เรื่องและภาพ: เจตณัฐ พิริยะประดิษฐ์กุล

จากสถานการณ์น้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดปทุมธานีในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนสัญจรลำบาก จนบางส่วนต้องนำรถไปจอดบนถนนเพื่อป้องกันน้ำท่วมรถนั้น เมื่อวันที่ 10 กันยายน เสวก ประเสริฐสุข รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.) ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุหลักเกิดจากเครื่องสูบน้ำที่มีอยู่ใช้งานได้จริงเพียง 10 เครื่อง จากทั้งหมด 20 เครื่อง เพราะชำรุดเป็นจำนวนมาก จนระบายน้ำออกจากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ (คลองรังสิต) ลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไม่ทัน แม้ในปีที่ผ่านมา พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี ได้เจรจากับกรมชลประทานให้เร่งซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำแล้วแต่กลับไม่ได้รับการดำเนินการ
เสวก กล่าวว่า อีกสาเหตุที่น้ำท่วมหนักยังเกิดจากการที่หน่วยงานของจังหวัดนครนายกระบายน้ำลงคลองรังสิตโดยไม่แจ้งให้หน่วยงานของจังหวัดปทุมธานีทราบก่อน ทำให้เตรียมตัวรับมือไม่ทัน “โดยปกติแล้วน้ำจากหลายพื้นที่จะไหลมารวมกันที่คลองรังสิต แล้วจึงถูกระบายไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แต่พอเกิดเหตุพายุฝนรุนแรง เครื่องสูบน้ำที่ใช้งานได้เพียง 10 เครื่อง ก็ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน แล้วยังต้องรับน้ำที่ระบายมาจากนครนายก น้ำจึงท่วมสูงขึ้นไปอีก” เสวก กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน่วยงานราชการส่วนกลางอื่นๆ เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เข้ามาช่วยเหลือ โดยนำเครื่องสูบน้ำจากพื้นที่อื่นเข้ามาช่วยสูบ ทำให้มีเครื่องสูบน้ำที่ใช้งานได้ถึง 19 เครื่อง สถานการณ์น้ำท่วมจึงคลี่คลายลงอย่างรวดเร็ว
เสวก กล่าวต่อว่า จุดที่น้ำท่วมหนักสุดคือบริเวณหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี และศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต หากจะแก้ปัญหาในระยะยาวก็ต้องวางท่อระบายน้ำขนาดใหญ่เพื่อระบายลงคลองรังสิตให้ได้ทัน เพราะปัจจุบัน ท่อระบายน้ำที่ติดตั้งโดยแขวงทางหลวงปทุมธานีมีขนาดกว้างเพียง 1.2 เมตรเท่านั้น ต่างจากกรุงเทพมหานครที่มีอุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่ ทั้งนี้ก็ต้องได้รับความช่วยเหลือหรือความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นด้วย เนื่องจากแขวงทางหลวงมีงบประมาณช่วยเหลือไม่เพียงพอ
รองนายกอบจ. กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยปกติเมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมหนักแบบนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจะมีอำนาจสั่งปภ. หรือกรมชลประทานให้มาช่วยจัดการปัญหา แต่ขณะนี้ผู้ว่าฯกำลังป่วย ซึ่งทางเทศบาลก็มีอำนาจทำได้เพียงช่วยประชาชนนำกระสอบไปกันน้ำตามหมู่บ้านเพียงชั่วคราวเท่านั้น
ชญานินทร์ (สงวนนามสกุล) พนักงานในศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 กันยายน เวลา 19.15 น. กำลังรอรถโดยสารเพื่อกลับบ้านที่คลองห้า แต่รถโดยสารที่สามารถขับเข้ามาได้มีไม่เพียงพอกับปริมาณคนที่รอ นอกจากพนักงานของศูนย์การค้าและพนักงานจัดคิวรถแล้ว ก็ไม่เห็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานรัฐมาอำนวยความสะดวกให้เลย จนในที่สุดก็ได้ขึ้นรถเมื่อเวลา 22:35 น. “ยังดีที่คืนนั้นขสมก. ให้บริการฟรี และประชาชนที่มีญาติขับรถกระบะมารับก็ให้ผู้อื่นอาศัยติดรถกลับด้วย ไม่มีทหาร ไม่มีตำรวจ ไม่มีนักการเมือง มีแต่ประชาชนช่วยกันเอง” ชญานินทร์ กล่าว