีๆ ขึ้นเหมือนที่เราได้รับโอกาสดีๆ จากคนรอบข้างเยอะมาก ได้รับความรักได้รับการช่วยเหลือ เราจึงอยากที่จะให้ความช่วยเหลือนั้นไปสู่คนที่เขาต้องการในภายภาคหน้า”

สำหรับด๊ะดา อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในการทำตามความฝันในครั้งนี้

“เงินและวินัยค่ะ ในการสอบมันต้องมีค่าใช้จ่ายนู่นนั่นนี่เต็มไปหมด ปฏิเสธไม่ได้ว่าคือเงินค่ะ

ส่วนวินัย บางทีเราทำงาน Part Time มาเหนื่อยๆ บวกกับเรียน เราก็อยากพัก มันเลยทำให้เราไม่มีวินัยในการอ่านหนังสือ…แต่บางทีมันก็คือข้ออ้างค่ะ สุดท้ายแล้วถ้าเรามองว่าความฝันนั้นคือสิ่งที่สำคัญกับชีวิตเราจริงๆ เราเชื่อว่ามันเป็นไปได้หมดค่ะ มันไม่มีอะไรที่เป็นสิ่งที่ยากทั้งนั้น”

ข้อแนะนำสำหรับคนที่ยังไม่กล้าฝัน หรือกำลังเจออุปสรรคในการทำตามความฝัน

“เราอยากบอกคนที่ไม่กล้าฝันว่าฝันเถอะค่ะ ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ มันอยู่ที่ความคิดของเรา หากเราคิดและลงมือทำ ยอมเหนื่อยเพื่อฝันของเรา อดทนทำงานหรืออดทนต่อโชคชะตาที่ไม่ได้เข้าข้าง เราเชื่อค่ะว่าทุกอย่างมันเป็นไปได้เสมอ ถ้าได้ลงมือทำแล้ว จะออกมาดีหรือไม่ดี มันก็คือประสบการณ์ชีวิต ถ้าเรามัวแต่ฝันแล้วไม่กล้าลงมือทำ ชีวิตก็อยู่ที่เดิมค่ะ”

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
6
Love รักเลย
3
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0

More in:Features

Writings

ชายผู้สร้างถนนในบรรณพิภพ

เรื่อง : อารีย์วรรณ อมรเดชเทวินทร์  บทนำ “ขอถามได้ไหมคะว่าคุณน้าเป็นคนที่ไหน” “เป็นคนใต้ จังหวัดยะลา แต่ขึ้นมาอยู่กรุงเทพฯ นานจนกระทั่งคนอื่นเขาเข้าใจผิดกันหมดแล้วว่าเป็นคนกรุงเทพฯ” “พอได้ยินเสียงสำเนียงของคุณน้า ก็เลยคิดว่าอาจจะไม่ใช่คนกรุงเทพฯ ร้อยเปอร์เซ็นต์” “ยังติดสำเนียงใต้ใช่ไหม แล้วทองแดงออกเยอะไหมล่ะ ...

Writings

เมื่อคนฟังกลายเป็นคนพูด : เปิดใจ ‘คนรับเรื่องร้องทุกข์’ กับความสุขที่ได้ช่วยคน

เรื่องและภาพประกอบ: ทยาภา เจียรวาปี หากให้ทุกคนย้อนนึกถึงสถานที่วิ่งเล่นในวัยเด็ก เชื่อว่าสำหรับใครหลายๆ คน คงเป็นสนามเด็กเล่นในหมู่บ้าน หรือลานกีฬาในโรงเรียน แต่สำหรับฉัน ที่วิ่งเล่นตอนเด็กคือสถานที่ราชการขนาดกลางในซอยเล็กๆ บนถนนพระราม 6 อย่าง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ ...

Writings

ศิษยาภิบาล ผู้เลี้ยงแกะของพระเจ้า

เรื่อง : อารีย์วรรณ อมรเดชเทวินทร์ ภาพประกอบ : วรพร รุ่งวัฒนโสภณ และ สิทธิเดช สายพัทลุง การเรียนอยู่ในโรงเรียนคริสต์นิกายคาทอลิกตลอดระยะเวลา 6 ปี ทำให้ฉันมีโอกาสได้เข้าร่วมพิธีกรรมสำคัญทางศาสนาคริสต์อยู่บ่อยครั้ง ...

Writings

สงกรานต์ที่บ้าน (ไม่) เกิด : ชวนฟังความหมายวันสงกรานต์ผ่านสายตาคนไทยในต่างแดน

เรื่อง: ทยาภา เจียรวาปี และ พนิดา ช่างทอง ภาพประกอบ: พนิดา ช่างทอง ‘สงกรานต์’ เป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญของคนไทย เป็นช่วงเวลาที่หลายครอบครัวได้กลับมารวมตัวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เป็นห้วงเวลาที่สร้างความสุข เสียงหัวเราะ และรอยยิ้มให้กับใครหลายๆ ...

Writings

สงกรานต์ทั้งที ไม่มีความสงสัยบ้างไม่ได้หรอ?: เมื่อคำถามจากญาติในช่วงเทศกาลแห่งความสุขสร้างความทุกข์ให้ลูกหลาน

เรื่องและภาพประกอบ: ทยาภา เจียรวาปี หมายเหตุ: ประโยคคำถามในบทความชิ้นนี้ เป็นการรวบรวมจากประสบการณ์โดยตรงของผู้เขียน และคนรอบตัวของผู้เขียนเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ในสายตาผู้อ่าน ภาพวันสงกรานต์หน้าตาเป็นอย่างไร? เชื่อว่าสำหรับหลายๆ คน คงเห็นภาพการสาดน้ำดับร้อน ภาพความสุข รอยยิ้ม ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save