SocietyWritings

จิตวิญญาณธรรมศาสตร์ในวันที่กาลเวลาเปลี่ยน

เรื่องและภาพ: ภัชราพรรณ ภูเงิน

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่แต่เดิมคือ ‘มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง’ มีหนึ่งในผู้ก่อตั้ง คือ ศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ ผู้เชื่อมั่นว่าประชาธิปไตยจะหยั่งรากลึกในสังคมไทยได้ก็ต่อเมื่อประชาชนมีความรู้และความเข้าใจในเรื่องกฎหมาย การปกครอง และสังคม เขาจึงก่อตั้งสถาบันแห่งนี้ขึ้นในปี 2477 เพื่อเป็น ‘มหาวิทยาลัยของประชาชน’ มหาวิทยาลัยที่ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับความหวังว่าจะเป็นรากฐานของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่งเริ่มเบ่งบานในสังคมไทยหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475

แต่เมื่อเกิดการรัฐประหารขึ้นในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2490 เจตจำนงที่เคยถูกวางไว้เมื่อเริ่มก่อตั้งมหาวิทยาลัยก็ถูกเหมือนว่าจะถูกกลืนหายไปพร้อมกับการมาถึงของอำนาจเผด็จการ อาจารย์ปรีดีต้องลี้ภัยทางการเมืองไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนชื่อของมหาวิทยาลัยก็ถูกตัดคำว่า ‘วิชา’ และ ‘การเมือง’ ออกไป เหลือเพียง ‘มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์’

ผ่านไปแล้วกว่า 52 ปีที่เสียงปืนดังสนั่นเมืองและจางหายไปจากบริเวณพระบรมมหาราชวังและถนนราชดำเนินในเหตุการณ์วันที่ 14 ตุลาคม 2516 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยในฐานะสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อเสรีภาพของประชาชน

ธรรมศาสตร์ในวันนั้น ที่เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ เป็นศูนย์รวมของแกนนำนิสิตนักศึกษา และประชาชน ในการชุมนุมประท้วง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวกลุ่มผู้แจกใบปลิวเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ที่ถูกจับกุมทั้งหมดโดยปราศจากเงื่อนไข ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย สิทธิ และเสรีภาพอย่างเข้มแข็ง

แต่เมื่อเวลาผ่านไป จิตวิญญาณอันเข้มข้นของธรรมศาสตร์จะยังคงเดิมหรือไม่? นั่นเป็นคำถามสำคัญที่ต้องส่งต่อให้กับนักศึกษาในรุ่นปัจจุบัน เพื่อหาคำตอบว่า แท้จริงแล้ว ‘จิตวิญญาณธรรมศาสตร์’ สำหรับพวกเขาคืออะไรกันแน่? ยังเป็นพลังที่ผลักให้ลุกขึ้นสู้เพื่อความเท่าเทียมและความยุติธรรมเหมือนในวันนั้น หรือกลายเป็นเพียงสิ่งที่ค่อยๆ เลือนหายไปพร้อมกาลเวลา?

Varasarn Press ชวนทุกคนไปพูดคุยกับนักศึกษาปัจจุบันผ่านคำถามที่ว่า ‘จิตวิญญาณธรรมศาสตร์ในมุมมองของคุณคืออะไร’ และ ‘คิดเห็นอย่างไรกับจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ของนักศึกษาในยุคปัจจุบัน’

พัท / ปี 4 / คณะรัฐศาสตร์ สาขาการเมืองการปกครอง 

จิตวิญญาณธรรมศาสตร์ มันคือการที่เราไม่ละเลยสิ่งรอบข้าง ตามสโลแกน ‘ธรรมศาสตร์สอนให้รักประชาชน’ คือสอนให้เราไม่ลืมสถานะของตัวเอง สอนให้เราไม่ละทิ้งผู้คนหรือสถานการณ์รอบข้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันถูกถ่ายทอดไปยังนักศึกษาธรรมศาสตร์ผ่านวิชาเรียน เช่น TU101 TU102

รู้สึกว่าจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองอย่างเดียว แต่มันคือหลายๆ เรื่องรวมกัน เช่น การเมือง ศิลปะ สังคม ธุรกิจ หรือวิทยาศาสตร์ แก่นของมันคือการที่เราเรียนรู้ ได้รับความรู้ แล้วนำความรู้นั้นไปช่วยเหลือคนอื่น

ถ้าให้พูดถึงจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ของนักศึกษาในปัจจุบัน เรารู้สึกว่าในแต่ละศูนย์ของธรรมศาสตร์ไม่เหมือนกัน เราคิดว่ามันขึ้นอยู่กับอาจารย์ที่สอนในวิชา TU ด้วย ว่าจะสามารถถ่ายทอดจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ไปยังนักศึกษาได้มากน้อยแค่ไหน 

และสุดท้าย จิตวิญญาณธรรมศาสตร์มันค่อยๆ จางหายไป เพราะว่าตัวเด็กเองให้ความสำคัญกับตัวเองเป็นหลัก และไม่ได้สนใจคนรอบข้างมากขนาดนั้นแล้ว นอกจากนี้ยังสังเกตได้จากการลงชื่อต่างๆ ในมหาวิทยาลัยที่เริ่มน้อยลง ทั้งที่มันเป็นสิทธิและเสรีภาพของตัวเองที่ควรต้องใช้ รักษา และปกป้องไว้

เนเน่ / ปี / คณะนิติศาสตร์

ในมุมมองของเรา เราคิดว่าจิตวิญญาณของธรรมศาสตร์คือแนวคิด ความกล้าที่จะยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะว่าการเรียนในรั้วธรรมศาสตร์สอนให้เรากล้าที่จะตั้งคำถาม กล้าที่จะยึดมั่นในอุดมการณ์ของเรา ต่อให้สิ่งนั้นจะไม่ใช่สิ่งที่คนส่วนใหญ่เห็นด้วย เพราะสุดท้ายแล้วเราก็มีเสรีภาพที่จะคิด ที่จะทำ และที่จะเชื่อต่างกันอยู่แล้ว เรื่องพวกนี้มันไม่ได้อยู่ที่สีเสื้อหรือชื่อสถาบันเลย ความกล้าที่จะแตกต่างคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นธรรมศาสตร์ได้จริงๆ

ด้วยความที่ธรรมศาสตร์เองก็อยู่คู่กับการเมืองไทยมานาน หลายๆ คนในสังคมก็ยังคงให้ธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยด้านสังคมศาสตร์อันดับ 1 ของไทย แต่ความตระหนักรู้ในเรื่องใกล้ตัว อย่างเรื่องการเมืองของนักศึกษาหลายๆ คนกลับยังไม่ค่อยจะมีกัน ลองถามเรื่องรัฐธรรมนูญกับคน 10 คน คงทำหน้างงกันไปแล้ว 8 คน จะบอกว่าธรรมศาสตร์พังแน่ ก็คงไม่แปลก คำว่าจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ที่ใช้กันเดี๋ยวนี้ ก็คงเป็นได้แค่คำสวยหรูที่เอาไว้หลอกคนนอกมหาวิทยาลัยเพียงเท่านั้น

มาร์ค / ปี 4 / คณะนิติศาสตร์ 

จิตวิญญาณของธรรมศาสตร์ ณ ตอนนี้ ‘เอาจริงๆ ไม่มี’ ก่อนที่จะเข้ามาเรียนที่นี่ เรามองเห็นว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ มันมีภาพจำเกี่ยวกับการเรียกร้องหรือความเป็นนักกิจกรรม มีคนบอกว่าเด็กที่เข้ามาเรียนธรรมศาสตร์หัวรุนแรง แต่เราไม่ได้มองแบบนั้น เรามองว่าเขามีความคิดเป็นของตัวเอง ทุกคนมีความคิดเห็น หรือความคิดความอ่านเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ในลักษณะที่เรามองว่าควรจะเป็น ทุกคนยอมรับความหลากหลายและสนับสนุนความเท่าเทียม ทั้งในแง่การเมืองหรือไม่ก็ตาม

ย้อนกลับไปที่คำถามว่า จิตวิญญาณธรรมศาสตร์ในมุมมองของเราคืออะไร เรายังคงมองว่าธรรมศาสตร์ที่เราเคยมองคือมหาวิทยาลัยที่นักศึกษามีความเป็นนักเรียกร้องในตัวไม่มากก็น้อย ไม่ยอมแพ้ต่อความเหลื่อมล้ำ ไม่ยอมแพ้ต่อความอยุติธรรม แต่ ณ ตอนนี้ เรามองไม่เห็นจิตวิญญาณของธรรมศาสตร์จากตัวนักศึกษาเลย เรามองไม่เห็นด้วยซ้ำว่า เด็กธรรมศาสตร์ ณ ตอนนี้ มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชน หรือการเรียกร้องเกี่ยวกับประชาธิปไตยจากสังคม

จิตวิญญาณธรรมศาสตร์ในตอนที่เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา ที่เราเคยยึดมั่น เคยชื่นชม มันตายไปนานแล้ว ตอนนี้ธรรมศาสตร์ก็เหลือแค่ชื่อมหาวิทยาลัยกับเกียรติภูมิที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งก็เท่านั้น

กฤต / ปี 2 / คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาประวัติศาสตร์

คำว่าจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ เป็นคำที่มีความผูกพันกับมหาวิทยาลัย คำนี้จากเดิมในบริบทประวัติศาสตร์ มันถูกให้ความหมายมาแบบหนึ่ง แต่กลับถูกนำไปใช้ในอีกแบบหนึ่ง ซึ่งคือการเอาไปใช้ทางการเมือง และเอาไปโฆษณาเป็น Propaganda (การโฆษณาชวนเชื่อ) ของมหาวิทยาลัย ผมรู้สึกว่า คำนี้มันจะมีผลก็ต่อเมื่อถูกเอามาใช้เป็นผลประโยชน์ทางการเมืองของเเต่ละฝ่าย

คำว่าจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ สำหรับผมมันจบไปตั้งนานแล้ว มันเป็นคำที่ถูกเอามาใช้แล้ว ‘ค่อนข้างลอย’ ไม่มีอะไรมารองรับ จนนำไปสู่การตั้งคำถามที่ว่า สรุปแล้วจิตวิญญาณธรรมศาสตร์คืออะไร คือการรักประชาธิปไตยหรือ แล้วการรักประชาธิปไตย คือรักอะไร 

สำหรับผมที่ยังเป็นนักศึกษา ถ้าถามว่า จิตวิญญาณของนักศึกษาธรรมศาสตร์ในยุคนี้ยังมีไหม ถ้าเรามองว่าจิตวิญญาณธรรมศาสตร์หมายถึงการรักประชาธิปไตย รักสิทธิและเสรีภาพ ผมเชื่อว่าหลายคนยังมีอยู่ (เเต่ก็ไม่เหมือนกันเเละเเตกต่างหลากหลายตามที่จะนิยาม) โดยการมีอยู่ของมันก็ไม่ได้เป็นการมีอยู่ที่วัดได้ว่ามีความหวังขนาดนั้น 

ติวเตอร์ / ปี 4 / คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาฟิสิกส์ 

ถ้าพูดถึงจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ หลายคนก็มีมุมมองและนิยามที่แตกต่างกัน เพราะมันเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงมานาน เรามีการใช้คำว่าจิตวิญญาณธรรมศาสตร์มาตั้งแต่ยุค 14 ตุลา ในมุมมองของเรา มันคือจิตวิญญาณของการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม ต่อสู้เพื่อเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชน ประชาราษฎร์ และสิ่งที่เราถูกเน้นย้ำมาตลอด เลยคือการต่อสู้กับเผด็จการและอำนาจที่ไม่เป็นธรรม

ถ้าพูดถึงเรื่องจิตวิญญาณของนักศึกษาในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าบาร์ในการต่อสู้ในยุคนี้จะไม่สูงเท่าในอดีตแล้ว ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่าง แต่เราก็ยังเชื่อว่าจิตวิญญาณแห่งธรรมศาสตร์ มันยังคงมีอยู่ในตัวนักศึกษา เพียงแต่ ณ ปัจจุบัน มันไม่ได้มีไฟที่รุนแรง ยังไม่มีความโกรธหรือความรู้สึกไม่เป็นธรรมมากเท่าช่วงปี 63-65 เท่านั้นเอง

การแสดงออกอาจแปรเปลี่ยนไปอยู่ในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่การประท้วง เช่น การเรียกร้อง มีนักศึกษาหลายคนที่ยังคงติดตามข่าวหรือออกมาพูดเรื่องรัฐธรรมนูญอยู่ แต่อาจไม่ได้ออกมาพูดในวงกว้างเหมือนในอดีต ส่วนมากจะเป็นการพูดคุยในวงเพื่อน

สาเหตุที่ในยุคก่อนหน้านี้เด็กธรรมศาสตร์มีความรู้สึกร่วมมาก และมีการแสดงออกหลายอย่างที่สามารถกล่าวได้ว่ามันเป็นการแสดงออกถึงความเป็นจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ เพราะว่ามันมีปัจจัยทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง มันมีแกนนำม็อบหลายคนที่เป็นคนของธรรมศาสตร์ การที่กลุ่มคนพวกนี้ออกไปแสดงออกทางการเมือง มันเป็นการนำทางให้คนอื่นอยากออกตามไปด้วย แต่ในยุคนี้ที่ไม่ค่อยมีแกนนำออกมาขับเคลื่อนหรือเรียกร้องแล้ว ทำให้ไม่มีปัจจัยอะไร ที่จะนำพาให้คนอื่นๆ ออกมาแสดงออกเหมือนในยุค 63-65 

ไม้โมก / ปี / คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา

จิตวิญญาณธรรมศาสตร์ พื้นฐานเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองและสังคม ซึ่งหมายถึงการตื่นตัวเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองที่กดทับเราอยู่ และการพยายามส่งเสียงเพื่อเรียกร้องในสิ่งที่เราต้องการอย่างเสรีภาพและประชาธิปไตย ที่สะท้อนได้ผ่านการใส่ใจสังคม แต่ก็จะมีคนบางกลุ่มที่มองว่า จิตวิญญาณธรรมศาสตร์เป็นโฆษณาชวนเชื่อที่กลวงเปล่าและไม่มีอยู่จริง ซึ่งผมคิดว่ามันก็ไม่ได้ผิด 

นักศึกษาไม่ได้มาเรียนธรรมศาสตร์เพียงเพื่อเรียนรู้ทางด้านวิชาการอย่างเดียว แต่มาเพื่อเรียนรู้ที่จะรักและใส่ใจคนอื่นด้วย ผมจึงเชื่อว่าจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ของนักศึกษาในปัจจุบันไม่ได้หายไป แต่มันถูกทำให้หลับอยู่ด้วยแรงกดดันและปัจจัยหลายๆ อย่าง อาจเป็นสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงการจัดการต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัยด้วย

แต่ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ผมรู้สึกว่าคนสนใจการเมืองมากขึ้น เพียงแต่เพดานไม่ได้สูง เขาพร้อมจะเป็นผู้รับสารที่ดี แต่ไม่ได้มีความคิดว่าจะต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง


คงเป็นคำถามสำคัญและท้าทายอย่างยิ่งว่าธรรมศาสตร์และการเมืองในวันนี้ ยังคงสานต่อเจตนารมณ์แรกเริ่มเมื่อคราวก่อตั้ง และยืนหยัดในอุดมการณ์ประชาธิปไตยเหมือนดังอดีตอยู่หรือไม่

หรือจะเป็นเพียงการยังคงยึดติดอยู่กับชื่อเสียง ความดี และความยิ่งใหญ่ในอดีต เพื่อรักษาความภาคภูมิใจในการเป็นธรรมศาสตร์และการเมือง ที่อยู่ในความทรงจำของสาธารณชนเอาไว้ แต่ในความเป็นจริง กลับไม่เห็นรูปธรรมที่ชัดเจนในการสืบสานหรือรักษาอุดมการณ์นั้นจริงๆ อย่างน้อยก็จากทัศนะของนักศึกษาปัจจุบันกลุ่มหนึ่ง

หากธรรมศาสตร์ยังเอาแต่พูดถึง ‘จิตวิญญาณธรรมศาสตร์’ ในอดีต โดยไม่พยายามปลูกฝังและส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าใจและรู้สึกถึงมันด้วยใจจริง วันหนึ่ง ‘ธรรมศาสตร์’ อาจเหลือเพียงชื่อที่เคยเป็นความภาคภูมิใจของคนรุ่นก่อน ขณะที่ในสายตาของคนรุ่นใหม่ มันอาจไม่เหลือความหมายที่ลึกซึ้งเหมือนเดิม


รายการอ้างอิง

Thai PBS Digital Media. (2566). เปิดลำดับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ 14 ตุลา 2516. วันที่สืบค้น 11 ตุลาคม 2568. https://www.thaipbs.or.th/now/content/410

กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม. (2568). 26 กุมภาพันธ์ 2492: ปรีดีกับพวกใช้กำลังหวังยึดอำนาจจากคณะปฏิวัติ แต่เหลว ตกเป็นกบฏ. วันที่สืบค้น 11 ตุลาคม 2568. https://www.silpa-mag.com/this-day-in-history/article_1778

โรม บุนนาค. (2561). “มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง” ตัด “การเมือง” ออกจากชื่อ แต่ก็ตัดออกจากจิตวิญญาณไม่ได้. วันที่สืบค้น 11 ตุลาคม 2568. https://mgronline.com/onlinesection/detail/9610000064600

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
0
Love รักเลย
0
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0

More in:Society

Writings

Run2Free: Run for Rights

เรื่องและภาพประกอบ: สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ ปล่อยเพื่อนเรา “ปล่อยเพื่อนเรา” เสียงร้องกึกก้องของพี่น้องประชาชนอาจจะดังจนผ่านหูคุณมาบ้าง แต่ดูเหมือนยังดังไม่มากพอที่จะไปไกลจนเข้าหูของคนมีอำนาจ เพราะ ‘เพื่อน’ กว่า 57 ชีวิต ยังคงถูกจองจำ เพียงเพราะเลือกที่จะแสดงออกทางความคิดและใช้สิทธิเสรีภาพของพวกเขาภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอย่างชอบธรรม ทว่าไม่ถูกใจใครบางคน ...

Writings

Work & Travel: ประสบการณ์ที่ได้… ความปลอดภัยที่หาย?

เรื่อง: แพรพิไล เนตรงาม ภาพประกอบ: ฐิดาพร พิมพ์สีโคตร เอิร์น นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการ Work & Travel 2025 ประสบอุบัติเหตุระหว่างเดินทางไปทำงานจนถึงแก่ชีวิตระหว่างเข้าร่วมโครงการ ณ ...

Writings

ความอ่อนแอที่ต้องซ่อน: สุขภาพจิตชายไทยในกรอบค่านิยมทางเพศ

เรื่อง : ศิวะ พุ่มอรุณ ภาพประกอบ : เก็จมณี ทุมมา แม้ว่าสังคมในยุคปัจจุบันพยายามจะสร้างความเท่าเทียมทางเพศ พยายามจะสร้างโลกในอุดมคติที่ว่าผู้ชายกับผู้หญิงเท่าเทียมกันทุกอย่าง พยายามจะสร้างโอกาสที่มากขึ้นและเท่าเทียมต่อผู้หญิง ในขณะเดียวกันก็พยายามเปิดโอกาสให้ผู้ชายมีมุมที่อ่อนแอบ้าง อย่างไรก็ตาม ในหลาย ๆ ...

Writings

ความทรงจำฉันสั้น แต่รัฐฉัน(อยู่)ยาว : เมื่อประวัติศาสตร์ถูกเขียนด้วยปากกาของรัฐ

เรื่อง : พิชญา ณ วาโย ภาพประกอบ : เก็จมณี ทุมมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เมื่อเราเผชิญหน้ากับอดีตที่ไม่พึงใจ หลายครั้งเรามักพยายามลบมันออกจากความทรงจำราวกับว่าไม่เคยมีอยู่จริง แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า “การลบทิ้ง” ...

Society

เรื่องจริงของ Sex Worker ในสังคมที่ไม่เข้าใจ

เรื่อง: แพรพิไล เนตรงาม ภาพประกอบ: สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ ‘Sex Worker’ อาชีพใต้เงากฎหมายที่เห็นกันมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นอาชีพที่ทำมากกว่าแค่ ‘เรื่องบนเตียง’ และสมควรได้รับการให้เกียรติและมีศักดิ์ศรีในฐานะ ‘อาชีพสุจริต’ เช่นเดียวกับอาชีพอื่น  วันนี้ ...

Writings

คนสั่งไม่รู้ แต่คนรู้ต้องทำตาม : นโยบายห้ามเผาที่ไม่ตอบโจทย์ปัญหาฝุ่น PM 2.5

เรื่อง : สุชานันท์ สหวงศ์เจริญ ภาพประกอบ : เก็จมณี ทุมมา “ไฟป่าไม่ได้คร่าเพียงแค่ผืนป่า แต่ยังคร่าชีวิตผู้พิทักษ์ฯ ของเราไปด้วย” คำอุทิศจากบุคลากรของอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกถึงเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่พลัดหลงจากกลุ่ม หลังภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่ป่าทางทิศตะวันออกของบ้านห้วยมะยม ตำบลเวียง อำเภอฝาง ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save