เรื่อง : กัญญพัชร กาญจนเจตนี
ภาพ : ศิรประภา สีดาจันทร์

อมธ.โวยหลังโดนพรรคเพื่อเพื่อนสภานศ.โหวตคว่ำงบฯ เทศกาลภาพยนตร์ 4 ศูนย์ เผย ต้องการกระจายกิจกรรมไปช่วยธรรมศาสตร์ศูนย์ต่างๆ เพื่อให้ความรู้และความบันเทิงอย่างทั่วถึง ส่วนพรรคเพื่อนเพื่อนชี้ ไม่ผ่านงบฯ เพราะโครงการฯใช้เงินจำนวนมากไปกับค่าเดินทาง แนะควรให้แต่ละศูนย์จัดเองดีกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเหตุการณ์การคว่ำงบฯ โครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติขององค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) จากในที่ประชุมสภานักศึกษา มธ. วันที่ 15 กันยายน 2566 สมัยสามัญ 1 ครั้งที่ 3 ว่าด้วยการพิจารณาอนุมัติกองทุนอุดหนุนกิจกรรมนักศึกษา ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อพรรคเพื่อเพื่อนผู้คว่ำงบฯ โครงการดังกล่าวนั้น
เมื่อวันที่ 16 กันยายน ธีรดนย์ พงษ์ดนตรี กรรมการองค์การนักศึกษาฝ่ายกิจการภายนอก อมธ. ส่วนกลาง พรรคธรรมใหม่ (ในบอร์ดบริหารอมธ.ระดับมหาวิทยาลัย จะมีนายกอมธ. อยู่ตำแหน่งสูงสุดแล้วจึงมีอุปนายกฯ แต่ละศูนย์เป็นส่วนประกอบย่อยลงมาอยู่ในระดับคณะทำงานของนายกอมธ. ซึ่งผลการเลือกตั้งอมธ.ครั้งล่าสุด นายกอมธ.และอุปนายกฯ แต่ละศูนย์ มาจากคนละพรรคกันทั้งหมด และพรรคธรรมใหม่เป็นผู้ชนะเลือกตั้งนายก อมธ. จึงมีบทบาทเป็นอมธ. ส่วนกลาง) และผู้รับผิดชอบโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ กำหนดจะจัดในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 – กุมภาพันธ์ 2567 ที่ มธ.ทั้ง 4 ศูนย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ในการพิจารณางบฯ ครั้งแรก ทางพรรคเพื่อเพื่อนได้มีการติงว่า ชื่อโครงการ หลักการ และจุดประสงค์ของโครงการไม่สอดคล้องกัน รวมทั้งอมธ. ส่วนกลาง ไม่ควรมีบทบาทในการไปจัดกิจกรรมด้วยตัวเองทุกศูนย์ เขาจึงได้กลับไปปรับแก้รายละเอียดกิจกรรมโครงการให้สอดคล้องกับนักศึกษาแต่ละศูนย์มากขึ้น และยืนยันว่าต้องการที่จะกิจกรรมทั้ง 4 ศูนย์ต่อไป พอเข้าสู่การพิจารณางบฯ วาระที่ 2 สมาชิกพรรคเพื่อเพื่อนที่ท้วงติงในการพิจารณางบฯ รอบแรกไม่ได้เข้าประชุม จึงทำให้โครงการผ่านไปถึงวาระที่ 3 ซึ่งพอเข้าสู่การพิจารณา สมาชิกพรรคเพื่อเพื่อนก็ยังคงท้วงติงด้วยเหตุผลตามวาระแรกเช่นเดิม และสุดท้ายพรรคเพื่อเพื่อนก็ชนะเสียงในสภาในการโหวตคว่ำงบประมาณโครงการ
“ในประเด็นเรื่อง อมธ. ส่วนกลางไม่ควรไปทำกิจกรรมทุกศูนย์ ผมมองว่าธรรมศาสตร์มี 4 ศูนย์ (ได้แก่ ท่าพระจันทร์, รังสิต, ลำปาง และพัทยา) แต่กลายเป็นว่าทรัพยากรทุกอย่างมารวมอยู่ที่รังสิต รังสิตเป็นเมืองหลวง มันอาจจะ make sense ในแง่ของงบฯ ในแง่ของจำนวนคน แต่ในฐานะอมธ. ส่วนกลาง ทำไมถึงจะไม่อยากช่วยเหลือเพื่อนอมธ.ศูนย์อื่น เราก็เลยรู้สึกว่าอยากจะเข้าไปช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ ไปจัดกิจกรรมแบบที่รังสิตมี เรานำงบประมาณไปช่วยแบ่งเบาภาระอมธ.แต่ละศูนย์ ไปช่วยจัดกิจกรรมนี้ในแง่ของการเข้าไปกระจายทรัพยากรให้มากขึ้นด้วย” ธีรดนย์กล่าว
ธีรดนย์กล่าวว่า งบฯ ที่อมธ.ส่วนกลางขอไปน้อยมาก (325,000 บาท) เมื่อเทียบกับความต้องการที่จะไปจัดกิจกรรมให้ได้ทั้ง 4 ศูนย์ ซึ่งพรรคเพื่อเพื่อนก็ไม่ได้ติดใจกับงบฯตามที่พูดคุยกันในชั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณางบประมาณและชุมนุม แต่ติดใจเรื่องหลักการ จุดประสงค์และการกระจายอำนาจ ซึ่งตรงนี้พวกเขาก็ไม่เข้าใจ เพราะมองต่างกัน อมธ.เชื่อว่าโครงการนี้ให้ทั้งความบันเทิงไปพร้อม ๆ กับความรู้ได้ และการเดินทางไปจัดกิจกรรมทั้ง 4 ศูนย์เป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ของอมธ. ส่วนกลางในการกระจายงบประมาณ
ธีรดนย์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในขณะเดียวกันมีโครงการลักษณะนี้อีกโครงการคือ Pride Festival ที่จะจัดขึ้นทั้ง 4 ศูนย์ ทางเพื่อเพื่อนก็ได้อภิปรายถึงปัญหาของโครงการนี้เช่นเดียวกับโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ แต่สุดท้ายโครงการ Pride ได้อนุมัติงบประมาณโครงการ มีแค่โครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเพียงโครงการเดียว จาก 2 โครงการของอมธ. ส่วนกลางที่ถูกปัดตก
ด้านเขมราช ศรีแย้ม สมาชิกสภานักศึกษา กมธ.พิจารณางบฯ สภานักศึกษามธ. ศูนย์รังสิต พรรคเพื่อเพื่อน กล่าวว่า ที่พรรคยืนยันที่จะปัดตกการอนุมัติงบประมาณโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ เพราะโครงการมีปัญหาหลายส่วน คืออย่างแรกงบประมาณของโครงการไม่เหมาะสมเพราะมีค่าใช้จ่ายหลัก ๆ อยู่ที่การเดินทาง ไม่ใช่งบฯ เพื่อจัดกิจกรรม อย่างที่สองโครงสร้างงบฯ ที่อมธ. ส่วนกลางจะหยิบไปใช้ผิด เพราะงบประมาณที่พิจารณาอยู่เป็นงบฯ รายหัวจากค่าเทอมนักศึกษาศูนย์รังสิตและศูนย์ท่าพระจันทร์ ทางอมธ. ส่วนกลางมีความแน่ใจได้อย่างไร ว่านักศึกษาทั้ง 2 ศูนย์ยินยอมให้นำเงินไปจัดกิจกรรมให้กับศูนย์อื่น อย่างที่สามคือ เรื่องการกระจายอำนาจความเจริญ พรรคเพื่อเพื่อนมองว่าลักษณะที่ อมธ.ส่วนกลางทำไม่ใช่การกระจายอำนาจ กระจายความเจริญ แต่เป็นการรวมศูนย์อำนาจมากกว่า
“การที่อมธ.ทำไม่ใช่การกระจายอำนาจแต่เป็นการรวมศูนย์อำนาจ เพราะเหมือนอมธ.เป็นคนกำหนดนโยบายกิจกรรมให้ท้องถิ่น ทั้งยังเดินทางไปจัดด้วยตัวเองทุกศูนย์หลายรถบัส นี่มันแบบ Top Down มากกว่า ถ้าคุณต้องการกระจายความเจริญจริง ๆ คุณต้องเอางบฯ ไปให้ท้องถิ่นเขาจัดการเอง เพราะแต่ละศูนย์มีความหลากหลายที่ต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ ให้เขาออกแบบนโยบายและกิจกรรมเอง ถ้าคุณมองว่างบฯ มันน้อย ที่ควรทำคือการผลักดันผ่านผู้บริหารให้ช่วยพิจารณาเพิ่มงบประมาณของแต่ละศูนย์ ต้องทำให้มันยั่งยืน” เขมราช กล่าวและว่า การที่อมธ. ทำโครงการแบบนี้ จะทำให้การกระจายอำนาจที่ว่าไม่ยั่งยืน เพราะอมธ. แต่ละชุดมีอายุแค่ 1 ปี พอเปลี่ยนชุด เปลี่ยนพรรคการทำงานไป นโยบายนี้ก็จะไม่ได้สานต่อ อีกทั้งงบฯ ปีนี้ก็น้อยมาก ทุกกิจกรรมชุมนุมชมรม ก็ถูกตัดงบฯ บางส่วนออกเกือบทุกกลุ่ม อันไหนที่ซ้ำซ้อนกันก็ต้องเลือกตัดบางกิจกรรมออก หลังจากการตัดงบฯออกแล้ว เงินก็ไม่ได้เข้ากระเป๋าสมาชิกสภานักศึกษา แต่กลับเข้าไปอยู่ในกองเงินอุดหนุนนักศึกษาเหมือนเดิม ซึ่งอาจเปิดชุมนุมชมรมอื่นมาเบิกของบประมาณเพื่อใช้สำหรับกิจกรรมอื่น ๆ ต่อไป
เขมราช ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในส่วนของการเป็นโครงการคลายความเครียด เขามองว่าอมธ.มีศักยภาพที่จะทำโครงการให้ยั่งยืนกว่านี้ เพราะเขาไม่เชื่อว่าการจัดงานภาพยนตร์เพียงวันเดียวจะสามารถแก้ปัญหาความเครียดจากการเรียนของนักศึกษาได้ มหาวิทยาลัยมีชุมนุมอื่นที่ให้ความสุขนักศึกษาได้อยู่แล้วอมธ.ควรจัดโครงการที่แก้ไขปัญหาความเครียดระยะยาวมากกว่า และในส่วนที่พรรคเพื่อเพื่อนอนุมัติโครงการ Pride Festival แม้พรรคจะไม่เห็นด้วยกับที่มางบฯ และการที่อมธ.ส่วนกลางต้องไปจัดกิจกรรมเอง แต่เห็นว่าเอกสารโครงการเขียนมาดี มีหลักการชัดเจนว่าจะจัดงานไปเพื่ออะไร และวัดผลลัพธ์ความสำเร็จของโครงการได้อย่างไร รวมทั้งโครงการสอดรับกับนโยบายของมหาวิทยาลัยจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้อนุมัติโครงการดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อมธ.เสนอของบประมาณ โครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ต่อสภานักศึกษา มธ. เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 325,000 บาท โดยเป็นโครงการที่จัดทำขึ้นทั้ง 4 ศูนย์หรือวิทยาเขต ของมหาวิทยาลัย เพื่อจัดฉายภาพยนตร์ เปิดพื้นที่แสดงความสามารถของชุมนุมชมรม โดยได้มีการผ่านชั้นกมธ.พิจารณางบฯ เพื่อขอความเห็นชอบ ซึ่งทางกมธ.พิจารณาปรับลดงบประมาณโครงการดังกล่าวบางส่วนออกจนแล้วเสร็จ กมธ.จึงมีมติเห็นชอบให้ผ่านไปยังสภาใหญ่ ระหว่างการประชุมสภานักศึกษา สมาชิกสภานักศึกษาพรรคเพื่อเพื่อน ได้มีการเสนอขอแปรญัตติไม่อนุมัติโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ มีการถกเถียงกันในที่ประชุม ระหว่างพรรคเพื่อเพื่อนและอมธ. ในที่ประชุมพรรคเพื่อเพื่อนเสนอถึงปัญหาต่าง ๆ ด้านอมธ. ผู้รับผิดชอบโครงการ ยืนยันว่าจุดประสงค์ของโครงการไม่ขัดกันเพราะหากมีการจัดงานจะมีพื้นที่กิจกรรมหลายส่วน ที่นักศึกษาสามารถเลือกเข้าร่วมเพื่อต้องการบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่นักศึกษาต้องการได้ และได้ตั้งคำถามไปยังพรรคเพื่อเพื่อนว่า ทำไมถึงไม่อนุมัติงบฯเพียงโครงการนี้ หากจะอนุมัติควรอนุมัติทุกโครงการ จากนั้นประธานสภาได้เปิดให้สมาชิกสภานักศึกษาลงมติ และท้ายที่สุดมีมติไม่อนุมัติเงินอุดหนุนโครงการดังกล่าว ด้วยผลเห็นชอบตามผู้แปรญัตติ (พรรคเพื่อเพื่อน) 40 เสียงต่อไม่เห็นชอบตามผู้แปรญัตติ 38 เสียงและงดออกเสียง 1 เสียง จนนำมาสู่ความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อเพื่อนและอมธ.เจ้าของโครงการ
ผู้สื่อข่าวได้รวบรวมเหตุการณ์การถกเถียงกันในสังคมออนไลน์ตั้งแต่จบการประชุมสภานักศึกษาจนถึงการหยุดถกเถียงเรื่องนี้ลง ในลักษณะ Timelime ได้ดังนี้
ภายหลังการลงมติไม่อนุมัติงบประมาณโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นในโซเชียลมีเดียตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2566 นำโดย ธีรดนย์ พงษ์ดนตรี ผ่านทางอินสตาแกรม ว่าการลงมติล้มโครงการดังกล่าวของสภานักศึกษาโดยพรรคเพื่อเพื่อนนั้น เป็นการด้อยค่าภาพยนตร์
- 18 กันยายน 2566 ภานุพันธ์ พิทักษ์ อดีตสมาชิกสภานักศึกษา มธ. ศูนย์รังสิต พรรคเคียงคู่โดม ได้เริ่มแคมเปญล่ารายชื่อนักศึกษาเพื่อเรียกร้องให้สภานักศึกษาเปิดเผยผลการลงมติ พร้อมรายละเอียดคำชี้แจ้งเหตุผลส่วนตัวของสมาชิกสภานักศึกษารายบุคคล
- 19 กันยายน 2566 อมธ. ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้สภานักศึกษา เปิดเผยผลการลงมติรายบุคคลพร้อมกับเปิดเผยเหตุผลในการลงมติของสมาชิกสภานักศึกษา รายบุคคลด้วย ในวันเดียวกันนี้ ศุภวุฒิ แพร่แสงเอี่ยม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มธ. ได้ทำการโพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ไล่เรียงการเกิดประเด็นดังกล่าวและร่วมแคมเปญล่ารายชื่อของ ภานุพันธ์ พิทักษ์
- 20 กันยายน 2566 สภานักศึกษา ได้เปิดเผยผลการลงมติรายบุคคลจำแนกตามพรรคที่สมาชิกสังกัด โดยบางรายชื่อได้มีการถูกปิดเอาไว้ ตามแต่การอนุญาตโดยสมาชิกสภานักศึกษารายนั้นๆ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดียว่าเป็นการ “กล้าทำ ไม่กล้ารับ” ของสมาชิกสภานักศึกษาที่ไม่ประสงค์เปิดเผยรายชื่อ
หลังจากนั้น ศุภวุฒิ ได้นำผลการลงมติที่ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะมาเทียบกับบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งของแต่ละพรรคนักศึกษา แล้วเผยแพร่ในช่องทางอินสตาแกรมส่วนตัว โดยคาดเดาว่าสมาชิกสภานักศึกษาที่ปิดรายชื่อไว้คือใคร พบว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาบางคน ไม่ได้เป็นสมาชิกสภานักศึกษาตามที่ ศุภวุฒิ เผยแพร่ออกไป ผู้ที่ถูกกล่าวหาจึงได้พยายามทักท้วงขอให้แก้ไข แต่ทาง ศุภวุฒิ ก็ยังไม่ได้แก้ไขตามการทักท้วงดังกล่าว
- 21 กันยายน 2566 ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นสมาชิกสภานักศึกษาบางท่าน เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจ ทำให้ทาง ศุภวุฒิ โพสต์ชี้แจงในช่องทางอินสตาแกรมส่วนตัวว่า เป็นเพราะสภานักศึกษา ไม่ลงประกาศสืบแทน/แต่งตั้งสมาชิกให้ครบถ้วน จึงทำให้เขาเทียบรายชื่อสมาชิกสภานักศึกษาคลาดเคลื่อน และยืนยันข้อเรียกร้องว่าผลการลงมติและสรุปประชุมของสภานักศึกษาต้องสามารถถูกเผยแพร่ได้
ด้าน ภานุพันธ์ เจ้าของแคมเปญการล่ารายชื่อนักศึกษาเพื่อให้สภานักศึกษาเปิดเผยผลการลงมตินั้น ได้ทำการโพสต์สตอรี่อินสตาแกรม มีเนื้อความโดยสรุปว่า จุดประสงค์คือ เขาต้องการเห็นสภานักศึกษาที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ แต่ไม่ได้ต้องการให้การล่ารายชื่อดังกล่าว นำมาสู้การแขวนประจานเพื่อนนักศึกษา
หลังจากนั้น พรรคเพื่อเพื่อนได้มีการเผยแพร่แถลงการณ์ถึงหลักการและเหตุผลในการลงมติคว่ำร่างงบประมาณโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติว่าโครงการนั้น “มีสัดส่วนงบฯ ที่เบิกจ่ายไม่เหมาะสม” “ที่มางบประมาณไม่ถูกต้อง” และ “ไม่ใช่การกระจายอำนาจอย่างแท้จริง” โดยได้กล่าวปิดท้ายว่า การกระทำในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า หากสภานักศึกษา ปัดตกงบฯ กิจกรรมใดของอมธ.ก็จะเกิดการล่าแม่มดแขวนประจานเช่นนี้ต่อไป
ในวันเดียวกันนี้เองได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ความเป็นกลางทางการเมืองของ ศุภวุฒิ ในฐานะที่ปฏิบัติหน้าที่ประธานกกต. มธ. อยู่
โดยทางพรรคเคียงคู่โดมก็ได้ลงแถลงการณ์ประณาม กกต. มธ. ที่ปล่อยปะละเลยให้สมาชิกแสดงความคิดเห็นโจมตีทางการเมืองก่อให้เกิดความแตกแยกในประชาคม
กกต. มธ. ได้แถลงชี้แจงในประเด็นนี้ว่าเป็นเพียงการแสดงความคิดทางการเมืองในฐานะปัจเจกบุคคลมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ กกต. มธ.
- 22 กันยายน 2566 จากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของนักศึกษาบางส่วน ทำให้คณะกกต. มธ. ได้เผยแพร่ประกาศให้ ศุภวุฒิ พ้นจากตำแหน่งประธานกกต. มธ. และย้ำเตือนเรื่องการระมัดระวังการปฏิบัติตน ในฐานะกกต. เพื่อรักษาหลักการความเป็นกลางและเที่ยงธรรมขององค์กร
ในวันเดียวกันนี้ทางพรรคสมาชิกสภานักศึกษา พรรคโดมปฏิวัติ ได้แถลงการณ์ตั้งคำถามถึงการปฏิบัติหน้าที่ โดยยึดหลักความเป็นกลางทางการเมืองของ กกต.มธ.เช่นกัน
(ในระหว่างสถานการณ์การโต้เถียงกันตั้งแต่วันแรก ธีรดนย์ ผู้รับผิดชอบโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ก็ได้แสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของพรรคเพื่อเพื่อน ผ่าน สตอรี่อินสตาแกรม เสมอ ๆ )
- ปัจจุบันกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ต่อเหตุการณ์นี้ได้ซาลง โดย ธีรดนย์, ศุภวุฒิ และภานุพันธ์ ได้ทำการลบโพสต์ สตอรี่ ไฮไลท์ ในช่องทางอินสตราแกรมส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องการพิจารณางบประมาณโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติออกทั้งหมดแล้ว