News

นักศึกษาฝึกงานสื่อบันเทิงโวย ทำงานหนักแต่ไร้ค่าตอบแทน จนท.กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานแนะหากมีหลักฐานฟ้องได้

เขียน: เปรมชนก พฤกษ์พัฒนรักษ์

ภาพประกอบ: อชิรญา ปินะสา

นักศึกษาฝึกงานสื่อบันเทิงโวย หลังทำงานเทียบเท่าพนักงานแต่ไร้ค่าตอบแทน เจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานแนะ หากทำงานเกินข้อตกลงจริง สามารถฟ้องศาลแรงงานได้

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน เอ (นามสมมติ) นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ได้เข้าฝึกงานที่สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ในเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม 2568 โดยมีหน้าที่คิดเนื้อหาวิดีโอ เขียนบทรายการ ตัดต่อวิดีโอ และสร้างสื่อออนไลน์เต็มรูปแบบ ต่างจากที่ตกลงกันกับหัวหน้างานในตอนแรก โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนหรือสวัสดิการพื้นฐาน “ถึงจะคุ้มในแง่ประสบการณ์ แต่รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม เพราะทำงานเหมือนพนักงานจริงทุกอย่าง ใช้แรงงานและความคิดเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้กับบริษัท แต่ไม่ได้เงินตอบแทนหรือสวัสดิการใดๆ”

เอกล่าวว่า นอกจากหน้าที่หลักที่ระบุไว้ในรายละเอียดการฝึกงาน (Job Description) นั่นคือคิดเนื้อหาสำหรับเล่มเกมในรายการ เขียนคอนเทนต์ข่าวบันเทิง ตัดต่อคลิปวิดีโอ และดูแลการถ่ายทอดสด ยังมีงานอื่นๆ ที่มากกว่าที่ระบุไว้ นั่นคือการตัดต่อกราฟิกต่างๆ เช่น ข่าว อินโฟกราฟิก รวมถึงคิดและถ่ายทำคอนเทนต์อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเกมในรายการ และต้องเข้าร่วมงานอีเวนต์กว่า 10 งาน เพื่อเก็บภาพและวิดีโอด้วยตนเอง แม้จะทราบตั้งแต่ก่อนเริ่มฝึกว่าจะไม่ได้รับค่าตอบแทน แต่งานมีหน้าที่รับผิดชอบมากกว่าที่ระบุไว้ และยังไม่มีสวัสดิการพื้นฐาน เช่น ค่าเดินทางในกรณีทำงานนอกสถานที่ ค่าล่วงเวลา โดยเธอต้องรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนตัวเฉลี่ยวันละ 150 บาท สำหรับค่าเดินทาง รวมถึงต้องจ่ายค่าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ CapCut Pro ด้วยตนเองเพื่อใช้ในการทำงาน เดือนละ 300 บาท

เอเสนอว่า ผู้ประกอบการควรให้ค่าตอบแทนจากผลงานที่สร้างรายได้ให้บริษัทจริง เพื่อให้สอดคล้องกับแรงงานที่ลงแรงและความคิดสร้างสรรค์ที่นักศึกษามอบให้ “ที่นี่ไม่ได้สอนทุกอย่าง เราต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง และผลงานที่เราทำก็สร้างผลประโยชน์ให้บริษัท ดังนั้นควรกำหนดค่าตอบแทนขั้นต่ำสำหรับนักศึกษา”

เอกล่าวเพิ่มเติมว่า การฝึกงานครั้งนี้ให้ประสบการณ์ตรงในสายอาชีพ แต่ไม่ยุติธรรมที่ไม่มีค่าตอบแทน ทั้งที่ภาระงานใกล้เคียงกับพนักงานจริง เพราะไม่มีระบบกำกับดูแลที่ชัดเจน ทำให้หลายงานต้องรับผิดชอบงานแทนพนักงานประจำ จึงเสนอให้หน่วยงานภาครัฐและมหาวิทยาลัยกำหนดแนวทางหรือข้อบังคับค่าตอบแทนขั้นต่ำสำหรับนักศึกษาฝึกงาน รวมถึงพิจารณาจัดตั้งกองทุนฝึกงาน เพื่อช่วยเหลือนักศึกษาที่ไม่มีรายได้ระหว่างการฝึก และเสนอให้มีระบบประเมินผลการฝึกงานที่รวมถึงสวัสดิการพื้นฐาน เช่น ค่าเดินทางหรือค่าอาหาร

ปวีณา ภูมิศรี นักวิชาการแรงงานปฏิบัติการ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ให้สัมภาษณ์กรณีการได้รับค่าตอบแทนของนักศึกษาฝึกงานว่า ปัจจุบันนักศึกษาฝึกงานไม่ได้อยู่ในฐานะลูกจ้างตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เนื่องจากการฝึกงานถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงทางการศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยกับสถานประกอบการ อย่างไรก็ตาม หากลักษณะการทำงานของนักศึกษาฝึกงานเข้าข่ายเหมือนลูกจ้างจริง เช่น มีการมอบหมายงานประจำ ต้องปฏิบัติตามเวลาทำงาน มีผู้บังคับบัญชา หรือรับผิดชอบงานแทนพนักงาน บริษัทอาจถือว่ามีการจ้างแรงงานโดยพฤตินัย และนักศึกษาสามารถยื่นคำร้องต่อสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานประจำพื้นที่ได้โดยตรง หากพิจารณาแล้วพบว่ามีลักษณะเป็นการจ้างงาน ศาลแรงงานสามารถมีคำพิพากษาให้ถือเป็นลูกจ้างตามกฎหมาย และให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างหรือค่าชดเชยได้เช่นเดียวกับพนักงานทั่วไป “ต้องดูข้อเท็จจริงของแต่ละกรณี หากพิสูจน์ได้ว่ามีการใช้งานในลักษณะลูกจ้าง นักศึกษาก็สามารถยื่นคำร้องหรือฟ้องศาลแรงงานเพื่อขอรับสิทธิคุ้มครองได้ในฐานะลูกจ้างคนหนึ่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ”

ในกรณีของเอดังกล่าว ปวีณาแนะแนวทางว่าหากมีหลักฐานที่แน่ชัดว่าผู้ประกอบการใช้งานนักศึกษาในลักษณะเดียวกับลูกจ้างจริง นักศึกษาสามารถยื่นฟ้องต่อศาลแรงงาน และศาลอาจมีคำวินิจฉัยเบื้องต้นว่าเอถือเป็นลูกจ้างคนหนึ่งตามกฎหมาย และอาจฟ้องเอาเงินจากผู้ประกอบการได้ในเวลาต่อมา ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล

ปวีณากล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายเฉพาะที่กำหนดมาตรฐานค่าตอบแทนหรือสวัสดิการสำหรับนักศึกษาฝึกงานโดยตรง เนื่องจากอยู่ภายใต้การกำกับของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ซึ่งโดยมากแต่ละสถาบันจะทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับสถานประกอบการเอง “โดยทั่วไป มหาวิทยาลัยจะทำข้อตกลงกับสถานประกอบการไว้แล้ว เช่น เรื่องระยะเวลา หน้าที่ และการดูแลนักศึกษา หากมีปัญหาการใช้งานเกินขอบเขตการฝึก นักศึกษาสามารถแจ้งคณะหรืออาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อประสานเปลี่ยนสถานที่ฝึกงานได้”

ความรู้สึกของคุณหลังอ่านบทความนี้เป็นอย่างไร ?

Like ถูกใจ
0
Love รักเลย
0
Haha ตลก
0
Sad เศร้า
0
Angry โกรธ
0

More in:News

News

รองอธิการบดี มธ. ยืนยันไม่เคยขู่ตัดน้ำ-ไฟงานเฟรชชี่เกมส์ แจงเป็นเพียงแนวทางหารือร่วมกับนักศึกษา

เขียน: เปรมชนก พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มธ. เผย ไม่เคยขู่ตัดน้ำ-ไฟงานเฟรชชี่เกมส์ แต่เป็นหนึ่งในแนวทางปรับเปลี่ยนงานจากการหารือกับนักศึกษา ซึ่งภายหลังให้จัดงานได้ แต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบตามแนวทางการไว้อาลัยจากมติครม. เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ...

News

ชาวบ้านใกล้ มธ. รังสิต ร้องนักศึกษาเมาส่งเสียงดัง ด้านผอ.กองกิจฯ ยัน หากมีหลักฐานจะดำเนินการตามระเบียบ

เขียน: เปรมชนก พฤกษ์พัฒนรักษ์ ชาวบ้านชุมชนคุ้งผ้าพับร้องนักศึกษา มธ. ส่งเสียงดังรบกวนจากอาการมึนเมา ด้าน ผอ. กองกิจการนักศึกษา มธ. เผยหากมีหลักฐานว่าเป็นนักศึกษา มธ. จริง จะดำเนินการตามระเบียบ เมื่อวันที่ ...

News

นักวิชาการชี้งานดัดแปลงคือผลงานใหม่ แต่อยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าของต้นฉบับ แนะเคารพสิทธิ์เพื่อลดปัญหา

เขียน: ภัชราพรรณ ภูเงิน นักวิชาการชี้แม้งานดัดแปลงหนังสือจะได้รับการคุ้มครองในฐานะผลงานใหม่ แต่อยู่ภายใต้การควบคุมจากเจ้าของต้นฉบับ แนะบุคคลที่เกี่ยวข้องควรรู้และเคารพสิทธิ์ของตนเองและผู้อื่น จึงจะลดปัญหาได้ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในงานเสวนาวิชาการหัวข้อ ‘สิทธิผู้เขียน ...

News

ร้านค้ามธ.ยอดขายพุ่งหลังคนละครึ่งวันแรก ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น แต่อาจกระตุ้นเศรษฐกิจได้สั้นๆ แนะระยะยาวควรสร้างอาชีพ

เขียน: กวินทัต สวัสดิ์นพรัตน์ ร้านค้ามธ.ชี้คนละครึ่งช่วยเพิ่มยอดขายร้านค้า เหตุลูกค้ามีกำลังซื้อมากขึ้น เพราะรัฐบาลช่วยจ่ายให้ประชาชน แนะโครงการเหมาะสำหรับกระตุ้นระยะสั้น แต่ระยะยาวควรสร้างงานที่มั่นคงมากกว่าการแจกเงินประชาชน จำเริญ จันทร์ประภา ผู้ขายผลไม้ในโรงอาหารกรีนแคนทีน มธ.กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งพลัสที่เปิดให้ประชาชนใช้บริการเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ...

News

อาจารย์คณะวิทย์ฯ มธ. ชี้กรีนซีเกมส์เป็นเรื่องยาก เหตุจัดหลายจังหวัด แนะมาตรการวัดผลการลดค่าคาร์บอนต้องชัดเจน

เขียน: ฐิดาพร พิมพ์สีโคตร อาจารย์คณะวิทย์ฯ มธ. ชี้กรีนซีเกมส์เป็นไปได้แต่ยาก เหตุการจัดแข่งกีฬาใช้พื้นที่หลายจังหวัดทำให้ควบคุมการจัดการยาก แนะหากต้องการลดค่าคาร์บอนควรกำหนดการวัดผลร่วมกัน 4 มิติ ทั้งด้านพลังงาน การเดินทาง การจัดการของเสีย และการชดเชยคาร์บอน เมื่อวันที่ ...

News

จิตแพทย์ และนักวิชาการเครือข่ายโครงการอะเวค1525 ชี้ วัยรุ่นยุคใหม่สื่อสารเร็วแต่ขาดการเชื่อมต่อในใจ เปิดเวทีเสวนาชวนวัยรุ่นกลับมาเข้าใจตัวเองอีกครั้งผ่านการเขียน

เขียน: ศิวะ พุ่มอรุณภาพประกอบ: อชิรญา ปินะสา และ ฝ่ายสื่อสารองค์กร คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน จิตแพทย์ นักวิชาการ และนักเขียนร่วมเวทีเสวนา “Signal Lost ตัวตนและความสัมพันธ์ที่หายไปในสังคมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง” ชี้ เยาวชนยุคดิจิทัลแม้สื่อสารได้รวดเร็วแต่กลับขาดการเชื่อมต่อกับตนเองและคนใกล้ตัว โครงการ ...

0 %

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    คุ้กกี้ที่เราเก็บไป จะนำไปใช้เพื่อประกอบการวิเคราะห์การอ่านบทความ/ข่าวภายในเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

Save